ผบ.ตร. เตรียมเปิดแถลงรายละเอียดและตอบคำถามทุกข้อสงสัยเอาผิดผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ ในวันพุธนี้ หากพบนาย ตร.13 นาย ที่ถูกโยกย้ายก่อนหน้านี้มีเอี่ยวในคดีต้องอนุมัติออกหมายจับเพิ่ม ยอมรับ “สารวัตรเอี๊ยด” แอบอ้างเบื้องสูงเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งขึ้นนั่ง รอง ผกก. กองปราบปราม สั่งเร่งสุปสำนวนภายใน 2 สัปดาห์
วันนี้ (26 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีหมิ่นสถาบันฯ ว่า อีก 2 - 3 วัน ตนเองพร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ จะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 ตร. โดยตนจะตอบคำถามทุกเรื่อง อยากให้เก็บทุกคำถามที่สื่อมวลชนอยากถาม และให้เก็บไปคิดเป็นการบ้านให้ถามในวันนั้นเลย
“วันนี้ถาม พรุ่งนี้ก็ถามอีกแล้ว อีก 2 - 3 วัน ให้เตรียมคำถามที่ในใจอยากถาม ผมรู้อยู่แล้วว่าจะถามอะไร เดี๋ยวขอไปทำการบ้านก่อนจะตอบให้จุใจเลย” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวและว่า ที่ต้องรออีก 2 วัน เพราะต้องรอขั้นตอนในการพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่เพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เพราะตนได้มีการกำชับไปแล้วให้ทำให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ สามารถที่จะสรุปสำนวนได้ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง อะไรที่ตนตอบได้ก็จะตอบ อะไรที่ยังไม่ตอบคือการสอบสวนยังไม่เสร็จ ซึ่งขณะนี้ใกล้เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใครและมีจำนวนกี่คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการนำทรัพย์สินที่ยึดได้มาแถลงโชว์เหมือนกรณี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า พยายามทำให้ครบวงจรทีเดียว ถามต่อว่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ก็ในวันนั้นเลย
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้ออกมาพูดว่าทางญาติได้มาติดต่อขอรับศพ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เสียชีวิตภายในเรือนจำ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ออกมาพูดก็ต้องเชื่อท่านอยู่แล้ว เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ซึ่งการเสียชีวิตของผู้ต้องหาจะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี ส่วนจะมีตัวการใหญ่กว่า 3 คนนี้อีกหรือไม่ อยู่ในส่วนของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ที่จะต้องทำการการสอบสวน
ถามต่อว่า นอกจากผู้ต้องหา 3 คนนี้ แล้วยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก อย่างน้อยประมาณกี่คน ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.ท.ฐิติราช ให้ข้อมูลมา ส่วนจะกี่คนนั้นตนตอบไม่ได้ ถามต่อว่าการออกหมายจับครั้งนี้เป็นข้าราชการหรือประชาชน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อยู่ในสำนวนหมดแล้วว่าการสอบสวนของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เป็นอย่างไร ท่านก็ไม่ได้บอกหมด ตนให้โอกาสท่านทำงาน ไม่ไปแทรกแซงอยู่แล้ว เพียงแต่ให้ข้อเสนอแนะบ้าง
เมื่อถามว่าสำหรับการสอบสวนตำรวจทั้ง 13 นายตอนนี้ พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา หรือมีการพาดพิงนายตำรวจระดับสูงบ้างหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า เดี๋ยวอีก 2 - 3 วัน จะมาตอบ ถามต่อว่าพ.ต.ต.ปรากรม ผู้ต้องหาซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่แต่เสียชีวิตไปแล้ว ข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนครบแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เจ้าตัวเสียชีวิตไปแล้วแต่ส่วนที่เกี่ยวข้องอาจจะเป็นลูกน้องหรือคนใกล้ตัว แต่การสอบสวนมีการซัดทอดใครบ้าง ไม่สามารถเปิดเผยได้
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวพันด้วย ในส่วนนี้ ผบ.ตร. มีข้อมูลหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่เรายังได้ไม่ครบ ถามต่อว่าหมายจับที่จะออกอีก 2 วัน น่าจะมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่ด้วยหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ก่อนที่จะออกหมายจับใครต้องมีการหารือกันก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ต.ปรากรม ขอขึ้นตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับ กองบังคับการปราบปราม จริงหรือไม่นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนเห็นจากที่ พล.ต.ท.ฐิติราช ให้ข้อมูลว่าเช่นนั้น ซึ่งการขอตำแหน่งดังกล่าวยังไม่ถึง ก.ตร. เนื่องจากยังไม่ถึงวาระเลย เพราะวาระนายพลเพิ่งส่งไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างต้องทำไปตามลำดับชั้น
ถามว่า พ.ต.ต.ปรากรม ขอตำแหน่งเพียงรองผู้กำกับ หรือตำแหน่งที่สูงกว่านั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คงไม่มีทางที่จะขอตำแหน่งที่สูงกว่านั้นได้ เนื่องจากตำแหน่งปัจจุบันคือตำแหน่งสารวัตร ดังนั้นตำแหน่งต่อไปก็เป็นได้แค่รองผู้กำกับ
เมื่อถามถึงประเด็นที่ถูกจับตามองว่าการที่ พ.ต.ต.ปรากรม ร้องขอตำแหน่งที่สูงขึ้น รวมทั้งจะนำบุคคลนอกมารับราชการนั้น จะมีผลประโยชน์เรื่องการวิ่งเต้นในการรับตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนไม่แน่ใจ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ทราบว่าไปขอให้ใครช่วย และตนยังไม่เคยได้รับเอกสารอะไรเลย และก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีนายตำรวจระดับสูงเข้ามาช่วยเหลือการร้องขอดังกล่าวหรือไม่ ไม่ทราบว่าเข้าช่องทางใด เพราะตนยังไม่เห็นเรื่อง