xs
xsm
sm
md
lg

เร่งขยายผลทีมหมอหยอง ยึดทรัพย์แก๊งหมิ่นฯ สอบ8ตร.ให้ความร่วมมือดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตร.ดำเนินการสอบสวนตำรวจกองปราบ 5 นาย ยันพาดพิงใครไม่มีละเว้น ต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด เผยตำรวจชุดแรก 8 นาย ให้ความร่วมมือดี ถ้าสนิทสนมกันเป็นเรื่องส่วนตัวห้ามไม่ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องพร้อมเรียกสอบในฐานะพยาน ขณะเดียวกันได้ยึดทรัพย์บางส่วนทั้งปืน รถยนต์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์

วานนี้ ( 22 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึง ความคืบหน้า การดำเนินคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 ว่า ขณะนี้รายละเอียดทุกอย่างอยู่ในสำนวนการสอบสวน และถ้าตรวจสอบพบว่า มีใครเกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด โดยไม่มีละเว้น

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนสังกัดกองปราบปราม 5 นาย ที่สั่งไปช่วยราชการที่กองปราบปราม มีความเกี่ยวพันอย่างไรนั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งตนยังไม่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดในคดี ปล่อยให้เขาทำงานกันไปก่อน ซึ่งก็เหมือนกับคดีหมิ่นสถาบันฯ คดีหนึ่งที่ได้ตัวคนร้ายแล้วมีการขยายผลไปว่า ถึงใครอย่างไรบ้าง มีการพาดพิงถึงใคร มีการดำเนินการทั้งหมดอยู่แล้ว อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องก็คือไม่เกี่ยว

สำหรับตำรวจชั้นประทวนสังกัดกองปราบปราม 5 นาย ที่สั่งย้ายไปช่วยราชการที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ประกอบด้วย 1. ส.ต.ต.สายชล ศิลาไศล ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปราม 2. ส.ต.ต.อภิวัฒน์ นาคจีน ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปราม 3. ส.ต.ต.ราชฤทธิ์ พวงไสว ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปราม 4. ส.ต.ต.สารัตน์ แก้วดอนโมง ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปราม และ 5. ส.ต.ต.คมสัน ชงสกุล ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปราม ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 58 เป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 58 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้ลงนามในคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 267/2558 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จำนวน 8 นาย ได้แก่ 1. พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. 2. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. 3. พ.ต.อ.วสุ แสงสุกใส รอง ผกก.2 บก.ป. 4. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. 5. พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง 6. พ.ต.ท.ณัทกฤช พรหมจันทร์ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม 7. พ.ต.ท.พิทยา กล่ำเอม สารวัตร กลุ่มงานถวายความปลอดภัย กองบังคับการตำรวจทางหลวง 8. พ.ต.ท.สุวัฒชัย ศรีทองสุข สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีย้ายตำรวจชั้นประทวน 5 นาย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา กับตำรวจ 8 นาย ที่ถูกสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. ก่อนหน้านี้ ถือว่ามีความใกล้ชิด รู้จักกัน ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การสนิทชิดเชื้อเป็นเรื่องของส่วนตัว ตนไม่ได้ไปห้ามอยู่แล้ว ว่านาย ก. ห้ามสนิทกับนาย ข. มันไม่ใช่ ก็อาจจะเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก และมาเจอกันในนี้

เมื่อถามว่า หากพบความที่เกี่ยวข้องอาจเรียกมาสอบหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อาจจะเรียกมาสอบในฐานะพยาน หรือผู้ให้ถ้อยคำ ถ้าเกี่ยวข้อง ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ถามต่อว่าตอนนี้มีการยึดรถ และทรัพย์สินของผู้ต้องหากลุ่มนี้ไปบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ก็มียึดปืน รถยนต์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนทรัพย์สินเหล่านี้ มีมูลค่าเท่าใดยังไม่มีการแจ้งมา

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การพาดพิง 8 นายตำรวจชุดแรก ที่มีการสั่งย้าย ในส่วนนี้จะมีการสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาตำรวจทั้ง 8 นาย ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เป็นประโยชน์มาก

สำหรับประเด็นที่ซักถามได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจ 8 นาย หรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อยู่ในระหว่างดำเนินการ และเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการสอบถามถึงความสัมพันธ์ว่ารู้จักกับผู้ต้องหาหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ จะต้องถาม ถือเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า นอกเหนือจากตำรวจทั้ง 8 นาย ที่ผู้ต้องหาให้การพาดพิงแล้ว ยังมีการพาดพิงถึงกลุ่มธุรกิจ และประชาชนทั่วไปหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เราก็ต้องดู บางคนเขาไม่รู้ เอกชนบางท่านที่ไม่รู้ ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ถามต่อว่า มีการเรียกในส่วนของภาคธุรกิจ และประชาชนที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนบ้างหรือยัง ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพล.ต.ท.ศรีวราห์ เดี๋ยวท่านคงกำหนดในประเด็นต่างๆ ว่าจะต้องสอบปากคำใครบ้าง อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร. หนักใจหรือไม่กับคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะเคยมีประสบการณ์ในการทำคดีลักษณะนี้มาแล้ว

รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้น และอายัดทรัพย์สิน ของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแล้ว โดยที่คอนโดมิเนียมลองเมซอง ภายในซอยพหลโยธิน 24 ซึ่งเป็นที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม ทั้งนี้คอนโดมิเนียมดังกล่าวมีความสูง 21 ชั้น ด้านหน้าอาคารพบรถยี่ห้อโฟล์คสวาเกน รุ่นสาราเวล สีขาว ทะเบียน ฮพ 2 พบป้าย "ไบค์ ฟอร์ มัม" วางอยู่หน้าคอนโชรถ เสารับสัญญาน 5เสา และเงินจำนวน 50 บาทที่ถูกติดป้ายอายัดติดที่กระจกหน้ารถจาก กก.1 บก.ป. เขียนข้อว่า รถตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบห้ามเคลื่อนย้าย/หรือกระทำการใดๆมีข้อสงสัยติดต่อ กองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราม

นอกจากนี้ภายในตึกลานจอดรถชั้นล่างพบรถยี่ห้อเบ็นซ์ รุ่นs55 สีดำ ทะเบียน ฆล168กรุงเทพมหานคร ,รถเบ็นซ์ รุ่นs class สีดำ ทะเบียน พต6กรุงเทพมหานคร ,รถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเวลฟาย สีดำ ทะเบียน ญศ168กรุงเทพมหานคร ถูกล๊อกล้อขวาหน้า ,รถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคราว สีขาว ทะเบียน 1 กศ 191 กรุงเทพมหานครถูกล๊อกล้อขวาหน้า ,รถยี่ห้อเบ็นซ์ รุ่นSL500 สีขาว ทะเบียน ฐจ 6 กรุงเทพมหานคร,มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติก ยี่ห้อมอสเตอร์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน และมอเตอร์ไซนำขบวน ยี่ห้อ ฮอนด้า สีขวา-ดำ ทะเบียนตำรวจ 52930/52919/52931 ตามลำดับทั้งหมดถูกติดกระดาษ อายัดทั้งหมดนอกจากนี้ได้ทำการปิดคอนโดดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบ และเข้าตรวจสอบเพื่อออายัดทรัพย์ที่อยู่ในห้องพักเลขที่ 1914 ชั้น 19 คอนโดดังกล่าวต่อไป

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ ที่พักของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ภายในบ้านเลขที่ 127/35 พหลโยธินปาร์ค ซ.พหลโยธิน 14 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นก่อนยึดเอกสารหลักฐาน ทรัพย์สินจำนวนหนึ่งที่คาดว่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิดไปทำการตรวจสอบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น