ตร. แถลง “หมอหยอง - สารวัตรเอี๊ยด” หมิ่นเบื้องสูง 13 คดี พฤติการณ์แอบอ้างสถาบันฯ เรียกรับผลประโยชน์จากเอกชน ขอโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช. ครอบครองอาวุธ เหตุเกิดช่วง มิ.ย.- ต.ค. 58 ด้าน ผบ.ตร. ระบุ ผู้ต้องหาได้ยักยอกทรัพย์สินของกลางมาจากคดี “พงศ์พัฒน์” บางส่วนถ่ายโอนให้ญาติ ยืนยัน “ประวุฒิ” อยู่ในราชการ ยังไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องคดีนี้หรือไม่
วันนี้ (28 ต.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษก ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รรท. รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ร่วมแถลงความคืบคดีกลุ่มบุคคลแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมนำของกลางที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักผู้ต้องหามาแสดง อาทิ อาวุธปืนของทางราชการ วิทยุสื่อสาร ชุดพระเครื่อง อัญมณี และอื่น ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งบางส่วนเกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. หลังจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนจากผู้ต้องหา 3 ราย ทั้ง “หมอหยอง” นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ “สว.เอี๊ยด” พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีตสารวัตร ปอท. ซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สืบทราบมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างสถาบันกระทำความผิดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าใกล้ชิดกับเบื้องสูง รวมทั้งการกระทำความผิดสร้างความเสียหายต่อสถาบันและเป็นวงกว้าง ต่อมามีการตั้งคณะกรรมการคดีหมิ่นเบื้องสูง นำโดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พล.ต.ท.ฐิติราช เป็นรองหัวหน้าชุดทำงานสืบสวน ซึ่งของกลางส่วนใหญ่ตรวจยึดมาได้จากห้องพักของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ 10 ลาออกจากรชการนั้น ยืนยันว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ ยังอยู่ในราชการและตนไม่ได้รับใบลาใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อมา พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 ได้แถลงถึงพฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้งหมด 13 คดี โดยมี พ.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ร้องทุกข์ในนามกองทัพ และมีผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่ง “หมอหยอง” นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ และ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ถูกต้องข้อกล่าวหา “ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ถูกตั้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองมี และใช้วิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมเอกสารราชการ และ ใช้เอกสารราชการปลอม และ ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ”
พฤติการณ์การกระทำผิดทั้ง 13 คดี เป็นการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เพื่อขอรับการสนับสนุนการทำสิ่งของจากบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี แล้วเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งทำให้ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินรายละตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4.7 ล้านบาท รวมถึงการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อขอหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช. และคดีการครอบครองอาวุธปืน - มีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับยอนุญาต ปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม เหตุเกิดช่วงเดือน มิ.ย. - ต.ค. 2558
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้มีความคล้ายคลังกับคดีหมิ่นเบื้องสูงของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ซึ่งของกลางทั้งหมดที่ยึดได้จาก นายสุริยัน ผู้ต้องหาครั้งนี้ได้ถูกยักยอกมา และมีถ่ายโอนทรัพย์สินบางส่วนให้กับญาติ ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ 10 เข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้ ยืนยันว่า การเปลี่ยนตัว ทีมโฆษก ตร. เป็นเรื่องการบริหารภายใน เมื่อครบวงรอบก็เปลี่ยน ส่วนการลาไปต่างประเทศก็เป็นสิทธิของ พล.ต.อ.ประวุฒิ อาจจะเป็นการลาไว้ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.สมยุศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็น ผบ.ตร. เพื่อไปพักผ่อน
พล.ต.ท.ศรีวราห์ ยืนยันว่า มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องในคดีหมิ่นเบื้องสูง แต่อยู่ระหว่างรอศาลอนุมัติหมายจับ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นใครเพราะอยู่ในสำนวนคดี ซึ่งหากพยานหลักฐานพาดพิงถึงใครต้องดำเนินคดีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นข้าราชการสังกัดไหน
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 8 นายตำรวจที่ถูกคำสั่งโยกย้ายไปก่อนหน้านี้ มีความเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยงซ่อนเร้นทรัพย์สิน
รายละเอียด การแถลง คำต่อคำ
วันนี้มีการแถลงข่าวเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ตรวจพบว่ามีกลุ่มบุคคลร่วมกันกระทำความผิด โดยมีพฤติกรรมแอบอ้าง หรือแสดงออกในลักษณะต่างกรรมต่างวาระกัน เพื่อให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปมีความเข้าใจว่าตนเองมีความใกล้ชิดกับสถาบันเบื้องสูง และได้เรียกหรือรับผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว รวมทั้งได้กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นๆ อีกหลายฐานความผิด
การกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน และความเสียหายอื่นๆ ในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหารได้ใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลและควบคุมตัวไว้ ซึ่งจากการซักถาม พบว่ามีมูลกระทำความผิดจริง จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนผู้กระทำความผิดดังกล่าว
ต่อมา ผมได้มีคำสั่งที่ 578/2558 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2558 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการรอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้า และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นรองหัวหน้า กับพวก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัด และเชื่อได้ว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยในรายละเอียดนั้นผมได้มอบให้ท่านศรีวราห์ รับผิดชอบเรื่องงานสอบสวน ส่วนท่านฐิติราช รับผิดชอบเรื่องงานสืบสวน ผู้ต้องหามีด้วยกัน 3 คน 1. นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง 2. พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาที่ 3 นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาร์ต
ส่วนของกลางที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าของผู้สื่อข่าวนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นของกลางของสารวัตรเอี๊ยด แผนผังตามที่ปรากฏอยู่ด้านขวามือของผม ไม่ทราบมีสื่อมวลชนท่านใดจะสอบถามหรือไม่
ถาม- มีข่าวว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ
จักรทิพย์- ขณะนี้ยังอยู่ในราชการอยู่ ผมยังไม่ได้รับรายงานใดๆ ทั้งสิ้น
ถาม- อยากให้ชี้แจงรายละเอียดความผิดของผู้ต้องหาให้ชัดเจน
จักรทิพย์- เชิญท่านรองฯ ศรีวราห์
ศรีวราห์- ขออนุญาตให้ท่านวิสูตรชี้แจงโดยสังเขป
วิสูตร- กราบเรียนท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บังคับบัญชา พี่น้องสื่อมวลชน พี่น้องประชาชนทุกท่าน สำหรับรายละเอียดที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้มีการดำเนินคดี จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ มีทั้งสิ้น 13 คดี คดีที่ 1 เลขคดีที่ 96/2558 ประจำวัน ข้อ 4 เวลา 17.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2558 ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหา คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ข้อหาที่ถูกดำเนินคดี ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุ หมู่ 17 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นบริษัทเอกชน พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 และวันที่ 3 กันยายน 2558 ผู้ต้องหาดังกล่าวทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันแอบอ้างเป็นผู้แทนพระองค์ นำการ์ดขอบคุณไปมอบให้กับบริษัทเอกชน
คดีที่ 2 เลขคดีที่ 97/2558 ประจำวัน ข้อ 6 เวลา 18.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม ที่กองปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี พ.ต.ท.สหภูมิ สง่าเมือง พ.ต.ต.นฤทธิ์ ผูกจิตร ผู้ต้องหา คือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก ข้อหาคือ มีอาวุธปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในความครอบครอง ตั้งสถานี มีและใช้วิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม สถานที่เกิดเหตุ คอนโดฯ ลาเมซอง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ทางคดี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 เจ้าหน้าที่ทหารได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตำรวจทำการค้นคอนโดลาเมอซอง พบอาวุธ วิทยุ และรถยนต์ และสิ่งที่ผิดกฎหมาย อยู่ภายในห้องผู้ต้องหา
คดีที่ 3 คดีที่ 99/2558. ประจำวันข้อ 3 เวลา 14.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พ.ต.ท.ปรเมษฐ์ แก้วนาค และบริษัท สามารถเทเลคอม กับพวก ข้อหา มีและตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต สถานที่เกิดเหตุ อาคารใบหยก 2 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2558 ได้มีการตรวจพบเครื่องรับ-ส่งวิทยุแบบรบกวนสัญญาณ ย่านความถี่ UHF ยี่ห้อโมโตโรลา รุ่นแควนตาร์ ของ พ.ต.ต.ปรากรม ติดตั้งอยู่บนชั้นที่ 84 ของอาคารใบหยก 2
คดีที่ 4 เลขคดีที่ 100/2558 ประจำวัน ข้อ 4 เวลา 15.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองปราบปราม ผู้กล่าวหา คือ พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี ผู้ต้องหาคือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในความครอบครอง สถานที่เกิดเหตุ กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2558 ได้มีการตรวจค้นรถโตโยต้า เวนจูรี่ ที่ยึดมาจากคอนโดฯ ลาเมซอง พบอาวุธปืน เอชเค 53 จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุน 80 นัด
คดีที่ 5 คดีอาญาที่ 101/2558 ประจำวัน ข้อ 6 เวลา 16.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองปราบปราม ผู้กล่าวหา พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี ผู้ต้องหา คือ นายศุกร์โข ตามเสรี ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ในทางคดี เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจรถ พบอาวุธปืนขนาด .38 ที่บ้านพักของผู้ต้องหาดังกล่าว
คดีที่ 6 คดีที่ 102/2558 ประจำวัน ข้อ 7 เวลา 16.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่กองปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี ผู้ต้องหาคือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 89/364 หมู่ 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 ผู้ต้องหา กับพวก ได้แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกและรับผลประโยชน์จากภาคเอกชน
คดีที่ 7 เลขคดีที่ 103/2558 ประจำวัน ข้อ 8 เวลา 17.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหา คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ข้อหาคือ ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่ สถานที่เกิดเหตุ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พฤติการณ์คือ ผู้ต้องหา กับพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของและได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 300,000 บาท
คดีที่ 8 คดีที่ 104/2558 ประจำวัน ข้อ 9 เวลา 17.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองปราบปราม ผู้กล่าวหา คือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหาคือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุเป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ในทางคดี เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ผู้ต้องหา กับพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของและได้นรับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท
คดีที่ 9 คดีที่ 105/2558 ประจำวันข้อ 10 เวลา 18.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหาคือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุเป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พฤติการณ์ในทางคดี เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ผู้ต้องหา กับพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของและได้นรับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท
คดีที่ 10 คดีที่ 106/2558 ประจำวันข้อ 11 เวลา 18.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหาคือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุเป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ พฤติการณ์ในทางคดี เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ผู้ต้องหา กับพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของและได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท
คดีที่ 11 คดีที่ 107/2558 ประจำวันข้อ 12 เวลา 18.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหาคือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุเป็นบริษัทเอกชน จ.สมุทรปราการ พฤติการณ์คือ เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ผู้ต้องหา กับพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของและเรียกรับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท
คดีที่ 12 คดีอาญาที่ 108/2558 ประจำวันข้อ 13 เวลา 19.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหาคือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุ บริษัทเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ในทางคดี กล่าวคือ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2558 ผู้ต้องหากับพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของและได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 4,700,000 บาท
คดีที่ 13 คดีที่ 109/2558 ประจำวันข้อ 14 เวลา 20.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2558 กองบังคับการตำรวจปราบปราม ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหาคือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สถานที่เกิดเหตุ สำนักงาน กสทช. แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ในทางคดี ระหว่างเดือนกันยายน 2558 ถึงเดือนตุลาคม ผู้ต้องหา กับพวก ได้แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงขอรับการสนับสนุนหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช. รวมทั้งสิ้น 13 คดี