ASTV ผู้จัดการ - ตร. ค้นรัง “หมอหยอง” และ “สว.เอี๊ยด” พบหลักฐานเชื่อมโยง “พงศ์พัฒน์” นักโทษในคดีหมิ่นเบื้องสูง เร่งตรวจสอบที่มาทรัพย์สิน พบประวัติมีความเชื่อมโยงกับ 8 นาย ตร. ที่ถูกคำสั่งโยกย้ายไปก่อนหน้านี้
รายงานข่าวกรณี จับกุมผู้ต้องหามาตรา 112 3 ราย ประกอบด้วย นายสุริยัน หรือ หมอหยอง สุจริตพลวงศ์ อายุ 53 ปี นักโหราศาสตร์ นายจิรวงศ์ หรือ อาท วัฒนเทวาศิลป์ อายุ 39 ปี เลขานุการของหมอหยอง ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และ พ.ต.ต.ปรากรม หรือ สารวัตรเอี๊ยด วารุณประภา สว.กก.1 บก.ปอท. อายุ 44 ปี ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองมีและใช้วิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม และข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนในคดีหมิ่นเบื้องสูงกำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่พบในที่พักของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นพบทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ รวมทั้งทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. และพวก รวมอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใช่ของกลางในคดีของอดีต ผบช.ก. หรือไม่ ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง เจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารหลักฐาน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก ตรวจยึด ไปตรวจสอบ โดยในเบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานที่มีความชำนาญตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ต.ปรากรม และ นายสุริยัน พบเอกสารความเชื่อมโยงกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ในส่วนของกลางอื่น ๆ ที่ได้ตรวจยึดหลายรายการนั้นได้มีการจำแนกประเภทหาที่มาที่ไป เฉกเช่นกับอาวุธปืนที่ยึดได้ภายในห้องพักของสารวัตรเอี๊ยด ได้ทำการส่งให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ พร้อมประสานกองสรรพาวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำการคัดแยกอาวุธปืน ว่า มีกระบอกไหนที่เป็นของราชการมีทะเบียนตราโล่ติดอยู่ เพื่อให้ตรวจสอบขยายผลว่าใครเป็นผู้เบิกอาวุธดังกล่าว และมาอยู่ในห้องพักของ พ.ต.ต.ปรากรม ได้อย่างไร ทั้งนี้ ในส่วนผลตรวจอาวุธปืนเบื้องต้นพบว่า มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนที่ผิดกฎหมายหนึ่งในนั้น คืออาวุธปืนเอ็มพี 5
ในส่วนของกรณีคำสั่งเปลี่ยนแปลงตัวโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากเดิม พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ 10 เป็น พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา สบ 10 ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ พล.ต.อ.ประวุฒิ ได้ลาราชการเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ถึงการตั้งข้อสังเกตถึงคำสั่งดังกล่าวว่ามีการเปลี่ยนตัวสายฟ้าแลบนั้น ในเรื่องนี้มีรายงานจากนายตำรวจที่ใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.ประวุฒิ ว่า ทางที่ปรึกษา สบ 10 ได้ทำหนังสิอขอลาราชการเพื่อไปพักร้อนกับทางครอบครัวล่วงหน้าก่อนหน้านี้กว่า 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่สมัยที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ทั้งนี้ ทาง พล.ต.ท.ประวุฒิ ได้ลาราชการตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.- 1 พ.ย.
ส่วนของการติดตามทรัพย์สินซึ่งเป็นรถยนต์ของทางราชการนั้น ขณะนี้มีรายงานว่า ในส่วนของรถสายตรวจของกองปราบปราม ได้มีการติดตามคืนได้แล้ว ส่วนรถยนต์อื่น ๆ ของทางการอยู่ระหว่างการติดตาม สำหรับในส่วนกรณีห้องพักของ พ.ต.ต.ปรากรม ในอาคารลาเมซองนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีการครอบครองกว่า 30 ห้อง แบ่งออกเป็นห้องในการครอบครอง 26 ห้อง และห้องที่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ 4 ห้อง ซึ่งกระจายอยู่ตาม ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น 9 ชั้น18 และชั้น 19 ทั้งนี้จากการสอบถามผู้ดูแลตึก ทราบว่า พ.ต.ต.ปรากรม ได้พักอาศัยในคอนโดดังกล่าวมานานแล้ว ส่วนที่ครอบครองห้องพักได้ในราคาถูก เนื่องจากมีความสนิทสนมกับเจ้าของอาคาร
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นคอนโดห้องพักของ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ด้านหน้าคอนโด เดอะรอยัลเพลส 1 เลขที่ 2-2/399 ซอยมหาดเล็กหลวง 1 ถ.ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน โดยคอนโดดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 4 ไร่ เปิดทำการมานานกว่า 30 ปี มีห้องพักให้เช่าพักกว่า 200 ห้อง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา นอกจากนี้ มีรถตู้ตราโล่ จำนวน 1 คันมาจอดไว้ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นาย จากนั้น เวลา 16.30 น. ได้ขับออกไปจากหน้าคอนโดดังกล่าว นอกจากนี้ บริเวณ ซ.ร่วมฤดี 2 อาคารเท็นเฟส ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องพักของนายตำรวจคนดังกล่าว โดยอาคารดังกล่าวสูง 7 ชั้น เบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า อดีต ผบช.ก. ยันกีตาร์ที่ยึดได้ในคอนโด สว.เอี๊ยด เป็นของตนจริง โดยเมื่อช่วงสายวันนี้ทางชุดสืบสวนสอบสวนในคดีหมิ่นเบื้องสูงได้มีการติดต่อขอพบ อดีต ผบช.ก. และพวกที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม เพื่อนำภาพถ่ายของกลางที่ตรวจยึดได้ภายในห้อง พ.ต.ต.ปรากรม มาเพื่อให้ยืนยัน ซึ่งเบื้องต้นทางอดีต ผบช.ก. ได้ยืนยันว่า มีทรัพย์สินบางรายการเป็นของที่เกี่ยวข้องในคดีจริง โดยหนึ่งในนั้นเป็นกีตาร์ยี่ห้อ พี.อาร์.เอส.
โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสามราย ประกอบไปด้วย พ.ต.ต.ปรากรม นายสุริยัน และ นายจิรวงศ์ หรืออาท มีความสนิทสนมไปมาหาสู่กับกลุ่มนายตำรวจทั้ง 8 นาย ที่ถูกไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากเฟซบุ๊กส่วนตัวของ พ.ต.ต.ปรากรม (เฟซบุ๊ก Prakrom Varunprabha) ที่ปรากฏภาพความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มผูต้องหากับนายตำรวจทั้ง 8 นาย