“สารวัตรเอี๊ยด” ตร.ผู้ล้วงข้อมูลนำไปสู่การทลายเครือข่าย “พงศ์พัฒน์”

 
ASTV ผู้จัดการ - เปิดประวัติ “สารวัตรเอี๊ยด” ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง เคยถูกดึงตัวมาช่วยราชการที่ กก.2 บก.ป.ได้รับมอบหมายรวบรวมข้อมูล อันเป็นที่มาของการทลายเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.ในคดีหมิ่นเบื้องสูง

สำหรับประวัติของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สว.กก.1 บก.ปอท.) ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร “คอปส์แมกกาซีน” ฉบับเดือนเมษายน 2558 ระบุว่า พ.ต.ต.ปรากรม มีชื่อเล่นว่า “เอี๊ยด” เป็นลูกชายของ พล.ต.ท.วัฒนชัย วารุณประภา โดยลูกคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นได้รับทุนจากกระทรวงกลาโหมให้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยที่ประเทศอังกฤษ หลังจากสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรจึงเข้ารับราชการทหารในสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่

อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นของการรับราชการตำรวจได้สังกัดศูนย์ข้อมูลข่าวสาร โดยเคยรับหน้าที่เป็นอนุกรรมการจัดซื้อจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ทดแทนระบบคอมพิวเตอร์เดิมที่ล้าสมัย จากนั้นได้เข้าอุปสมบทที่วัดบวรนิเวศฯ โดยช่วงที่บวชเป็นพระภิกษุและลาสิกขาได้ทำหน้าที่ตามเสด็จสมเด็จพระสังฆราช เป็นที่มาของคำเรียกว่า “นายเวรพระสังฆราช” ซึ่งมีหน้าที่คอยดูแลรับใช้ ดูหมายเสด็จ มีนามเรียกขานว่า “นว.รังษี 1” ออกวิทยุสื่อสารประสานงานตำรวจ ต่อมา พ.ต.ต.ปรากรม ได้ถูกกล่าวหาว่าปลอมลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช จากกรณีเรื่องเส้นทางเสด็จของสมเด็จพระสังฆราช จนเป็นสาเหตุที่ถูกให้ออกจากราชการ แต่ภายหลัง พ.ต.ต.ปรากรม พ้นจากข้อกล่าวหาเนื่องจากอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี และผ่าน พ.ร.บ.ล้างมลทิน

กระทั่งวันที่ 22 มกราคม 2558 คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และ พล.ต.อ.สมยศพุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ พ.ต.ต.ปรากรมกลับเข้ารับราชการในสังกัด บก.ปอท.และเพิ่มยศจาก ร.ต.อ.เป็น พ.ต.ต.พร้อมทั้งได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ตรวจสอบเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูงเนื่องจากสำเร็จการศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จากประเทศอังกฤษ มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ จากนั้นได้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ กก.2 บก.ป. โดยได้รับมอบหมายหน้าที่หลักในการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆ อันเป็นที่มาของการทลายเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.ในคดีหมิ่นเบื้องสูง รวมทั้งมีการตรวจค้นและยึดทรัพย์สินจำนวนมากจนเป็นข่าวโด่งดังในช่วงก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ทาง พล.ต.อ.สมยศได้เซ็นคำสั่งไว้เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา วันสุดท้ายก่อนจะเกษียณอายุราชการ โดยให้ พ.ต.ต.ปรากรมมาดำรงตำแหน่ง สว.กก.ปพ.บก.ป.ซึ่งจะมีผลในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ แต่ทาง พ.ต.ต.ปรากรม กลับมาถูกจับกุมคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเสียก่อน