ASTV ผู้จัดการ ตำรวจกองปราบปรามซ้อนแผนรวบชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม เดินสายรีดไถชาวบ้านทั่วภาคใต้ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย สารภาพรวมหัวอ้างตัวเป็นตำรวจขูดรีดเรียกรับเงินแลกตั้งข้อหา
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสมพงษ์ มหาพรหมประเสริฐ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.1 ซ.หมู่บ้านฟ้าใส ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, นายน้อย สุทธิยาภรณ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 ม.7 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง, นายสุวิทย์ วาหะรักษ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/3 ม.4 ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และนายนิกร วรรละออ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/12 ม.4 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บ้านเลขที่ 153/3 ม.5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากแผนยุทธการประจัญบานคนพาลเมืองคอน เมืองลุง ของกองปราบปราม ที่ได้ตรึงกำลังในพื้นที่เพื่อความเรียบร้อย จากนั้นได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใน ต.ท่าช้าง ว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 รายแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามมาข่มขู่รีดไถเงิน จึงได้กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายสมพงษ์ และนายน้อย นั่งอยู่บ้านที่ม้าหินอ่อนบริเวณหน้าบ้าน ส่วนนายสุวิทย์ และนายนิกรนั่งอยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอแวนซ่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 7467 สงขลา ที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงแสดงตัวเข้าดำเนินการตรวจค้นพร้อมขอตรวจสอบบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไม่สามารถนำออกมาแสดงได้ จึงได้ขออนุญาตทำการตรวจค้นก็พบนามบัตรของนายสมพงษ์มีความผิดปกติ เนื่องจากในนามบัตรมีการระบุชื่อสังกัดกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แต่กลับใช้สัญลักษณ์ของกองบังคับการปราบปราม จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นนามบัตรที่ทำปลอมแปลงขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปทำการสอบสวนต่อที่ สภ.บางกล่ำ
ด้านผู้เสียหายกล่าวว่า บ้านของตนนั้นเปิดเป็นร้านขายของชำ โดยก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ขับรถมาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นนายสมพงษ์และนายน้อยได้เดินลงมาจากรถแล้วเข้ามาแสดงตัวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางจะเข้าทำการตรวจสอบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านของมีการขายหวยจึงมาขอตรวจสอบรายการหวย และเรียกเก็บเงิน หากไม่ทำตามจะถูกจับกุมตัวดำเนินคดี ตนจึงขอดูบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจแต่ผู้ต้องหากลับนำนามบัตรที่มีการปลอมแปลงขึ้นมาแสดงให้ดูแทน ตนจึงตัดสินใจโทร.ไปแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการตรวจพร้อมกับจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายให้การรับสารภาพว่าได้แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหายจริง โดยทำมาแล้วในหลายพื้นที่ในภาคใต้หลายจังหวัด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์,และแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการโดยตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ก่อนคุมตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป