ศาลสั่งออกหมายจับ 2 อดีตผู้บริหาร บทม. “ประมวล หุตะสิงห์-ปรีติ เหตระกูล” เบี้ยวนัดฟังคำพิากษาศาลฎีกาคดีแก้ไขราคากลางโครงการปรับปรุงคุณภาพดินสนามบินหนองงูเห่าปี 39 นัดวันฟังคำพิพากษาใหม่ 10 พ.ย. โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกจำเลยคนละ 5 ปี แต่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
วันนี้ (30 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีหมายเลขดำ ที่ อ.4126/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประมวล หุตะสิงห์ อดีตรองผู้จัดการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างเหมา และนายปรีติ เหตระกูล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บทม. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ร่วมกันใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่องค์การหรือบริษัทจำกัด, เป็นพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และ 11จากกรณีเมื่อปี 2539 จำเลยร่วมกันแก้ไขปรับราคากลางการประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุงคุณภาพดินท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ (หนองงูเห่า) ให้สูงขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ดีเมื่อถึงเวลานัด จำเลยทั้งสองไม่ได้เดินทางมาศาล ศาลเห็นว่าจำเลยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงให้ออกหมายจับเพื่อมาฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลเคยเลื่อนนัดการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากนายประมวล จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล แต่วันนี้จำเลยทั้งสองไม่มาศาล จึงต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นครั้งที่สอง
คดีนี้อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2552 ภายหลัง ป.ป.ช.สรุปสำนวนชี้มูลความผิดซึ่งคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า วันที่ 20 ก.ย. 2539 บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ได้ประกาศให้มีการประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุงคุณภาพดินท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ (หนองงูเห่า หรือสนามบินสุวรรณภูมิในปัจจุบัน) โดยนายปรีติ จำเลยที่ 2 มีคำสั่งแต่งตั้งนายประมวล จำเลยที่ 1 กับผู้มีชื่อ รวม 7 คน เป็นคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างเหมา
ต่อมาระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. 2539 วันเวลาใดไม่ปรากฏแน่ชัด จำเลยทั้งสองร่วมกันแก้ไขราคากลางให้สูงขึ้นกว่าราคาจ้างเหมา ด้วยการพิมพ์เอกสารขึ้นใหม่แล้วนำไปสับเปลี่ยนแทนฉบับเดิม โดยที่กรรมการอีก 6 คนไม่ได้รู้เห็นหรือเห็นชอบแต่ประการใด เหตุเกิดที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2554 เห็นว่าจำเลยทั้งสอง มีความผิดตาม พ.ร.บ.พนักงานในองค์การของรัฐฯ มาตรา 11 ให้จำคุกคนละ 5 ปี ต่อมาจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2556 พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสอง ขณะที่อัยการโจทก์ก็ได้ยื่นฎีกาขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง
