ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ให้โอกาสลูกหนี้เอสเอ็มอีเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ แจงต้องเป็นหนี้จากการดำเนินกิจการ พยุงไม่ต้องล้มละลาย
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ในส่วนของการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มให้มีกระบวนการเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยให้ลูกหนี้สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูได้เฉพาะหนี้ที่เกิดจากการดำเนินกิจการ ซึ่งเป็นหนี้กับเจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ส่วนกรณีลูกหนี้ที่เป็นบริษัทจำกัดจะต้องมีจำนวนหนี้ไม่ถึง 10 ล้านบาท โดยลูกหนี้จะต้องทำรายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการ รายละเอียดสินทรัพย์ หนี้สิน และวิธีการฟื้นฟูกิจการ
สำหรับการเพิ่มกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เอสเอ็มอี ถือเป็นการให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ลูกหนี้ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราว ให้ได้มีโอกาสฟื้นฟูกิจการและไม่ตกเป็นบุคคลล้มละลาย เพื่อจะได้รักษาองค์กรทางธุรกิจไว้ และทำให้กิจการของลูกหนี้ดำเนินการต่อไปได้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับการชำระหนี้อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งจะทำให้เกิดผลดีต่อเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจในภาพรวม และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้มแข็ง
ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....(การฟื้นฟูกิจการ) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ได้แก่
1. กำหนดให้เพิ่มหมวด 3/2 กระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
2. กำหนดนิยาม “ลูกหนี้” ให้หมายความถึงลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด ประกอบธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
3. การขอและการให้ฟื้นฟูกิจการ กำหนดบุคคลซึ่งมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการ ได้แก่ 1) เจ้าหนี้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจการซึ่งอาจเป็นคนเดียวหรือหลายคนรวมกัน และมีจำนวนหนี้แน่นอน ไม่น้อยกว่าสามล้านบาท เว้นแต่ลูกหนี้ที่เป็นบริษัทจำกัดต้องมีจำนวนหนี้ไม่ถึงสิบล้านบาท และ 2) ลูกหนี้ไม่อยู่ในสถานะที่จะชำระหนี้ได้ และเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจการ
4. คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน กำหนดแผนฟื้นฟูให้มีรายการอย่างน้อยประกอบไปด้วย เหตุผลที่ทำให้มีการฟื้นฟูกิจการ รายละเอียดแห่งสินทรัพย์ หนี้สิน และภาระผูกพันต่างๆ ของลูกหนี้ หลักการและวิธีการฟื้นฟูกิจการ รวมถึงแนวทางแก้ปัญหาในกรณีขาดสภาพคล่องชั่วคราวระหว่างการปฏิบัติตามแผน เป็นต้น เมื่อศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน ให้ศาลแจ้งคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผนให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบและดำเนินการโฆษณาคำสั่งฯ ในราชกิจจานุเบกษาและหนังสือพิมพ์รายวัน และแจ้งคำสั่งไปยังนายทะเบียนให้ทราบด้วย
5. การขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ กำหนดให้เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้พร้อมสำเนาต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน และให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งสำเนาคำขอรับชำระหนี้ให้ผู้บริหารกิจการโดยไม่ชักช้า และขอรับชำระหนี้ได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม เว้นแต่หนี้ที่เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี หรือหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
6. คำชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ กำหนดให้ภายในเจ็ดวันนับแต่ที่ได้ทราบ คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน ให้ลูกหนี้ยื่นคำชี้แจงฯ โดยต้องแสดงรายการ เช่น กิจการของลูกหนี้ สินทรัพย์ หนี้สิน และภาระผูกพันต่างๆ ที่ลูกหนี้มีต่อบุคคลภายนอก รวมถึงข้อมูลอื่นตามที่ผู้บริหารกิจการเห็นสมควรให้แจ้งเพิ่มเติม เป็นต้น
7. การเพิกถอนนิติกรรมที่ได้กระทำไปแล้ว กำหนดการเพิกถอนนิติกรรมที่ได้กระทำไปแล้ว โดยข้อสันนิษฐานการกระทำของลูกหนี้และผู้ได้ลาภงอกที่ถือว่าเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
8. การดำเนินการภายหลังศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ กำหนดให้แผนฟื้นฟูกิจการซึ่งศาลมีคำสั่งเห็นชอบแล้ว ผูกมัดเจ้าหนี้ ซึ่งอาจขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้และเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ หากมูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม
9. กำหนดให้คำสั่งศาลที่ให้ยกคำร้องขอยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน และยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ ไม่กระทบถึงการใดที่ผู้บริหารกิจการหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กระทำไปแล้วก่อนศาลมีคำสั่งเช่นว่านั้น
10. กำหนดบทกำหนดโทษว่าด้วยกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ เกี่ยวกับการกระทำของเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ผู้ถือหุ้นของลูกหนี้ ผู้บริหารกิจการและผู้บริหารลูกหนี้ที่กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัตินี้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *