“จักรทิพย์” ติงสื่อรีบตีข่าว ทำมือบึ้มพระพรหมหนีรอด

รอง ผบ.ตร. เผยทางการมาเลย์ขอดูความต้องการไทยก่อนตัดสินใจให้ชุดสืบสวนเข้าสอบ 3 ผู้ต้องหาหรือไม่ เชื่อหากได้คุยจะได้ข้อมูลเป็นประโยชน์แน่ เพราะทั้งสามอยู่ในขบวนการขนคนข้ามแดน ได้ชื่อจริงชายเสื้อเหลือง พร้อมระบุชื่อในหมายจับแล้ว ตัดพ้อสื่อรีบเสนอข่าว ทำคนร้ายหนีรอด ไม่เช่นนั้นได้ตัวตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ตอนนี้ต้องมาเริ่มกันใหม่

วันนี้ (17 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวว่า คณะของ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ชุดด้านสืบสวนที่ตนจะส่งไปหาข้อมูลกับผู้ต้องหา 3 คน ที่ประเทศมาเลเซีย ควบคุมตัวอยู่ ยังไม่เดินทางไปมาเลเซียตามที่กำหนดว่าจะเดินทางไปวันนี้แต่อย่างใด ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ กรอบในการพูดคุยเพื่อสอบถามว่าคนที่เราต้องการ ยังอยู่หรือไม่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหา 3 คน ที่มาเลเซียคุมตัว ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นผู้นำพาผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่ เราจึงต้องไปคุยก่อนว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังไม่ชี้ชัดว่าทางการมาเลเซียจะให้เราเข้าคุย หรือพบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนหรือไม่ ทางมาเลเซียขอพิจารณาก่อนว่าทางการไทยต้องการอะไร แล้วเขาให้ได้แค่ไหน ทั้งนี้ หากทั้ง 3 คน มีความผิดในไทยก็สามารถดำเนินการตามวิธีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมีสนธิสัญญาร่วมกันอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีปัญหาโดยเชื่อว่าการพูดคุยกับ 3 ผู้ต้องหาจะมีประโยชน์ ถึงแม้เรารู้ว่าผู้ต้องหาวางระเบิดที่เราตามไม่อยู่ในมาเลเซียแล้ว แต่เราจะได้รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน จากข้อมูลที่ได้รับทั้ง 3 คน ที่ถูกควบคุมอยู่ในขบวนการขนคนข้ามแดนโดยผิดกฎหมายแต่ไม่ทราบว่าทำหน้าที่อะไร

เมื่อถามถึงการตามตัวนายอิซาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามข่าวว่าไปยังประเทศตุรกี ตอนนี้พอมีรายงานข่าวไปว่าผ่านประเทศไหนบ้าง ประเทศนั้น ๆ ตกใจกันหมด

เมื่อถามถึงชายเสื้อเหลือง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่มี ชื่อที่ทราบ ที่ได้จากการบอกเล่าของพยานที่เอาตัวมา เชื่อว่านำสู่การระบุชื่อในหมายจับได้ในอนาคตอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในข้อหาก่อการร้ายได้หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า พรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. ตนจะประชุมภาพรวมคดีนี้ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ทำไปถึงไหนกันแล้ว ดูว่าตรงไหนสวมกันได้ ตรงไหนยังติดขัด จะแจ้งข้อหาก่อการร้ายได้หรือไม่ ขอดูสำนวนก่อนว่าเข้าองค์ประกอบหรือไม่ ในเรื่องสำนวนให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ซึ่งแม่นด้านการสอบสวนดำเนินการไป ทั้งนี้ ตำรวจคุยกับ ปปง. โดยตลอด หาข้อมูลเชื่อมโยงทุกด้านอยู่แล้ว ตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกอย่าง ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าที่มาของทุนใหญ่ในการก่อเหตุครั้งนี้มาจากไหน อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่แจ้งข้อหาก่อการร้าย เพียงข้อหาธรรมดาก็ประสานทางอินเตอร์โพลให้ช่วยติดตามจับกุมได้อยู่แล้ว รวมทั้งประสานทางการทูต และการพูดคุยส่วนตัว เราใช้ทุกมิติ

“ผมไม่รู้ทุกเรื่อง ไม่ใช่ว่าทุกส่วนอยู่ที่ผม แต่ตำรวจทำทุกด้านทุกอย่าง ส่วนของผมคือตามจับคนร้ายให้ได้ อยากขอความร่วมมือสื่อด้วย ตำรวจให้ข่าวเท่าที่ให้ได้ อย่าไปพาดพิงประเทศอื่น นี่ถ้าสัปดาห์ที่แล้วไม่เป็นข่าว ผมว่าจับตัวได้แล้ว เราอุตส่าห์ทำมาขนาดนี้ เราไม่บอกใครเลยว่าอยู่ไหน แต่คนอื่นไปบอก เป็นอย่างนี้มันเสียเวลา เราไม่รู้เขาจะไปไหนต่อ ต้องนับหนึ่งใหม่ โลกมันกว้างเหลือเกิน ผมไม่ใช่เทวดานะบางทีผมก็จับไม่ได้ แต่จริง ๆ สัปดาห์ที่แล้ว มันควรจะได้ตัวแล้ว พอไปบอกกันว่าอยู่ที่โน่นที่นี่ บอกจริง ๆ ว่าผมเสียดาย ผมก็เข้าใจสื่อนะที่มีคนอยากบริโภคข่าวสารเยอะ แต่ทีมงานสืบสวนทำงานยาก เหมือนนกที่ออกจากรังไปแล้ว ไปไหนไม่รู้ ผมเชื่อว่ามือระเบิดเผ่นเลยมาเลเซียไปแล้ว คดีนี้ 1 เดือนมานี้ผมไม่ได้หยุดเลย ไปทุกที่ พิสูจน์ทราบหมด สัปดาห์ที่แล้วผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่สัปดาห์นี้เริ่มกันใหม่ ไม่เป็นไร” รอง ผบ.ตร. กล่าว