สน. พระอาทิตย์
ดังนั้น การออกมาขย่มความเน่าเฟะของ “สตม.” ไม่ผิดที่ใครหลายคนจะคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณไปถึง “ผู้กุมอำนาจ”ตัวจริงใน สตม. เพื่อเป็นการชิงลงมือก่อนเปิดเกมสกัดและล้างบางขั้วอำนาจเก่าในสตม. ไม่ให้สืบทอดอำนาจและเข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มหาศาลๆ อย่างที่ถูกแฉออกมาส่วยเงินสดๆวันละหลายล้าน อีกต่อไป และย่อมมองได้ว่า เผื่อการทำงานสำเร็จ ผลประโยชน์ใต้โต๊ะมากมายมหาศาลยังกองอยู่ แล้วนี่ไม่ใช่รางวัลสำหรับคนชนะเกมหรือ
ในท่าทีที่ชวนติดตามของ”เซียนอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่ปากกล้าออกมาถล่มสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหรือสตม. โดยแอบอิงอาศัยจังหวะลูกติดพันจากคดีระเบิดวินาศกรรมราชประสงค์ ที่ความซวยตกกับตำรวจตม. ในฐานปล่อยคนร้ายหนีออกไปและก่อนหน้านั้นเปิดด่านให้ผู้ก่อการร้ายเข้าประเทศผิดกฏหมาย
จึงเป็นเวลาที่เหมาะเจาะกับการออกมาเดินแผนเปิดโปงความชั่วร้ายเลวทรามแฉพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง “ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” หรือ “ตม.” ลากไส้กี่ขดๆออกมาประจาน ทั้งรับส่วยต่างด้าว รับผลประโยชน์การเข้า-ออกประเทศ อำนวยความสะดวกประเภทต่างๆ และอีกสารพัดวิธีการงาบส่วย
การที่สมยศทิ้งระเบิดปรมาณูบอมบ์ซ้ำตม.แบบล้างผลาญครั้งนี้นั้น ด้านหนึ่งมีเสียงชื่นชม แต่อีกด้านถูกมองเป็นแค่กลยุทธุ์ “ดำกินดำ” ที่มีแผนไม่ได้เพียงแต่พุ่งเป้าที่ตัว “บิ๊กดริ๊ง”พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) ยังต้องการแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ส่งสัญญาณไปถึง “ผู้กุมอำนาจ”ตัวจริงใน สตม.
จะเห็นว่า หลังจากโวยวายจนกลายเป็นประเด็นร้อนกระแสสังคมตอบรับ แต่เมื่อสมยศถูกซักถามก่อนเกษียณอายุราชการวันที่30 กันยายนนี้ จะมีคำสั่งย้าย “ผบช.สตม.” พ้นจากตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กลับรีบชิงปฏิเสธทันควัน “คงยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะการจะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน”
ทั้งๆที่ตามพฤติกรรม “สตม.” ที่”บิ๊กอ๊อด” แฉรายวัน หรือทำหนังสือบันทึกลับด่วนที่สุด ถึง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และ”บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รายงานพฤติกรรมรับส่วย รับสินบน รับผลประโยชน์ของข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองละเอียดยิบ
หากเป็น “คนนอก” หรือ “ตำรวจ”อื่นๆ ออกมาแฉยับขนาดนี้ ก็อาจจะมองในมุมใส่ใคร่ กล่าวหา ทำลายองค์กร “สตม.” หรือดิสเครดิต “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” แต่คนที่ออกมาตีแผ่ครั้งนี้คือ “ผู้นำตำรวจ” เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทุกข้อมูล ทุกคำพูด ทุกปลายปากกาที่เขียนอธิบายความ หากไม่มีมูล ไม่มีข้อเท็จจริง ระดับ “ผบ.ตร.” คงไม่ออกมาเล่นหนักขนาดนี้
แต่พอถูกถามถึงการสั่งย้าย สั่งช่วยราชการ “ผบช.สตม.” ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานนี้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องหรือร่วมมือผลประโยชน์กับพฤติกรรมลูกน้องที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม แต่ในทางปกครองการปล่อยปละละเลย ไม่กวดขัน พฤติกรรมผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในกฎระเบียบ ก็เพียงพอแล้วที่จะเด้ง “บิ๊กดริ๊ง” พ้นจาก “สตม.” เป็นการชั่วคราว เปิดโอกาสให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเฉกเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆที่เกิดขึ้นกับตำรวจหน่วยอื่นๆ
นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าการออกมาขุดไส้เน่า “สตม.” ออกมาประจานครั้งนี้ เป็นการถล่มเป้าหมายที่มี“พล.ต.ท.ศักดา” เป็นเบี้ยหน้าด่านเท่านั้น ไม่ตัดหัวคั่วแห้งพล ต. ท. ศักดา เพราะหากจะฆ่า “บิ๊กดริ๊ง”เพียงลำพัง จริงๆ ก็คงต้องมีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา สกัดการเติบโตของคนที่ถูกมองว่าการทำงานบกพร่อง ไม่ให้ขึ้น “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ตามโควตาที่ได้อานิสงส์เพิ่มมาจากการเปิดเก้าอี้ “ที่ปรึกษา(สบ10) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ” เทียบเท่า รองผบ.ตร. รองรับ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นดำรงตำแหน่ง จนทำให้เก้าอี้ “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ที่ปีนี้ว่างเพียง 11 เก้าอี้ เพิ่มเป็น 12 เก้าอี้ และพอดีกับ อดีตนายเวรพล.ต.อ.พัชรวาท ที่อยู่ลำดับที่ 12 ในระนาบ “ผบช.” เลื่อนขึ้นได้ตามกฎระเบียบ ก.ตร.พอดิบพอดี
แต่พล. ต. ท. ศักดาก็อ่วมอรทัยไปแล้ว ถูกกระหน่ำใส่จนโชกเลือด แม้ไม่ถูกเอาผิดหรือสกัดขึ้นผู้ช่วยผบ. ตร. แต่ตราบาปนี้จะติดตัวไปกับเครื่องแบบตำรวจของเขายากจะลบทิ้งได้ จะถูกงัดขึ้นมาใช้ทำลายชื่อเสียงอีกเมื่อไรก็เละเมื่อนั้น
ดังนั้น การออกมาขย่มความเน่าเฟะของ “สตม.” ไม่ผิดที่ใครหลายคนจะคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณไปถึง “ผู้กุมอำนาจ”ตัวจริงใน สตม. เพื่อเป็นการชิงลงมือก่อนเปิดเกมสกัดและล้างบางขั้วอำนาจเก่าในสตม. ไม่ให้สืบทอดอำนาจและเข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มหาศาลๆ อย่างที่ถูกแฉออกมาส่วยเงินสดๆวันละหลายล้าน อีกต่อไป
และย่อมมองได้ว่า เผื่อการทำงานสำเร็จ ผลประโยชน์ใต้โต๊ะมากมายมหาศาลยังกองอยู่ แล้วนี่ไม่ใช่รางวัลสำหรับคนชนะเกมหรือ สาธุชนย่อมเห็นได้
จึงต้องเดินหมากตีแสกหน้า เนื่องการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพล” ประจำปีที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยเฉพาะเก้าอี้ “ผบช.สตม.” ที่มีกระแสเสียงภายใน “กรมปทุมวัน” หลังอุ้มสม “พล.ต.ท.ศักดา” ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ไปแล้ว แต่ก็ยังจะมีการวาง “ทายาท“ ซอยสวนพลู ตามสัญญาณจากน้องชายบิ๊กบราเธอร์ แห่งฟาร์มโชคชัย 4 ที่ส่งออกมา
ตามรายชื่อโผแต่งตั้ง “นายพล” ที่หลุดรอดออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่ากี่โผๆ เก้าอี้ “ผบช.สตม.” ก็มีชื่อ พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 สายตรงน้อยชายบิ๊กบราเธอร์ แห่งฟาร์มโชคชัย 4 ขยับเข้ามานั่งเก้าอี้ “ผบช.สตม.” ตลอด
แม้ระดับ ทางสตช. จะพยายามส่ง “บิ๊กแหม๋ว”พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ก. นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่น”บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ ผบ.ตร. หรือ”บิ๊กปั๊ด”พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น. นรต.36ซึ่งทั้งคู่เป็นมือทำงานของว่าที่ ผบ.ตร. ก็ยังไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปนั่งเบอร์ 1ซอยสวนพลูได้เสียที
ถ้าเป็นเช่นนี้ “สตม.” ก็ยังจะตกอยู่ในวังวนเดิมๆ เหมือนที่”บิ๊กอ๊อด”เจอมาตลอด 1 ปีผ่านมา คือ ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ที่ส่งเป็นนโยบายลงไปจาก “กรมปทุมวัน” ไม่ได้รับการสนองตอบจากซอยสวนพลู เพราะรับนโยบายตรงจาก “โชคชัย4” เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญ”พิทักษ์1”ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะแค่เงื้อมือยังไม่ทันทำอะไร กระแสเสียง“เก้าอี้”สั่นคลอนก็กระหึ่มออกมาตลอดเวลา
ห้วงเวลาอีกไม่ถึง 15 วัน ก่อนเกษียณราชการวันที่ 30 ก.ย.นี้ จึงเป็นจังหวะพอเหมาะพอดีในการ “ทิ้งบอมบ์” โดยที่ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล “เก้าอี้” อีกแล้ว เพื่อให้ “แดนสนธยา” แห่งสำนักปทุมวัน กลับมาขึ้นตรงกับผู้บริหารภายใน”กรมปทุมวัน” ไม่เป็นรัฐอิสระไปขึ้นตรงกับ “ผู้มีอำนาจ”ด้านนอก ผลประโยชน์ก็จะตกอยู่ในมือคนในเสียที และใครยอมลงทุนสู้ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังก็ย่อมมีเอี่ยวด้วยไม่มากก็น้อย?
หมาก “ตีปลาหน้าไซ” หนนี้จะสัมฤทธิ์ผล ปลดโซ่ตรวนวังวนแดนสนธยาได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับนายกฯตู่ ผู้มีอำนาจเหลืออำนาจจะกล้าเคลียร์ปัญหานี้ขนาดไหน จะเดินตามเกมดำกินดำของสมยศแล้วร่วมถ่มหินลงบ่อหรือไม่
เกมนี้ “บิ๊กอ๊อด” ทิ้งหมัดสุดตัว เดินเครื่องเต็มสูบไปแล้ว บทสรุปจะออก “หมู่” หรือ “จ่า” จับตาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ “นายพล”ประจำปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า...ได้รู้กัน.