“พล.ต.อ.สมยศ” เผย น.ส.วรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ ที่ออกหมายจับ ได้รับรายงานติดต่อขอมอบตัวแล้ว พร้อมเด้ง ตม.ปล่อยปละละเลย ทำให้มีการลักลอบหลบนีของชาวต่างชาติ สอบปมรับเงินช่วยเหลือหลบเข้าประเทศ ส่วนคดีระเบิดคืบหน้าไปเยอะ
วันนี้ (1 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ต่อเนื่องระเบิดท่าน้ำสาทร ที่ต่อมามีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย และควบคุมตัวชายต่างชาติ ต้องสงสัยพร้อมวัตถุประกอบระเบิดจำนวนมากว่า วันนี้ตนได้ลงนามคำสั่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ด่านอรัญประเทศ มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ด้วยเหตุผลที่ปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายรัฐบาล ปล่อยให้มีชาวต่างชาติ แรงงานผิดกฎหมายเล็ดลอดเข้ามาในประเทศ
“จะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดหรือไม่ ยังต้องสอบสวนกัน แต่ว่าในเบื้องต้นมีข้อมูลจากการสืบสวนจากปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ ตม.ด่านอรัญประเทศ ปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ ทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้มีการลักลอบ มีการหลบหนีของชาวต่างชาติ แรงงานที่ผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ จึงจำเป็นต้องให้ผู้รับผิดชอบที่ส่วนดังกล่าวเข้ามาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ในเบื้องต้น แต่หากมีข้อมูลว่ารู้เห็นเป็นใจ ช่วยเหลือ หรือมีผลประโยชน์กับขบวนการค้ามนุษย์ หรือแรงงานผิดกฎหมายก็จะต้องย้ายออกนอกพื้นที่” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่ากลุ่มผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดให้เงินก้อนหนึ่งแก่ตำรวจ ตม. จ.สระแก้ว แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือ ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังสรุปหรือพูดไปไม่ได้จนกว่าจะมีการสอบสวนและตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อนว่ามีการกระทำเช่นว่านั้นหรือไม่
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า การสืบสวนและสอบสวนในคดีระเบิดคืบหน้าไปมาก แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ “คืบหน้าไปเยอะ สามารถทำให้เราออกหมายจับคนได้เพิ่มขึ้น หรือแม้กระทั่งจับกุมผู้ต้องสงสัยได้มากขึ้น การจะออกหมายจับใครอีกหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ตอบไม่ได้จะออกหมายจับได้ไหม เมื่อไหร่ ถ้าเราสามารถขยายผลได้ มีพยานหลักฐานเพียงพอ ก็นำเสนอขออนุมัติหมายจับต่อศาล หรือสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาเพียงพอได้ก็ต้องดำเนินการ” พล.ต.อ.สมยศกล่าว
เมื่อถามถึงการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลและสัญชาติของชายต่างชาติที่จับกุมได้ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในการสอบสวน ขณะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของทหาร ยังไม่ได้รับรายงาน ตนจะทราบก็ต่อเมื่อมีการส่งมอบตัวชายดังกล่าวให้แก่ตำรวจ เช่นเดียวกันกับการตรวจสอบสัญชาติ พาสปอร์ต เอกสารอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า สำหรับน.ส.วรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคนไทยที่ถูกออกหมายจับ ได้รับรายงานว่ามีการติดต่อจาก น.ส.วรรณา ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะเข้ามอบตัว หรือเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีการควบคุมตัวแล้วหรือไม่ เท่าที่ตนทราบ น.ส.วรรณาเป็นผู้เปิดห้องเช่า ตนยอมรับว่าไม่ลงลึกในรายละเอียดการสืบสวนสอบสวน ไม่อยากรู้เพราะเดี๋ยวจะเผลอพูด จึงไม่อยากรับรู้ในรายละเอียด
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าคดีและรับทราบนโยบาย ข้อชี้แนะ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่าหากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ว่าจะหน่วยใดทั้ง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท้องที่ หากมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ ช่วยเหลือ สนับสนุน หรือรับผลประโยชน์ ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น ไม่ใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ ถ้าเป็นตำรวจตนจะต้องดำเนินการ ยืนยันว่าในช่วงเวลาที่เหลืออีกกว่า 20 วันก่อนเกษียณ ตนพร้อมที่จะดำเนินการออกคำสั่งให้มาช่วยราชการ หรือแม้แต่ขออนุญาตสั่งย้าย ถ้ามีข้อมูลก็พร้อม มีคำสั่งและย้ายทันทีโดยใช้มาตรฐานเดียวกัน ตรงไปตรงมา ไม่มีการกลั่นแกล้งให้ร้ายป้ายสี เพราะสิ่งที่ทำต้องมีพยานหลักฐาน มีข้อมูล
วันเดียวกัน ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดใน กทม.ว่าคดีมีความคืบหน้าและมีประโยชน์มากในคำให้การของนายบิลา มูฮัมหมัด ที่ถูกจับกุมได้ในอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอกและควบคุมตัวไว้ที่พัน.ร.มทบ.11 และเชื่อว่าคำให้การดังกล่าวจะทำให้การสืบสวนขยายผลสามมารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด แต่ในส่วนรายละเอียดการให้ปากคำไม่สามารถเปิดเผยได้ ทุกอย่างอยู่ในสำนวน
ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กองปราบปรามจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ประสานด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว รวมทั้งประสานไปยังทางการกัมพูชา ส่วนผลเป็นอย่างไรนั้นไม่สามารถชี้แจงได้ เพราะยังไม่ได้รับรายงาน ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่านายบิลา มูฮัมหมัด ที่ถูกจับกุมมาแล้วนั้นคือชายเสื้อฟ้าที่ปรากฏตามกล้องวงจรปิดที่สาทร
ส่วนข่าวที่ว่า น.ส.วรรณาอยู่ที่ประเทศตุรกีนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพิ่งทราบจากสื่อ แต่ตนได้รับรายงานเพียงว่า น.ส.วรรณาจะติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม ที่ น.ส.วรรณาได้บอกผ่านสื่อต่างประเทศว่าขอให้ทางการและเจ้าหน้าที่จัดส่งตั๋วเครื่องบินมาให้เพื่อที่จะเดินทางเข้ามอบตัว ตนมองว่า น.ส.วรรณาควรจะติดต่อขอเข้ามอบตัวเอง ไม่เช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่คงต้องจัดหาตั๋วให้ผู้ต้องหาทั้งหมด
พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า ในส่วนของการออกหมายจับผู้กระทำควาผิดเพิ่มหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังคงยืนยันอยู่ที่ 4 รายตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างไนั้น ตนยังไม่ทราบ ทราบเพียงที่ศาลออกหมายจับแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ทางตำรวจจะเปิดเผยเพียงหมายจับที่ศาลได้ดำเนินการออกหมายจับเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคนร้ายอาจไหวตัวและหลบหนี ในส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพกล้องวงจรปืดบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงว่ามีชายเสื้อเชิ้ตสีขาวสะพายเป้สีดำนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ ยอมรับว่าการเสนอข่าวของสื่อออนไลน์ทำให้ตำรวจทำงานยาก ส่งผลให้ข้อมูลสับสนในการที่จะติดตามจับกุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประสานเพื่อติดตามชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้าตามภาพวงจรปิดที่หลบหนีไปประเทศกัมพูชาหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่อง เอาเป็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานมากกว่าที่เป็นข่าว ในส่วนกรณีที่ปรากฏคำสั่งโยกย้ายข้าราชตำรวจ สน.มีนบุรี สน.หนองจอก ไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.น.3 นั้น ตนมองว่าเป็นดุลพินิจของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้คนนอกราชอาณาจักรเข้ามาอาศัยในพื้นที่จำนวนมากและก่อให้เกิดปัญหาตามมาโดยที่ไม่ได้มีการควบคุม แต่ในส่วนคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ตม.สระแก้ว เป็นดุลพินิจของตนที่เล็งเห็นว่าปล่อยปละละเลยให้ต่างชาติเข้าออกประเทศโดยไม่ดูแลหรือรับประโยชน์ ทั้งนี้ หากสอบสวนไม่พบว่ามีการรับประโยชน์หรือได้ประโยชน์ก็จะโดนเรื่องการละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวสอบถามประเด็นเรื่องเงินรางวัลนำจับจะมีการจัดสรรอย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนตั้งใจที่จะนำเงินของตนและเพื่อนนักธุรกิจ มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานที่สามารถจับกุม ติดตามคนร้าย คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะให้ใครอย่างไร จึงต้องให้ผ่านทางผู้บังคับบัญชาในแต่ละหน่วย เพื่อจัดสรรต่อไป
“ยืนยันว่าการติดตามจับกุมคนร้ายในครั้งนี้เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแท้จริง เนื่องจากเห็นการทำงาน ความทุ่มเทมาโดยตลอด แต่ถึงแม้ไม่มีเงินรางวัลนำจับ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันอยู่แล้ว รางวัลนี้ให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานเท่านั้น” ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่า พบข้อมูลว่า น.ส.วรรณาได้เดินทางออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเดินทางจาก จ.ภูเก็ต ไปเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่อง ไม่อยากให้ข้อมูลกลัวจะผิดพลาด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำให้การของผู้ต้องสงสัยรวมถึงพยานนั้นตนไม่อยากให้สื่อด่วนสรุป หรือเชื่อที่พวกเขาพูดว่าเป็นความจริง ต้องให้ทางการตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งพยานหลักฐานเสียก่อน อย่างเช่นกรณีของเท็กซี่ที่มีการให้สัมภาษณ์สื่อ ก็พูดอย่างหนึ่ง แต่ให้การอีกอย่างหนึ่ง เพราะการก่อเหตุในครั้งนี้ย่อมบ่งบอกว่าผู้ก่อเหตุไม่ธรรมดา ส่วนการตรวจดีเอ็นเอเป็นหน้าที่ของกองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าตรงกับผู้ต้องสงสัยหรือไม่
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวว่า ขณะนี้การออกหมายจับผู้ต้องหามีเพียงแค่ 2 คน คือ ผู้หญิง 1 รายคือ น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ อายุ 27 ปี และชายผู้ต้องหาตามภาพสเกตช์ 1 ราย อีกหนึ่งรายยังไม่ทราบชื่อ ส่วนกรณี น.ส.วรรณาไม่ทราบว่าขณะนี้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศใดและไม่ขอพูดเรื่องสัญชาติ ซึ่ง น.ส.วรรณาได้ประสานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับสถานทูตประเทศตรุกีไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา