xs
xsm
sm
md
lg

“ประวุฒิ” เผยพบข้อมูลผู้ต้องหาระเบิดราชประสงค์ - สาทร ติดต่อแท็กซี่หลายครั้ง เบื้องต้นยังไม่รับสารภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTV ผู้จัดการ - พล.ต.ท.ประวุฒิ โฆษก ตร. ระบุผู้ต้องหายังไม่รับสารภาพ พร้อมสั่งกู้ข้อมูลมือถือย้อนหลังติดต่อใครบ้าง เผยแท็กซี่ติดต่อผู้ต้องสงสัยหลายครั้ง จัดชุดเกาะติดเพื่อนร่วมแก๊ง


วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมชายผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 1 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่บริเวณราชประสงค์ และสาทร ได้ที่ย่านหนองจอก ว่า ในเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่มณฑลทหารบกที่ 11

โดย พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ให้การรับสารภาพ และยังไม่สามารถระบุชื่อรวมถึงสัญชาติที่แท้จริงได้ โดยให้การว่ามาจากต่างประเทศประเทศหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดหาล่ามทั้งภาษาอังกฤษ และจัดหาล่ามที่ภาษาใกล้เคียงกับผู้ต้องหาแล้ว แต่ยังเร็วไปที่จะระบุได้ว่าผู้ต้องหารายนี้ทำหน้าที่อะไร โดยคาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดขุดเฝ้าติดตามกลุ่มนี้แล้ว รวมทั้งคาดว่าน่าจะมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลดีเอ็นเอของผู้ต้องหาไว้แล้ว รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรถสามล้อรับจ้าง และรถแท็กซี่ในวันเกิดเหตุ ที่สำคัญคือ การตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ย้อนหลังอย่างละเอียดโดยมีการถอดชิปเพื่อสืบหาข้อมูลการโทรศัพท์ ซึ่งสามารถกู้ข้อมูลการติดต่อย้อนหลังได้ แม้จะมีการลบไปแล้ว และมีการส่งของกลาง อาทิ วัสดุประกอบระเบิดที่ตรวจยึดได้วานนี้ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งพบว่าลักษณะการประกอบระเบิดเป็นรูปแบบเดียวกับทั้งราชประสงค์ และสาทร และจากหลักฐานที่พบสันนิษฐานได้ว่าเตรียมก่อเหตุอีกหลายจุด

ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นความแค้นส่วนตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้มีการกวาดล้างจับกุมชาวต่างชาติ และขณะนี้ได้ประสานตำรวจต่างประเทศในการจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่อาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ขณะที่การเรียกสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ในวันเกิดเหตุหลายครั้ง เนื่องจากการให้การสับสน และยังไม่ตรงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งพบว่าข้อมูลทางโทรศัพท์ของคนขับแท็กซี่ มีการติดต่อกับผู้ต้องสงสัยหลายครั้ง ทั้งนี้ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ซึ่งได้สั่งการไปอีกมากกว่า 10 ประเด็น อาทิ การเข้าปิดล้อมตรวจค้นจุดอื่น ๆ เพิ่มเติม การวิเคราะห์ข้อมูลจากพยานหลักฐานที่ได้ ส่วนจะออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น