ASTV ผู้จัดการ - ผู้รับเหมายกพื้นอุโบสถวัดต้นเชือก นนทบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อให้ปากคำ เผยเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดอุโบสถถล่มมีคนงานเสียชีวิต 1 ราย ยึดอาชีพนี้มากกว่า 10 ปี ยอมขายที่ดินชดใช้สร้างอุโบสถหลังใหม่
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายณรงค์ฤทธิ์ หลักทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านที่ 143 หมู่ 2 ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ผู้รับเหมาดีดยกอุโบสถ วัดต้นเชือกจนเป็นเหตุอุโบสถถล่มเสียหายทั้งหลัง ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมน ผกก.สภ.บางแม่นาง พร้อมนางดอกรัก หลักทอง มารดา เพื่อให้ปากคำจากกรณีดังกล่าว
จากการสอบสวน นายณรงค์ฤทธิ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 ชม. ตนได้เดินทางไปทำธุระที่ จ.ชลบุรี พอทราบข่าวตนก็รีบเดินทางไปที่ จ.สกลนคร เพื่อไปพบญาติของผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ตนประกอบอาชีพนี้มากว่า 10 ปี รับงานเหมาก่อสร้างยกโบสถ์มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ตนไม่เคยคิดที่จะหลบหนี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครรู้ล่วงหน้า และตนก็ไม่มีเจตนาที่จะทำให้มันเกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจมาก ส่วนสาเหตุตนทราบจากลูกน้องว่าดินเกิดทรุดตัวลงมา ในขณะที่ยกอุโบสถเหลืออีก 40 ซม. จะถึงเป้าหมาย สำหรับผู้เสียชีวิตขณะเกิดเหตุทราบว่าได้เข้าไปเชื่อมเหล็ก ด้านใต้อุโบสถ วันนี้ตนได้เข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตนได้เข้าไปไกล่เกลี่ยรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหาย ตนต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครั้งนี้เป็นการสูญเสียมากเหลือเกินจนบรรยายไม่ถูก สำหรับความรับผิดชอบตนจะนำโฉนดที่ดินไปขายเพื่อนำมาซ่อมแซมอุโบสถที่พังลงมา
พ.ต.อ.กองสรร เปิดเผยว่า วันนี้ผู้รับเหมาได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้หนีไปไหนแต่ได้เดินทางไปดูผู้เสียชีวิต วันนี้ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อสอบปากคำถึงวิธีการทำงาน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา ต้องรอผลจากกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมวิศวกรเข้าตรวจสอบว่าสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด
ต่อมาที่วัดต้นเชือกได้มีการประชุมระหว่างกรมโยธาธิการและผังเมือง (ส่วนกลาง) นายประเสริฐ ผลัดวัด นายกเทศมนตรีตำบลบางใหญ่ วิศวกรกองช่างเทศบาลตำบลบางใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง และกรรมการวัดต้นเชือก หารือและวางแผนเกี่ยวกับการรื้อถอนอุโบสถที่ถล่ม โดยในขั้นตอนแรกต้องมีประกาศเป็นเขตห้ามเข้า และทำการขออนุญาตรื้อถอนก่อเข้าดำเนินการ 30 วันตามกฎหมาย โดยวัดเป็นผู้ดำเนินการ จากนั้นจะมีการวางแผนรื้อถอนที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน เพราะการรื้อถอนค่อนข้างลำบาก เนื่องจากยังมีองค์พระอยู่ด้านในจำนวน 3 องค์ ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปจากกรรมการวัดว่าจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ต่อไป