“พ.ต.ท.บรรยิน” มอบตัวคดีปลอมเอกสารโอนหุ้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยัน “ชูวงษ์” แก้ไขเอกสารเอง ขู่ฟ้องครอบครัวชูวงษ์-พนักงานสอบสวน ขณะเดียวกันยังได้นำปากกา frixion ball slim 038 มาโชว์สื่อเพื่อแสดงให้เห็นว่าปากกาดังกล่าวสามารถเขียนและลบได้ในด้ามเดียวกัน ยันปกติ “ชูวงษ์” จะใช้ปากกาลักษณะนี้ทำธุรกรรมเป็นประจำ ย้ำขณะที่มีการเขียนและลบข้อความจากจำนำหุ้นเป็นโอนหุ้น ตนนั่งอยู่กับนายชูวงษ์เพียงสองคนเท่านั้นจึงไม่มีบุคคลใดรู้เห็นด้วย
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.560/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สรายุทธ สงวน รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป .เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุนกิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวก่อนเข้ามอบตัวว่า คดีนี้ตนทราบจากสื่อมวลชนว่าถูกพนักงานสอบสวน บก.ป.ออกหมายจับซึ่งไม่ได้เกินความคาดหมายตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเรื่องของการโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้นยืนยันว่าเป็นการดำเนินการของนายชูวงษ์เอง ตนไม่ได้ประโยชน์อะไร และอยากตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ ทาง บก.ป.ก็เร่งรีบอายัดหุ้นทันที แล้วก็มารวบรวมพยานหลักฐานมันก็เป็นปัญหา ดังนั้นตนขอเรียนให้ทราบว่าวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้น พยานที่ให้ปากคำในคดีนี้เป็นพยานฝ่ายเดียว เป็นพยานที่พนักงานสอบสวนเป็นฝ่ายรวบรวม แต่พยานฝ่ายตนยังไม่ได้มาให้การ ยังไม่มาเป็นพยานในคดีเลย
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวต่อว่า วันนี้ตนจะมาให้การในประเด็นสำคัญ คือ นายชูวงษ์ ก่อนตายได้โอนหุ้นตั้งแต่วันที่ 8-26 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนอยากจะสอบถามว่าทำไมนายชูวงษ์ไม่เคยออกมาโวยวายเลยว่ามีการปลอมเอกสาร นี่คือประเด็นสำคัญ แล้วอีกอย่างในวันเกิดเหตุ หากตนเป็นผู้ที่ไปปลอมแปลงเอกสาร แล้วเขาจะไปตีกอล์ฟกับตนได้อย่างไร นี่คือเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะต้องให้คำตอบซึ่งก็จะมาสอบถามว่าพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตนด้วยเหตุผลอะไร นี่คือสิ่งที่จะต้องพิสูจน์ แล้วตนจะให้การด้วยพยานหลักฐานต่างๆ เพราะเดิมทีตนได้เคยเตือนพนักงานสอบสวนไปแล้วว่าการจะออกหมายจับใคร มีพยานหลักฐานเพียงพอแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ตนเตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัวแล้วเป็นโฉนดที่ดิน และเงินสดจำนวนหนึ่ง
“เหตุใดคุณชูวงษ์รับรู้รับทราบเรื่องการโอนหุ้น แล้วทำไมถึงไม่แจ้งว่ามีคนมาปลอมเอกสาร หากรู้แล้วทำไมไม่ดำเนินการ วันนี้ผมจะให้การในฐานะผู้ต้องหาก็จะให้พนักงานสอบสวนนั้นไปสอบสวนพยานเหล่านี้ หากไม่ดำเนินการสิ่งที่ท่านได้ทำในวันนี้ถือว่าท่านได้กระทำการบกพร่องหรือไม่ โดยเฉพาะในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันนี้คือสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่แจ้งความดำเนินคดีต่อผมนั้น ในฐานะที่เป็นผู้แจ้ง ท่านก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากต่อมาพิสูจน์ได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง ท่านต้องรับผิดชอบในข้อหาแจ้งความเท็จเช่นเดียวกัน” พ.ต.ท.บรรยินกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ให้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.บรรยินได้นำปากกายี่ห้อ frixion ball slim 038 ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ที่ซื้อมาจากร้านบีทูเอส (B2S) จำนวนหลายด้ามมาเขียนลงในกระดาษ พร้อมใช้ยางลบที่ปลายด้ามปากกาลบรอยออก เพื่อแสดงให้สื่อมวลชนเห็นว่าปากกาดังกล่าวสามารถเขียนและลบได้ในด้ามเดียวกัน ทั้งยังกล่าวยืนยันว่าปกตินายชูวงษ์มักจะใช้ปากกาลักษณะนี้ในการทำธุรกรรมเป็นประจำ และขณะที่มีการเขียนและลบข้อความจากจำนำหุ้นเป็นโอนหุ้นนั้น ตนนั่งอยู่กับนายชูวงษ์เพียงสองคนเท่านั้น ไม่มีบุคคลใดรู้เห็นด้วย
ขณะที่นายบัญชา ชัยจำ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า วันนี้ตนพา พ.ต.ท.บรรยิน เข้ารับทราบข้อหา โดยยืนยันว่า พ.ต.ท.บรรยินไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ไม่มีการหลบหนีแน่นอน จะสู้คดีให้เต็มที่ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของการประกันตัว แต่ยอมรับว่าเห็นจากข่าวว่าตำรวจอาจจะไม่ให้ประกันตัว ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของตำรวจ
ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า วันนี้ พ.ต.ท.บรรยินเดินทางเข้ารับทราบข้อหา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาพร้อมสอบปากคำ ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นต้องพิจารณาตามองค์ประกอบ 3 ข้อ คือ มีพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่ หรือหากให้ประกันตัวแล้วจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ หรือมีพฤติการณ์ข่มขู่พยานหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ ต้องสอบปากคำให้แล้วเสร็จจึงจะพิจารณาอีกครั้ง
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ในส่วนผู้ต้องหาอีก 3 รายที่เหลือ คือ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร, น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี โบรกเกอร์สาว ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้แคดดี้สาว ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจรนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 11.20 น. นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ นายกันต์ แซ่ตั๊ง พี่สาวและลูกชายนายชูวงษ์ พร้อมด้วยนายเอนก คำชุ่ม ทนายความได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสี่น่าจะมีการเตรียมความพร้อมเพื่อขอประกันตัว
นายเอนกกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่า พ.ต.ท.บรรยินให้การว่านายชูวงษ์ใช้ปากกาที่ลบได้ เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานตามข้อเท็จจริง เอกสารทุกฉบับที่มีการแก้ไขแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเสียชีวิตนั้นทางครอบครัวมีการติดใจมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้พวกตนได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังศูนย์โตโยต้าให้ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ โดยเช้าวันที่ 26 สิงหาคมจะเดินทางไปติดตามเรื่องดังกล่าวที่ศูนย์โตโยต้า รพ.สิรินธร และนิติเวช เพื่อพบแพทย์ที่ชันสูตรนายชูวงษ์ต่อไป
ด้านนางวันเพ็ญกล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเอกสารนั้น วันนี้ก็ได้ชี้ชัดแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทางครอบครัวสงสัยมาตลอดหลังจากพบว่าเอกสารการโอนหุ้นมีพิรุธ ตอนนี้ทางครอบครัวต้องการต่อสู้เพื่อกู้ชื่อเสียงของครอบครัวและตัวนายชูวงษ์ด้วย ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม พร้อม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ช่วยติดตามหาข้อเท็จจริง และขอขอบคุณชาวนครสวรรค์ที่ช่วยกันส่งกำลังใจและข้อมูลต่างๆ อีกด้วย ส่วนกรณีการใช้ปากกาอะไรในการเซ็นเอกสารนั้นเชื่อว่าคนใกล้ชิดและพนักงานในบริษัทรู้ดีอยู่แล้ว เอกสารเก่าสามารถนำมาเปรียบเทียบและยืนยันได้ว่าไม่ได้ใช้ปากกาชนิดที่ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวอ้างแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับปากกาลบได้เป็นที่นิยมที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยในขณะนี้ สาเหตุที่ปากกาลบได้นั้นเนื่องจากการใช้น้ำหมึกพิเศษที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาร่วมกัน ตามอุณหภูมิที่เกิดจาการการเสียดสี ระหว่างสารประกอบ 3 ชนิด คือ สีหมึก สารที่ทำให้หมึกเกิดสี และสารที่ทำให้สีเปลี่ยนตามอุณหภูมิที่เกิดจากการเสียดสี โดยหลักการทำงานก็คือ ในอุณหภูมิปกติหมึกที่เขียนออกมาจะเกิดขึ้นจากการผสมกันระหว่างสีหมึกและสารที่ทำให้เกิดสี โดยสารที่ทำให้สีเปลี่ยนตามอุณหภูมิจะไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆ เมื่ออยู่ในอุณหภูมิปกติ แต่เมื่อเราใช้ยางลบที่ปลายปากกาลบได้ซึ่งเป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้เป็นพิเศษ ลบหมึกที่เขียนไปก็จะทำให้เกิดความร้อนจากการเสียดสีขึ้น และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นสารที่ทำให้สีเปลี่ยนตามอุณหภูมิก็จะทำการแยกสีหมึกและสารที่ทำให้เกิดสีออกจากกันทำให้สีหมึกนั้นเปลี่ยนเป็นสีหมึกที่โปร่งแสงและไม่เห็นข้อความ
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน มาพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติอาชญากร ที่บริเวณด้านหน้าห้องขัง บก.ป.โดยทาง พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า ตนคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าพนักงานสอบสวนจะไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร เพราะเตรียมตัวมาก่อนแล้ว ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ที่ใช้ในการยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตามตนได้เตรียมเงินสดจำนวน 1 แสนบาท และโฉนดที่ดินอีกส่วนหนึ่ง
จากนั้นเวลา 14.30 น.ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ทันที
ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าหากให้ประกันตัวผู้ต้องหาแล้ว อาจจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ ในคดี ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ระบุถึงกรณีการใช้ปากกาที่ลบออกได้นั้น พนักงานสอบสวนดำเนินการตามผลตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ไม่ได้ให้น้ำหนักกับกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวถึงแต่อย่างใด และไม่ได้รู้สึกกังวลใจในการพิจารณาดำเนินคดี ทั้งนี้ ทาง พ.ต.ท.บรรยิน ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกันนั้นได้ระบุว่าจะนำเอกสารมาชี้แจงเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ว่ามีความแน่นหนาเพียงพอที่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการพิมพ์นิ้วมือทำประวัติ พ.ต.ท.บรรยิน ได้ขอเจ้าหน้าที่เข้าห้องน้ำ ที่ชั้นสองของตึกบก.ป. และไม่ยอมออกมาขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานกว่า 10 นาที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำกำลังชุดคอมมานโดมาเชิญตัว
อีกทั้งพ.ต.ท.บรรยินได้มีการพูดในเชิงที่ว่า หลังเสร็จเรื่องจะฟ้องต่อ ปปช.ให้ตรวจสอบ ก่อนที่พ.ต.ท.บรรยินจะยอมออกจากห้องน้ำแต่โดยดี