ASTV ผู้จัดการ - ญาติ “เสี่ยชูวงษ์” ร้อง “หมอพรทิพย์” ช่วยวิเคราะห์สภาพศพและสาเหตุการตาย หลังกังวลรายงานตรวจศพไม่ตรงความจริง ด้านคุณหญิงหมอเผยมีข้อจำกัด ศพถูกเผาไปแล้ว แต่สามารถขอภาพจากนิติเวชฯ หรือสอบถามข้อมูลจากหมอชันสูตรศพได้
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารบี น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พร้อมด้วยนายกันต์ แซ่ตั๊ง พี่สาวและบุตรชายของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และนายเอนก คำชุ่ม ทนายความ เข้าพบแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนหนังสือขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ช่วยวิเคราะห์สภาพศพและสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เนื่องจากสงสัยในสภาพศพกับรายงานการตรวจศพที่เห็นว่าไม่สอดคล้องกัน
นายเอนกกล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้เนื่องจากญาติมีข้อสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยเฉพาะรายงานผลการตรวจศพกับสภาพศพที่ญาติสงสัยว่ามีความสอดคล้องต้องกันหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า นิติเวช และนิติวิทยาศาสตร์จะสามารถช่วยอธิบายให้ข้อสงสัยดังกล่าวให้เกิดความกระจ่างขึ้นได้ จึงเดินทางมาพบ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ในวันนี้
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า สำหรับบทบาทของสถาบันนิติฯ คือ 1. ดำเนินการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ที่มาร้องเรียนว่ามีอำนาจในการเข้าถึงหลักฐานนั้นหรือไม่ เช่น การตรวจศพใหม่ และหลักฐานใหม่ 2. ให้ความรู้หรือความช่วยเหลือในเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าจำเป็นต้องนำส่วนใดไปใช้ได้บ้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3. สถาบันนิติวิทยาศาตร์เป็นเพียงเครื่องมือในการพิสูจน์ทราบ โดยผู้ที่มีอำนาจในการทำการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนต้องเป็นตำรวจหรือหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวเป็นคดีอุบัติเหตุจราจรซึ่งหลักการทางนิติวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องประมวลหลักฐาน ได้แก่ 1. ศพ 2. รถ และ 3. สิ่งแวดล้อมในบริเวณที่เกิดเหตุหรือเกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุ ทั้งมีข้อจำกัดเมื่อคดีมาถึงวันนี้คือศพได้ถูกเผาไปแล้ว แต่เนื่องจากศพไม่ได้เป็นสภาพเน่า เป็นศพสภาพใหม่ และมีรายงานการตรวจศพ ดังนั้น ตามสิทธิของญาติสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ จึงแนะนำให้ไปขอภาพถ่ายจากสถาบันนิติเวช หากไม่ได้ก็ให้ไปขอที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร เพื่อจะได้หมดข้อสงสัยว่าที่ไม่มีบาดแผลบนใบหน้าจริงหรือไม่ หรือสามารถไปพบแพทย์ที่ผ่าชันสูตรศพ เพื่อสอบถามว่าผู้เสียชีวิตมีบาดแผลตรงไหนบ้าง สำหรับข้อมูลที่ปรากฏบนสื่อระบุว่าบาดแผลที่พบส่วนใหญ่ปรากฏอยู่ส่วนหลัง ซึ่งไม่เข้ากับหลักการของอุบัติเหตุจราจรที่เป็นการชนจากด้านหน้า เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะสรุปได้โดยต้องเห็นของจริงไม่ใช่เห็นเพียงรายงานผลการตรวจว่าแผลอยู่ด้านหลัง บางทีมีแผลที่ด้านหน้าก็อาจจะมีแต่แพทย์
ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กล่าวต่อว่า หลักฐานส่วนที่ 2 คือ รถยนต์ เท่าที่ตนทราบไม่มีความต่อเนื่อง โดยหลักฐานในส่วนนี้ไม่ใช่หลักฐานของคนตาย ทางนิติวิทยาศาสตร์จึงไม่สามารถตรวจสอบในส่วนนี้ได้ เพราะหน้าที่การตรวจสอบดังกล่าวเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือดีเอสไอ และหลักฐานส่วนที่ 3 คือ ที่เกิดเหตุ ขึ้นอยู่กับการเข้าถึงที่เกิดเหตุ และวันนี้กระบวนการที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นไปในลักษณะของการทำงานกันอย่างเป็นทีม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำงานร่วมกันกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งมีประสบการณ์การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยใช้วิศวกรที่รู้เรื่องรถยนต์ โดยขณะนี้เรารอหุ่นจำลองของบริษัทรถยนต์ซึ่งมีมูลค่าประมาณณ 10 ล้านบาท เพื่อจำลองเหตุการณ์ให้สามารถตอบโจทย์ได้ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ให้คำแนะนำกับทางครอบครัวเพียงอย่างเดียวว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง โดยหลังจากนี้เมื่อทางครอบครัวได้ภาพตามทางเราได้แนะนำนั้นจึงจะสามารถช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปได้ โดยจะมีการนัดหมายกันอีกในภายหลัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีการร้องขอให้โอนสำนวนการเสียชีวิตของนายชูวงศ์ไปยังกองปราบปราม ได้มีการดำเนินถึงขั้นตอนไหนแล้ว นายอเนกกล่าวว่า จากการที่ญาติไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอโอนสำนวนจาก สน.อุดมสุข ไปยังหน่วยงานที่เหมาะสมหรือกองปราบปราม เนื่องจากญาติเชื่อว่าทั้งการโอนหุ้นและการเสียชีวิตของนายชูวงศ์หน้าจะมีความเชื่อมโยงกัน เพราะฉะนั้น หากพนักงานสอบสวนชุดเดียวกันมีข้อมูลที่สอดคล้องกันจะทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าที่จะไปต่างคนต่างทำ ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่า ทาง สน.อุดมสุข สืบสวนสอบสวนไม่ถูกต้อง เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทางญาติของนายชูวงษ์ได้มีการฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินจากการโอนหุ้น ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไร นายอเนกกล่าวว่า ต้องรอให้พนักงานสอบสวนแล้วเสร็จก่อนเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดและเพื่อให้ทราบว่าทำความเสียหายให้แก่ครอบครัวของงงนายชูวงษ์มากน้อยเพียงใด