สถาบันนิติเวชฯ มอบศพหนุ่มพนักงานประจำศาลพระพรหมเอราวัณให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.ราชบุรี ป้าร้ำไห้ เผยทราบข่าวจากหลานอีกคน หลังเกิดเหตุยังมีชีวิตอยู่ แต่มีอาการชักเกร็ง ในที่สุดแพทย์ก็ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้
วันนี่ (18 ส.ค.) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา นายธปภัค บูรณสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค 1 กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ มอบหมายให้ตนและเจ้าหน้าที่จัดทีมเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในวันนี้มีการตั้งโต๊ะรับแจ้งขอความช่วยเหลือจากญาติของผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต ซึ่งเบื้องต้นมีอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ รพ.ตำรวจ สน.ลุมพินี โดยผู้ที่เสียชีวิตนั้นให้เข้ามาติดต่อ กรมคุ้มครองสิทธิฯจะตรวจสอบว่าเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หรือไม่ โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวรายละ 100,000 บาท หรือหากบาดเจ็บนั้นจะได้รับเงินช่วยเหลือและค่ารักษาพยาบาลตามจริงตามกฎหมายกำหนด แต่ไม่เกินรายละ 30,000 บาท โดยจะได้รับสิทธิ์ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยต้องมีเอกสารจากสถานทูตมายืนยันด้วย
นอกเหนือจากนั้น กรมคุ้มครองสิทธิฯ ยังจัดล่ามทั้งภาษาจีน และอังกฤษ ในการติดต่อกับญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บเพื่อความสะดวก โดยอธิบดีมีความเป็นห่วง และย้ำว่า ให้ดูแลเยียวยาให้โดยเร็วที่สุด
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ส่งศพ นายสุวรรณ สัตย์มั่น อายุ 30 ปี พนักงานประจำศาลพระพรหมเอราวัณ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งถือเป็นศพแรกที่ออกจากสถาบันนิติเวชวิทยา ภายหลังจากเกิดเหตุ
นางศิริลักษณ์ ละอองนวล ป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนทราบจากหลานอีกคนที่ทำงานในศาลพระพรหมเช่นเดียวกัน โทร.ไปบอกว่าหลานตนเสียชีวิต สภาพตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่ มีอาการชักเกร็ง แพทย์พยายามช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้จนเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอประณามคนก่อเหตุที่มีความชั่วร้ายและรุนแรงกับครอบครัวของตนมาก ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวคนก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว ภายหลังจากนี้ตนจะนำร่างของหลานชายกลับไปตั้งสวดที่บ้าน จ.ราชบุรี เพื่อบำเพ็ญกุศลต่อไป
สำหรับบรรยากาศล่าสุดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยังคงมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มาติดต่อขอดูรูปถ่ายของศพที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสัญชาติใดอย่างต่อเนื่อง โดยมีคนจีนกลุ่มหนึ่งซึ่งเดินทางไปค้นหาญาติที่ รพ.หัวเฉียว รพ.จุฬาฯ และ รพ.กลาง โดยมีความหวังว่าญาติของตนจะรอดชีวิต แต่ตลอดทั้งวันกลับไม่พบเบาะแสแต่อย่างใด จนล่าสุดได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อดูภาพถ่ายทางทีวีที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ พบว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นญาติของตน สร้างความโศกเศร้าและเสียใจแก่บรรดาญาติ ๆ จำนวนมาก