ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่ แค่คืนเดียวโรงแรมภูเก็ตนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกจองห้องพักแล้ว 5% ขณะที่ผู้ประกอบการร้องขอรัฐบาลเร่งตรวจสอบหาสาเหตุชี้ให้ชัด หวั่นข่าวที่ออกไปสร้างผลกระทบมากขึ้น
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ส.ค.) สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ เรื่องของผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นตามมา สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นที่จับตามอง
เรื่องนี้ นายภูริต มาศวงศ์ศา นายกสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ต และอุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนที่ผ่านมา มา ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแน่นอน ในเบื้องต้น ก็ได้รับผลกระทบพอสมควร แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของทางรัฐบาลถึงสาเหตุการเกิดระเบิดในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร
จริงๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เพิ่มเกิดขึ้นต่อประเทศไทย แต่ที่ผ่านมา ก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ จึงเป็นเรื่องที่จะต้องไปหาสาเหตุว่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดจากอะไร เพื่อตอบให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง เพราะขณะนี้ข่าวที่ออกไปยังต่างประเทศเองก็มีการพูดกันไปต่างๆ นานา ถ้าเราทราบสาเหตุที่แท้จริงได้เร็วเท่าไหร่ก็จะเป็นผลดีมากเท่านั้น
ส่วนผลกระทบในระยะแรกยังไม่สามารถบอกได้ว่าการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจากการสอบถามเมื่อคืนที่ผ่านมา ในส่วนของบริษัทนำเที่ยวยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้กันมาแล้ว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เลี่ยงที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในจุดเสี่ยง และเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในต่างจังหวัดแทนเช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ หรือที่อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นหลังจากเกิดเหตุนักท่องเที่ยวอาจจะลังเลในการตัดสินใจเดินทาง และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในกรุงเทพฯ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมากนัก อาจจะมีเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ส่วนระยะกลางก็คงจะต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีบางประเทศที่เริ่มเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งอาจจะต้องรอดูสถานการณ์อีกประมาณ 2 วัน จึงจะเห็นผลชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้านเรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่องผลกระทบเชื่อว่ากระทบแน่แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น
นายภูริต ยังได้กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากฝากทั้งในส่วนของสื่อ และประชาชนทั่วไป คือ เรื่องของการสร้างกระแส โดยการโพสต์ภาพ หรือแชร์ภาพที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการ เพราะภาพ และข้อมูลเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดความสับสน และความเสียหายต่อประเทศไทยได้
ขณะที่ นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ (18 ส.ค.) พบว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการจองห้องพักไปแล้วประมาณ 5% ซึ่งขณะนี้กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เรื่องของผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเชื่อว่าเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในระยะสั้นก็เริ่มเห็นแล้ว
ส่วนในระยะต่อไปก็คงต้องดูไปก่อน เพราะตอนนี้กระแสข่าวในต่างประเทศโจมตีประเทศไทยอย่างมาก ถ้ารัฐบาลแก้ไขสถานการณ์ได้เร็ว ทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของสาเหตุการเกิดระเบิด และตอบคำถามคนทั่วโลกได้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงโลว์ชีซัน พบว่า อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 62% ส่วนโรงแรมในพื้นที่ป่าตองซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญพบว่า อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 80% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเข้าพักที่อยู่ในขั้นดีกว่าเดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายๆ ส่วนก็เกรงว่านักท่องเที่ยวบางส่วนอาจจะไม่มาท่องเที่ยว
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ส.ค.) สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ เรื่องของผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นตามมา สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นที่จับตามอง
เรื่องนี้ นายภูริต มาศวงศ์ศา นายกสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ต และอุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนที่ผ่านมา มา ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแน่นอน ในเบื้องต้น ก็ได้รับผลกระทบพอสมควร แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของทางรัฐบาลถึงสาเหตุการเกิดระเบิดในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร
จริงๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เพิ่มเกิดขึ้นต่อประเทศไทย แต่ที่ผ่านมา ก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ จึงเป็นเรื่องที่จะต้องไปหาสาเหตุว่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดจากอะไร เพื่อตอบให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง เพราะขณะนี้ข่าวที่ออกไปยังต่างประเทศเองก็มีการพูดกันไปต่างๆ นานา ถ้าเราทราบสาเหตุที่แท้จริงได้เร็วเท่าไหร่ก็จะเป็นผลดีมากเท่านั้น
ส่วนผลกระทบในระยะแรกยังไม่สามารถบอกได้ว่าการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจากการสอบถามเมื่อคืนที่ผ่านมา ในส่วนของบริษัทนำเที่ยวยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้กันมาแล้ว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เลี่ยงที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในจุดเสี่ยง และเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในต่างจังหวัดแทนเช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ หรือที่อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นหลังจากเกิดเหตุนักท่องเที่ยวอาจจะลังเลในการตัดสินใจเดินทาง และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในกรุงเทพฯ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมากนัก อาจจะมีเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ส่วนระยะกลางก็คงจะต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีบางประเทศที่เริ่มเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งอาจจะต้องรอดูสถานการณ์อีกประมาณ 2 วัน จึงจะเห็นผลชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้านเรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่องผลกระทบเชื่อว่ากระทบแน่แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น
นายภูริต ยังได้กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากฝากทั้งในส่วนของสื่อ และประชาชนทั่วไป คือ เรื่องของการสร้างกระแส โดยการโพสต์ภาพ หรือแชร์ภาพที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการ เพราะภาพ และข้อมูลเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดความสับสน และความเสียหายต่อประเทศไทยได้
ขณะที่ นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ (18 ส.ค.) พบว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการจองห้องพักไปแล้วประมาณ 5% ซึ่งขณะนี้กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เรื่องของผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเชื่อว่าเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในระยะสั้นก็เริ่มเห็นแล้ว
ส่วนในระยะต่อไปก็คงต้องดูไปก่อน เพราะตอนนี้กระแสข่าวในต่างประเทศโจมตีประเทศไทยอย่างมาก ถ้ารัฐบาลแก้ไขสถานการณ์ได้เร็ว ทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของสาเหตุการเกิดระเบิด และตอบคำถามคนทั่วโลกได้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงโลว์ชีซัน พบว่า อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 62% ส่วนโรงแรมในพื้นที่ป่าตองซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญพบว่า อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 80% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเข้าพักที่อยู่ในขั้นดีกว่าเดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายๆ ส่วนก็เกรงว่านักท่องเที่ยวบางส่วนอาจจะไม่มาท่องเที่ยว
