xs
xsm
sm
md
lg

ศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐานคดี “จตุพร” พร้อมพวกบุกบ้านป๋าเปรมปี 50

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช.
ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานคดี “จตุพร พรหมพันธุ์” พร้อมแนวร่วม นปช.บุกปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของประธานองคมนตรีฯ เมื่อปี 50 ไปวันที่ 21 ต.ค.นี้ เนื่องจากต้องรอผู้ต้องหาอีก 4 คนที่ยังไม่ได้ตัวมายื่นฟ้อง


วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนมปิดล้อมบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ คดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ร่วมชุมนุม เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรค 2, 215, 216 โดยคดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2557 ว่าวันที่ 22 ก.ค. 2550 นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับพวกซึ่งเป็น แกนนำ นปช. ร่วมกับนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 และพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้อง เป็นผู้นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากสนามหลวงไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากตำแหน่ง

โดยวันนี้ นายจตุพรและนายศราวุธ จำเลยที่ 1-2 เดินทางมาศาล พร้อมทนายความ ขณะที่อัยการโจทก์และฝ่ายจำเลย แถลงต่อศาลว่า ขอให้เลื่อนนัดไปก่อน เนื่องจากคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 4 คนที่รอตัวมายื่นฟ้อง ซึ่งอัยการได้แจ้ง สตช.ติดตามตัวผู้ต้องหานั้นมาส่งให้อัยการ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัวมา โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ออกไปก่อนนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 21 ต.ค. 2558 เวลา 09.00 น.

สำหรับผู้ต้องหาอีก 4 รายที่อัยการรอตัวยื่นฟ้องประกอบด้วย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย, นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ,นายบรรธง สมคำ และ ม.ล.วีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา หรือนายวิชิต เพียโคตร ส่วน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ต้องหาร่วมได้เสียชีวิตแล้ว ขณะที่นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาร่วมอีกรายหลบหนีอยู่ต่างประเทศจึงยังไม่ได้ดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ประกอบด้วย 2 สำนวนด้วยกัน โดยรวมผู้ต้องหาที่อัยการสั่งฟ้องทั้งหมด 15 ราย โดยสำนวนแรกอัยการยื่นฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กับพวกซึ่งเป็นผู้ชุมนุมรวม 7 คน ยังอยู่ระหว่างรอคำพิพากษา

ภายหลังนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. กล่าวถึงกรณีที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อาจมีมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นเจตนาที่จะเขียนร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการคว่ำอยู่แล้ว เพราะเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายที่สุด ไม่ได้มีการอธิบายถึงความหลักแหลม เป็นการวางรัฐประหารล่วงหน้า ตนรู้ตั้งแต่เปิดประตูดึงคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะการที่จะมีการตั้งกรรมการยุทธศาสตร์ขึ้นมาควบคู่ในการบริหารประเทศและมีการนำนายกรัฐมนตรีแม่ทัพนายกองไปเป็นกรรมการนั้น ในความเป็นจริงจะทำให้ไม่สามารถบริหารประเทศได้ เป็นการคิดแบบผิดหลักการ

ส่วนที่อ้างว่าจะอยู่ต่อเพื่อปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งนั้น นายจตุพรมองว่า การพูดเรื่องปฏิรูปครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ทั้งนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึง ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ก็เคยพูดเรื่องนี้มาแล้ว และสรุปเรื่องราวไว้อย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้นมองว่าการปฏิรูปไม่มีวันที่จะทำได้ และจบลงด้วยคนเพียงคนเดียว เพราะการปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีวันจบ เช่นเดียวกับปัญหาของประเทศที่ไม่มีรัฐบาลใดจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้จบ ดังนั้น มองว่าการพูดเรื่องการปฏิรูปประเทศเป็นเพียงวาทกรรมที่จะใช้อยู่ในอำนาจเท่านั้น ในแม่น้ำ 5 สายไม่ควรกลุ่มการเมืองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตนเองไม่ขัดข้องถ้า คสช.จะอยู่ต่อ จะอยู่นานเท่าไหร่ก็อยู่ไป แต่อย่ามาอ้อมค้อม เพียงแค่บอกมาตรงๆ ว่าจะอยู่ต่อ ไม่ใช่ทำมาตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ต้องให้เกียรติคนไทยด้วย

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับคนเสื้อแดงในต่างประเทศเรื่องคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และทราบถึงงานเลี้ยงคนเสื้อแดง ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพูดที่ประเทศฟินแลนด์ ถึงเรื่องรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นายจตุพรกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูคลิปดังกล่าว แต่เชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงที่มีอยู่ทุกมุมโลกก็ต้องคิดแบบเดียวกับตนในเรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเองก็เช่นกัน โดยส่วนตัวนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับคนเสื้อแดงหรือ พ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด เนื่องจากคำสั่ง คสช.ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง การพูดหรือการแสดงออกจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวที่คนเสื้อแดงแสดงออกมาก็เป็นการแสดงออกทางความคิดเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น