“นกต้องมีขน คนต้องมีพวก - อิ่มอย่าลืมหิว ใหญ่อย่าลืมเล็ก”ประเดิมด้วยคำคมเกรียนๆที่ได้ยินเกร่อในสายจ้าวยุทธจักรสีกากี...ได้เวลา “บิ๊กเกรียน”รายงานตัวเสนอความเคลื่อนไหวแวดวงหมาต๋า...มี “ประเด็นที่ไหน” เรา “เผือก”ไปที่นั่น.....
00000.....ตำแหน่ง “พิทักษ์ 1”คนใหม่ หรือ “ผบ.ตร.คนที่ 11” ไม่น่าพ้น ป.แป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ส่วน อ.เอก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมาย หากมีอันต้อง “อกหักซ้ำสอง”หวังว่าท่านผู้มีอำนาจคงหาทางออกให้ บรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ผ่อนคลายขึ้น.....
00000.....“ศึกชิงบัลลังก์เจ้ายุทธจักรปทุมวัน” ยุคนี้ พ.ศ.นี้ยังมีลูกไม้เก่าขุดวิธีสาดโคลนคู่แข่งด้วยใบปลิวลับ...ข่าวว่าเช้าวันพฤหัสบดีที่ 13 ส.ค.ก่อนประชุม ก.ต.ช.เพียงวันเดียว “มือมืด”ไม่รู้ข้างไหนแอบโปรยใบปลิวโจมตี “บิ๊กตำรวจ”คู่แคนดิเดทคนหนึ่ง สาดเสียเทเสียเรื่องเป็น “เฮียใหญ่”วงการสีเทา บ่อนใหญ่ทุกแห่ง ตู้ม้าไฟฟ้าทุกเจ้าล้วนขึ้นตรงแถมเรียก “นาย”ทุกคำทำให้เห็นความสนิทชิดเชื้อ.....
00000.....มองด้วยความเป็นธรรมใบปลิวก็คือใบปลิว เป็นวิธีของพวกขี้ขลาดตาขาว ยุคนี้มนุษย์ไปถึงดาวพูลโต กันแล้วบรรดามือใบปลิวยังแอบเอาวิธีดั้งเดิมที่เคยได้ผลสมัย โค่นอธิบดี”แหวง”พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ มาใช้กันอีกหรือ.....
00000.....กลับมาราคาต่อรองเสมอไหน ระหว่าง “เอก - แป๊ะ” กลายเป็นว่าไม่มีใครกล้าจับเพราะเบียดสูสีแพ้-ชนะต้องถึงขั้นถ่ายรูป แต่หาก “นายกฯตู่”จะเลือกคนหนุ่มไม่เอาคนแก่ ต้องคิดให้ดีระบบคุณธรรมจะเหลือกันอีกไหม.....
00000.....สำคัญหากอ้างความมั่นคงโดยลืมหลักอื่นไปจนหมดสิ้น “บิ๊กเกรียน”ขอเตือนหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาที่ละน้อยๆ เห็นใจก็แต่ “บิ๊กเอก” หากวืดอีกรอบจะอยู่ยังไง .....ไหนๆก็จะปรับ ครม.กันแล้ว แถมยังมีข้าราชการระดับปลัดฯหลายกรมกองต้องสลับสับเปลี่ยน คิดไม่ออก “บิ๊กเกรียน”แนะนำให้ทำอย่างนี้เพื่อรักษาหัวใจน้อยๆ และผยุงสถาบันสีกากีไม่ให้บอบช้ำไปกว่าที่เป็นอยู่.....
00000.....ทั้ง “เอก-แป๊ะ”ว่าไปแล้วมีดีคนละอย่าง ใครได้ดีเป็น ผบ.ตร.คนใหม่อย่าเอาอย่าง “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงผู้ใก้ลจะเป็นอดีตอย่างเด็ดขาด ข้อแรกที่ขอกันซึ่งๆหน้าก็คืออย่าหนัก “พระเดช”แสดงอิทธิฤทธิ์กับลูกน้องจนเกินงาม....จริงอยู่นโยบายมาจากทหารแต่ไม่จำเป็นต้องใส่เกียร์ 5 เดินหน้า “ฆ่ามัน” เจ้านายคนใหม่ควรทำตัวให้เหมือนเขื่อน หรือทำนบกั้นน้ำ ถ้ามามากก็ต้องปล่อย มาน้อยต้องกัก เล่นกระทืบโครมๆ 1 ปีย้ายตำรวจเป็นพันมันมีอะไรดีขึ้นไหม.....
00000.....ขวัญ-กำลังใจโบยบิน หมดแรงไม่พอถึงขั้น “หมดใจ”แล้วจะไปสู้รบปรบมือกับโจรได้หรือ....ยังไม่รวมปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คำสั่งยกเลิกทวีคูณอายุราชการมองแต่เพียงว่าเพื่อยุติการเอารัดเอาเปรียบของตำรวจบางคน....คำตอบมันอยู่ที่แล้วคนดีๆยอมเสียสละเพื่อบ้านเพื่อเมืองจะเอาไง.....ฐานะผู้บริหารสูงสุดคิดกันแค่นี้บุญโขที่อยู่ได้ปีเดียว ขอทีนะวิธีคิดแก้ปัญหาแบบเป็นท่อนๆ แก้ได้ 1 เกิดอีก 1 มันไม่ใช่ ถ้าจะแก้ต้องว่ากันทั้งระบบ ก็อย่าไปยอมไอ้พวกขี้โกงเอาเปรียบคนอื่น หากทำไม่ได้คนมีหน้าที่ต้องหมั่นส่องกระจกดูหนังหน้าตัวเองบ่อยๆ.....
00000.....ของฝากชิ้นสุดท้ายก็คือวิธีบริหารงานด้วยการผ่องถ่ายอำนาจผ่านตัวแทน.....”บิ๊กเกรียน”จับตาการเคลื่อนไหวของ “โฆษกหน้าเหี่ยว”มาโดยตลอด ถือว่ารอบปีที่ผ่านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ “ขึ้นชั้น”มีบทบาทในเรื่องสำคัญๆมากมาย เฉพาะที่เป็นกระแสยิ่งไม่ขาดตกบกพร่องไล่มาตั้งแต่คดีทำลายเครือข่ายอดีตเจ้าพ่อสอบสวนกลาง “พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์” แม้แต่นโยบายปราบเด็กแว้น กวดขันสถานบริการ “โฆษกหน้าเหี่ยว”เดินหน้าเก็บเกี่ยวเครดิตทั้งหมด.....
00000.....กลายเป็นว่าองค์กรตำรวจขับเคลื่อนด้วยวิธีปกติไม่ได้ ทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจจากดาวอังคาร รวมทั้งสำนักงานแผนกปะผุที่มีร้อยแปดพันประการในรั้วปทุมวันนั้น มันง่อยเปลี้ย เสียแขนกันหรือไร.....
00000.....ต้องหยุดวิธีทำงานแบบ “ตีปี๊บ”เอาดัง แย่งงานคนอื่น ไม่ว่างานนโยบายหรือคดีอาชญากรรมระดับประเทศที่ประชาชนสนใจ.....ปล่อยตำรวจท้องที่หรือผู้รับผิดชอบโดยตรงเขาทำไปก่อนหากไม่เข้าท่า เห็นไปไม่รอดจึงค่อยจัดหากำลังเสริมหรือผู้บริหารจากส่วนกลางไปดูแลเพราะนี่คือหลักทำงานง่ายๆ ทั้งให้เกียรติ ไว้ใจ และให้ตำรวจทุกส่วนเสริมสร้างประสบการณ์สามารถยืนด้วยขาตัวเองได้....หากยังไม่เข้าใจ ภาษา“บิ๊กเกรียน”ต้องบอกว่า “หยุดบ้าโชว์ออฟผลงาน” 2 อย่างแค่นี้ตำรวจไทยทั้งประเทศก็น่าจะมีความสุขอย่างพอเพียงกับการทำงานแล้ว....
00000.....พูดถึงความสุขเดี๋ยวจะลืมความทุกข์.....ตอนนี้ตำรวจไทยโดยเฉพาะภาคอีสานกำลังเจอสภาพเศรษฐกิจตกสะเก็ดเล่นงานจนหน้าเขียวหน้าเหลืองตามๆกัน.....เฉพาะกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4ซึ่งมีกำลังพลราว 21,000 คน เป็นหนี้ธนาคารออมสิน 12,000 คนตั้งแต่ 2 แสนบาทไปถึง 2 ล้านบาทมียอดเงินสูงถึง 6 พันล้านบาท....แน่นอนว่าช่วงคืนความสุขกระเป๋าตำรวจแฟ่บถ้วนหน้า บ่อน ซ่อง ตู้เกมส์ ตู้ม้า “ของตาย”ที่เคยเป็นท่อน้ำเลี้ยงถูกตัดเกลี้ยงจนไม่มีอะไรเหลือ.....รายได้เสริมหายรายได้หลักเมื่อรวมเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง เงินประจำตำแหน่ง ส่วนแบ่งค่าปรับ ตำรวจบางนายยังหารายได้เสริมจากจ็อบ รปภ.ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งร้านทอง แต่ยังไม่พอเพราะมีรายจ่ายมากกว่า .....มีตัวเลขประมาณรายได้ตำรวจชั้นประทวนว่าอยู่ที่ 2.5 หมื่นบาทจนถึง 3 หมื่นบาทแต่ค่าใช้จ่ายประจำจะอยู่ที่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนธนาคาร ค่าอุปกรณ์ทำงาน บางรายซื้อปืน ซื้อวิทยุสื่อสาร ซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน.....
00000.....ส่วนเกินอีกครึ่งจะหามาจากไหน ยิ่งหมดกิจการสีเทาตำรวจก็ยิ่งหมดหนทางนอกจากกู้หนี้ยืมสินพอกพูนไปเรื่อยๆ....ตำรวจบางกลุ่มเช่นตำรวจจราจร เร่งเพิ่มรายได้จากยอดค่าปรับ สัญญาบัตรระดับบริหารส่วนหนึ่งหาทางออกด้วยการงัดนโยบายบังคับใช้กฎหมายตรวจเข้มการจราจร....บางคนอ้างว่ากวดขันวินัยการขับขี่แต่เบื้องหลังก็คือหารายได้เข้ากระเป๋า“บิ๊กเกรียน”มีบัญชีลูกหนี้ตำรวจภาค 4 อยู่ในมือระบุว่าตำรวจชั้นประทวนของจ.กาฬสินธุ์ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคราม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี เป็นหนี้เกิน 3 งวดจำนวน 276 ราย ถูกฟ้องคดีแพ่ง 502 ราย ถูกฟ้องล้มละลาย 56 ราย รวมทั้งสิ้น 834 ราย....
00000.....ยังไม่รวมกับตำรวจไทยในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศรวมทั้งประทวนและสัญญาบัตรประมาณ 240,000 นาย เป็นหนี้แล้ว 200,000 นาย เฉลี่ยภาคละ 20,000 นาย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างฟ้องล้มละลายราว 2,000 นายและมีส่วนหนึ่งถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว.....
00000.....ถูกของ “บิ๊กอ๊อด”ที่บอกว่าปัญหาหนี้สินของลูกน้องเพราะใช่เงินเกินตัว......แต่หนี้ระดับ 1 แสนไม่เกิน 2 ล้านบาทนั้นคนไทยเกือบทั่วประเทศเป็นกันทั้งนั้น ยังไม่รวมอาชีพครูล้วนหนี้ท่วมหัวทั้งสิ้น....ทางหนึ่งพวกชอบก่อหนี้แล้วไม่มีปัญญาส่งต้นส่งดอกคงหาคนเห็นใจไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่ระดับบังคับบัญชาไม่ช่วยแล้งยังซ้ำ ตอกลิ่มด้วยวาจาไม่มีวินัยการเงินบ้าง ใช้จ่ายเกินตัว จนถึงขั้นเอาไปมั่วการพนัน....โถท่าน ผบ.ส่วนจริงมันก็มีแต่ส่วนใหญ่มันไม่เป็นอย่างนั้น ถามว่าสวัสดิการอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ตลอดจนแฟลตที่พักตำรวจมีให้เขาไหมล่ะ.....ขอโทษ..เฉพาะที่เห็นๆแฟลตส่วนกลางใน กทม.ทั้งซอยลือชาย ย่านอุดมสุขหรืออื่นๆมันไม่พอรองรับ บางแห่งน้องๆสลัมถ้าเขาเลือกได้พอมีครอบครัวมีลูกมีเต้าใครจะอุดอู่อยู่กับบรรยากาศซกมกแบบนั้น....นี่ไงเขาจึงมีคำคม “ตำรวจนักเลง”ว่า “อิ่มอย่าลืมหิว ใหญ่อย่าลืมเล็ก”ช่วยไม่ได้ก็อย่ามาซ้ำเติมกันเลย.....
00000.....ควันหลงวันแม่...เว็บเพจ “ผู้กำกับอู๋” พ.ต.อ.บรรพต มุ่งขอบกลางผกก.สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเน็ตด้วยภาพกอดเด็กกำพร้าภายใต้ชื่อ “คนที่เขาไม่มีแม่....เขาขอแค่มีคนกอด”.....”บิ๊กเกรียน”เห็นแล้วน้ำตาจิไหล ซาบซึ้งจริงๆ ....หลายคนอาจคิดว่า “สร้างภาพ”วันแม่แต่ความเอื้อเฟื้อกับเด็กด้อยโอกาส “ผกก.อู๋”ทำมานานแล้วจนได้รางวัลคนดีที่เรายกย่อง จากสำนักงานกิจการและโครงการในพระราชดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา....”รางวัลแห่งความภาคภูมิใจในชีวิตที่ผมได้รับจากการก่อตั้งโครงการตำรวจใจดีเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า,เด็กถูกทอดทิ้ง,เด็กด้อยโอกาส และเด็กที่ถูกทำร้าย ถูกกระทำรุนแรง ซึ่งในขณะนี้มีเด็กที่ผมรับอุปการะไว้ในโครงการตำรวจใจดีนี้จำนวน 45 คน....เป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นในการทำความดีช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสต่อไป...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”....สวดยอดจิงๆผู้กำกับ.....
00000.....พูดถึงเรื่องหนี้สินตำรวจ หากเจ้านายคนใหม่มารับตำแหน่งแล้วจัดโครงการหาอาชีพเสริมให้กับบรรดาแม่บ้านตำรวจที่นั่งๆนอนอยู่เฉยๆก็คงดีไม่น้อย เพราะส่วนหนึ่งนอกจากไม่ช่วยผัวยังเป็นตัวสร้างปัญหาซะเอง เช่นแอบผัวตอนเข้าเวรยามไปเล่นเก้าเก ป๊อกเด้ง บางคนก่อหนี้สินล้นพ้นตัวจนบ้านแตก....สภาพแบบนี้อย่าคิดว่าเป็นเรื่อวงส่วนตัวหรือเรื่องของครอบครัวเพราะ “ผล”ย่อมสะท้อนถึงการทำงานไม่มากก็น้อย แทนที่จะคาดโทษ “เอาผิด”กับผู้บังคับบัญชาฐานปล่อยปละละเลยน่าจะเปลี่ยนเป็นหากองทุนสักก้อนจัดหาอาชีพเสริมว่ากันตามชอบตามถนัด ส่วนจะล้มหรือลุกลองดูสักตั้งดีกว่าไม่ทำอะไรเลย....มิติใหม่ “แม่บ้านตำรวจ”ต้องไม่เพียงคุณหญิงคุณนาย หรือจำกัดแค่เมีย “นายพล”แต่ควรเปิดโอกาส ปลุก “เมียตำรวจ”ลุกมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ผัว “บิ๊กเกรียน”ยอมรับได้กับอภิสิทธิ์เล็กๆน้อยๆหากจะทำให้คุณภาพชีวิตตำรวจดีขึ้น ถึงขนาดจัดหาโรงเรียนที่เหมาะสม มีโควต้าพิเศษ ใก้ลโรงพัก ใก้ลครอบครัวเพื่อให้หมดกังวลใจ.....ผลที่ได้เกินคุ้มความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เห็นเป็นรุปธรรม....ตำรวจอยู่พอกินคือแบบนี้ไม่ใช่เสกด้วยคำพูด....เกียรติยศศักดิ์ศรีของตำรวจ - การสร้างความยอมรับถึงกับจะให้ตำรวจเป็นที่รักของประชาชน หากไม่มีขวัญกำลังใจ ไม่มีอนาคต...ขอโทษ...สุนัขตัวไหนมันจะเห่า จะกัดจะทำหน้าที่ของมัน....
00000.....มาเรื่องอาชญากรรม 2 คดีที่ค้างคากันบ้าง นับจากวันถูกสังหาร 29 มิ.ย.ผ่านมาเดือนครึ่งแล้วตำรวจชุดคลี่คลายคดีอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ “สมยศ สุธางค์กูล”ยังเก้ๆกังๆหาช่องทางไม่เจอ.....3 ประเด็นหลัก 1.บาดหมางเรื่องการพนันวงเงิน 4 ล้านบาท 2.วิ่งเต้นช่วยเหลือคดี 25 ล้านบาท 3.พิพาทที่ดินเช่าย่านถนนพระราม 9 วนเวียนอยู่อย่างนี้ยังหาแววไม่เจอ.....พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สืบสวน บช.น. ผอมลงๆอดตาหลับขับตานอนแต่ไม่มีผลคืบหน้า ส่วนลูกพี่ “บิ๊กปู”พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิตพรามณกุล ผบช.น. ซี๊ดบุหรี่หนัก วันๆพ่นควันยิ่งกว่าปล่องโรงสีจนบัดนี้ยังไปไหนมาสามวาสองศอก พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอกรองผบ.ตร.ฝ่ายปราบปราม ยิ่งไม่ต้องพูดถึง “มุกหมด”แตกฟองไม่ไหวสงสัยปิดคดีไม่ลงต้องกลบด้วยสายลมกับแสงแดด....
00000.....อีกคดีใหญ่แนวโน้มน่าจะออกหมายจับอีกไม่กี่วันนี้ อุบัติเหตุปริศนา “เสี่ยชูวงษ์แซ่ตั๊ง” ตำรวจกองปราบปราม เดินหน้าค้นบริษัทโบรกเกอร์ รวบรวมพยานหลักฐานเกือบครบถ้วนแล้ว ทั้งพิรุธลายเซ็นที่มีการแก้ไขหลายจุด....ออกหมายจับพวกโกงหุ้นมูลค่า 300ล้านค่อยลากคออาชญากรผู้คุมเกมอยู่เบื้องหลัง.... ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าท้าทายกฎหมายโดยมีเกียรติยศ-ศักดิ์ศรีตำรวจเป็นเดิมพัน ประสานักข่าวอาชญากรรมเก่า หลังทดสอบทางวิศวกรรมด้วยการจำลองเหตุการณ์ตั้งแต่ขับรถ และลักษณะการชน ความเร็วขนาด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่ระบุไว้ในสำนวนสอบสวนจะทำให้คนตายได้ไหม ผนวกกับสภาพเครื่องในของเสี่ยชูวงษ์ จากผลพิสูจน์ของสถาบันนิติเวชฯมันควรจะรุนแรงขนาดนั้นหรือเปล่า คนหายใจไม่ทั่วท้องตอนนี้หนีไม่พ้น พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ....ใจเย็นๆครับเพ่ อีกไม่ช้า YES - NO -Okต้องได้รู้กัน.....
00000.....บทจบก่อนจาก “บิ๊กเกรียน”ขอมาขรึมๆ “ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับสามัญชนก็คือความสัมพันธ์ระหว่างน้ำกับเรือ ผู้ปกครองคือเรือ สามัญชนคือน้ำ น้ำสามารถทำให้เรือลอยได้ หรือมิเช่นนั้นก็สามารถให้เรือจมได้"โชคดีมีเงินใช้ครับ
00000.....ตำแหน่ง “พิทักษ์ 1”คนใหม่ หรือ “ผบ.ตร.คนที่ 11” ไม่น่าพ้น ป.แป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ส่วน อ.เอก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมาย หากมีอันต้อง “อกหักซ้ำสอง”หวังว่าท่านผู้มีอำนาจคงหาทางออกให้ บรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ผ่อนคลายขึ้น.....
00000.....“ศึกชิงบัลลังก์เจ้ายุทธจักรปทุมวัน” ยุคนี้ พ.ศ.นี้ยังมีลูกไม้เก่าขุดวิธีสาดโคลนคู่แข่งด้วยใบปลิวลับ...ข่าวว่าเช้าวันพฤหัสบดีที่ 13 ส.ค.ก่อนประชุม ก.ต.ช.เพียงวันเดียว “มือมืด”ไม่รู้ข้างไหนแอบโปรยใบปลิวโจมตี “บิ๊กตำรวจ”คู่แคนดิเดทคนหนึ่ง สาดเสียเทเสียเรื่องเป็น “เฮียใหญ่”วงการสีเทา บ่อนใหญ่ทุกแห่ง ตู้ม้าไฟฟ้าทุกเจ้าล้วนขึ้นตรงแถมเรียก “นาย”ทุกคำทำให้เห็นความสนิทชิดเชื้อ.....
00000.....มองด้วยความเป็นธรรมใบปลิวก็คือใบปลิว เป็นวิธีของพวกขี้ขลาดตาขาว ยุคนี้มนุษย์ไปถึงดาวพูลโต กันแล้วบรรดามือใบปลิวยังแอบเอาวิธีดั้งเดิมที่เคยได้ผลสมัย โค่นอธิบดี”แหวง”พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ มาใช้กันอีกหรือ.....
00000.....กลับมาราคาต่อรองเสมอไหน ระหว่าง “เอก - แป๊ะ” กลายเป็นว่าไม่มีใครกล้าจับเพราะเบียดสูสีแพ้-ชนะต้องถึงขั้นถ่ายรูป แต่หาก “นายกฯตู่”จะเลือกคนหนุ่มไม่เอาคนแก่ ต้องคิดให้ดีระบบคุณธรรมจะเหลือกันอีกไหม.....
00000.....สำคัญหากอ้างความมั่นคงโดยลืมหลักอื่นไปจนหมดสิ้น “บิ๊กเกรียน”ขอเตือนหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาที่ละน้อยๆ เห็นใจก็แต่ “บิ๊กเอก” หากวืดอีกรอบจะอยู่ยังไง .....ไหนๆก็จะปรับ ครม.กันแล้ว แถมยังมีข้าราชการระดับปลัดฯหลายกรมกองต้องสลับสับเปลี่ยน คิดไม่ออก “บิ๊กเกรียน”แนะนำให้ทำอย่างนี้เพื่อรักษาหัวใจน้อยๆ และผยุงสถาบันสีกากีไม่ให้บอบช้ำไปกว่าที่เป็นอยู่.....
00000.....ทั้ง “เอก-แป๊ะ”ว่าไปแล้วมีดีคนละอย่าง ใครได้ดีเป็น ผบ.ตร.คนใหม่อย่าเอาอย่าง “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงผู้ใก้ลจะเป็นอดีตอย่างเด็ดขาด ข้อแรกที่ขอกันซึ่งๆหน้าก็คืออย่าหนัก “พระเดช”แสดงอิทธิฤทธิ์กับลูกน้องจนเกินงาม....จริงอยู่นโยบายมาจากทหารแต่ไม่จำเป็นต้องใส่เกียร์ 5 เดินหน้า “ฆ่ามัน” เจ้านายคนใหม่ควรทำตัวให้เหมือนเขื่อน หรือทำนบกั้นน้ำ ถ้ามามากก็ต้องปล่อย มาน้อยต้องกัก เล่นกระทืบโครมๆ 1 ปีย้ายตำรวจเป็นพันมันมีอะไรดีขึ้นไหม.....
00000.....ขวัญ-กำลังใจโบยบิน หมดแรงไม่พอถึงขั้น “หมดใจ”แล้วจะไปสู้รบปรบมือกับโจรได้หรือ....ยังไม่รวมปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คำสั่งยกเลิกทวีคูณอายุราชการมองแต่เพียงว่าเพื่อยุติการเอารัดเอาเปรียบของตำรวจบางคน....คำตอบมันอยู่ที่แล้วคนดีๆยอมเสียสละเพื่อบ้านเพื่อเมืองจะเอาไง.....ฐานะผู้บริหารสูงสุดคิดกันแค่นี้บุญโขที่อยู่ได้ปีเดียว ขอทีนะวิธีคิดแก้ปัญหาแบบเป็นท่อนๆ แก้ได้ 1 เกิดอีก 1 มันไม่ใช่ ถ้าจะแก้ต้องว่ากันทั้งระบบ ก็อย่าไปยอมไอ้พวกขี้โกงเอาเปรียบคนอื่น หากทำไม่ได้คนมีหน้าที่ต้องหมั่นส่องกระจกดูหนังหน้าตัวเองบ่อยๆ.....
00000.....ของฝากชิ้นสุดท้ายก็คือวิธีบริหารงานด้วยการผ่องถ่ายอำนาจผ่านตัวแทน.....”บิ๊กเกรียน”จับตาการเคลื่อนไหวของ “โฆษกหน้าเหี่ยว”มาโดยตลอด ถือว่ารอบปีที่ผ่านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ “ขึ้นชั้น”มีบทบาทในเรื่องสำคัญๆมากมาย เฉพาะที่เป็นกระแสยิ่งไม่ขาดตกบกพร่องไล่มาตั้งแต่คดีทำลายเครือข่ายอดีตเจ้าพ่อสอบสวนกลาง “พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์” แม้แต่นโยบายปราบเด็กแว้น กวดขันสถานบริการ “โฆษกหน้าเหี่ยว”เดินหน้าเก็บเกี่ยวเครดิตทั้งหมด.....
00000.....กลายเป็นว่าองค์กรตำรวจขับเคลื่อนด้วยวิธีปกติไม่ได้ ทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจจากดาวอังคาร รวมทั้งสำนักงานแผนกปะผุที่มีร้อยแปดพันประการในรั้วปทุมวันนั้น มันง่อยเปลี้ย เสียแขนกันหรือไร.....
00000.....ต้องหยุดวิธีทำงานแบบ “ตีปี๊บ”เอาดัง แย่งงานคนอื่น ไม่ว่างานนโยบายหรือคดีอาชญากรรมระดับประเทศที่ประชาชนสนใจ.....ปล่อยตำรวจท้องที่หรือผู้รับผิดชอบโดยตรงเขาทำไปก่อนหากไม่เข้าท่า เห็นไปไม่รอดจึงค่อยจัดหากำลังเสริมหรือผู้บริหารจากส่วนกลางไปดูแลเพราะนี่คือหลักทำงานง่ายๆ ทั้งให้เกียรติ ไว้ใจ และให้ตำรวจทุกส่วนเสริมสร้างประสบการณ์สามารถยืนด้วยขาตัวเองได้....หากยังไม่เข้าใจ ภาษา“บิ๊กเกรียน”ต้องบอกว่า “หยุดบ้าโชว์ออฟผลงาน” 2 อย่างแค่นี้ตำรวจไทยทั้งประเทศก็น่าจะมีความสุขอย่างพอเพียงกับการทำงานแล้ว....
00000.....พูดถึงความสุขเดี๋ยวจะลืมความทุกข์.....ตอนนี้ตำรวจไทยโดยเฉพาะภาคอีสานกำลังเจอสภาพเศรษฐกิจตกสะเก็ดเล่นงานจนหน้าเขียวหน้าเหลืองตามๆกัน.....เฉพาะกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4ซึ่งมีกำลังพลราว 21,000 คน เป็นหนี้ธนาคารออมสิน 12,000 คนตั้งแต่ 2 แสนบาทไปถึง 2 ล้านบาทมียอดเงินสูงถึง 6 พันล้านบาท....แน่นอนว่าช่วงคืนความสุขกระเป๋าตำรวจแฟ่บถ้วนหน้า บ่อน ซ่อง ตู้เกมส์ ตู้ม้า “ของตาย”ที่เคยเป็นท่อน้ำเลี้ยงถูกตัดเกลี้ยงจนไม่มีอะไรเหลือ.....รายได้เสริมหายรายได้หลักเมื่อรวมเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง เงินประจำตำแหน่ง ส่วนแบ่งค่าปรับ ตำรวจบางนายยังหารายได้เสริมจากจ็อบ รปภ.ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งร้านทอง แต่ยังไม่พอเพราะมีรายจ่ายมากกว่า .....มีตัวเลขประมาณรายได้ตำรวจชั้นประทวนว่าอยู่ที่ 2.5 หมื่นบาทจนถึง 3 หมื่นบาทแต่ค่าใช้จ่ายประจำจะอยู่ที่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนธนาคาร ค่าอุปกรณ์ทำงาน บางรายซื้อปืน ซื้อวิทยุสื่อสาร ซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน.....
00000.....ส่วนเกินอีกครึ่งจะหามาจากไหน ยิ่งหมดกิจการสีเทาตำรวจก็ยิ่งหมดหนทางนอกจากกู้หนี้ยืมสินพอกพูนไปเรื่อยๆ....ตำรวจบางกลุ่มเช่นตำรวจจราจร เร่งเพิ่มรายได้จากยอดค่าปรับ สัญญาบัตรระดับบริหารส่วนหนึ่งหาทางออกด้วยการงัดนโยบายบังคับใช้กฎหมายตรวจเข้มการจราจร....บางคนอ้างว่ากวดขันวินัยการขับขี่แต่เบื้องหลังก็คือหารายได้เข้ากระเป๋า“บิ๊กเกรียน”มีบัญชีลูกหนี้ตำรวจภาค 4 อยู่ในมือระบุว่าตำรวจชั้นประทวนของจ.กาฬสินธุ์ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคราม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี เป็นหนี้เกิน 3 งวดจำนวน 276 ราย ถูกฟ้องคดีแพ่ง 502 ราย ถูกฟ้องล้มละลาย 56 ราย รวมทั้งสิ้น 834 ราย....
00000.....ยังไม่รวมกับตำรวจไทยในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศรวมทั้งประทวนและสัญญาบัตรประมาณ 240,000 นาย เป็นหนี้แล้ว 200,000 นาย เฉลี่ยภาคละ 20,000 นาย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างฟ้องล้มละลายราว 2,000 นายและมีส่วนหนึ่งถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว.....
00000.....ถูกของ “บิ๊กอ๊อด”ที่บอกว่าปัญหาหนี้สินของลูกน้องเพราะใช่เงินเกินตัว......แต่หนี้ระดับ 1 แสนไม่เกิน 2 ล้านบาทนั้นคนไทยเกือบทั่วประเทศเป็นกันทั้งนั้น ยังไม่รวมอาชีพครูล้วนหนี้ท่วมหัวทั้งสิ้น....ทางหนึ่งพวกชอบก่อหนี้แล้วไม่มีปัญญาส่งต้นส่งดอกคงหาคนเห็นใจไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่ระดับบังคับบัญชาไม่ช่วยแล้งยังซ้ำ ตอกลิ่มด้วยวาจาไม่มีวินัยการเงินบ้าง ใช้จ่ายเกินตัว จนถึงขั้นเอาไปมั่วการพนัน....โถท่าน ผบ.ส่วนจริงมันก็มีแต่ส่วนใหญ่มันไม่เป็นอย่างนั้น ถามว่าสวัสดิการอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ตลอดจนแฟลตที่พักตำรวจมีให้เขาไหมล่ะ.....ขอโทษ..เฉพาะที่เห็นๆแฟลตส่วนกลางใน กทม.ทั้งซอยลือชาย ย่านอุดมสุขหรืออื่นๆมันไม่พอรองรับ บางแห่งน้องๆสลัมถ้าเขาเลือกได้พอมีครอบครัวมีลูกมีเต้าใครจะอุดอู่อยู่กับบรรยากาศซกมกแบบนั้น....นี่ไงเขาจึงมีคำคม “ตำรวจนักเลง”ว่า “อิ่มอย่าลืมหิว ใหญ่อย่าลืมเล็ก”ช่วยไม่ได้ก็อย่ามาซ้ำเติมกันเลย.....
00000.....ควันหลงวันแม่...เว็บเพจ “ผู้กำกับอู๋” พ.ต.อ.บรรพต มุ่งขอบกลางผกก.สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเน็ตด้วยภาพกอดเด็กกำพร้าภายใต้ชื่อ “คนที่เขาไม่มีแม่....เขาขอแค่มีคนกอด”.....”บิ๊กเกรียน”เห็นแล้วน้ำตาจิไหล ซาบซึ้งจริงๆ ....หลายคนอาจคิดว่า “สร้างภาพ”วันแม่แต่ความเอื้อเฟื้อกับเด็กด้อยโอกาส “ผกก.อู๋”ทำมานานแล้วจนได้รางวัลคนดีที่เรายกย่อง จากสำนักงานกิจการและโครงการในพระราชดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา....”รางวัลแห่งความภาคภูมิใจในชีวิตที่ผมได้รับจากการก่อตั้งโครงการตำรวจใจดีเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า,เด็กถูกทอดทิ้ง,เด็กด้อยโอกาส และเด็กที่ถูกทำร้าย ถูกกระทำรุนแรง ซึ่งในขณะนี้มีเด็กที่ผมรับอุปการะไว้ในโครงการตำรวจใจดีนี้จำนวน 45 คน....เป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นในการทำความดีช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสต่อไป...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”....สวดยอดจิงๆผู้กำกับ.....
00000.....พูดถึงเรื่องหนี้สินตำรวจ หากเจ้านายคนใหม่มารับตำแหน่งแล้วจัดโครงการหาอาชีพเสริมให้กับบรรดาแม่บ้านตำรวจที่นั่งๆนอนอยู่เฉยๆก็คงดีไม่น้อย เพราะส่วนหนึ่งนอกจากไม่ช่วยผัวยังเป็นตัวสร้างปัญหาซะเอง เช่นแอบผัวตอนเข้าเวรยามไปเล่นเก้าเก ป๊อกเด้ง บางคนก่อหนี้สินล้นพ้นตัวจนบ้านแตก....สภาพแบบนี้อย่าคิดว่าเป็นเรื่อวงส่วนตัวหรือเรื่องของครอบครัวเพราะ “ผล”ย่อมสะท้อนถึงการทำงานไม่มากก็น้อย แทนที่จะคาดโทษ “เอาผิด”กับผู้บังคับบัญชาฐานปล่อยปละละเลยน่าจะเปลี่ยนเป็นหากองทุนสักก้อนจัดหาอาชีพเสริมว่ากันตามชอบตามถนัด ส่วนจะล้มหรือลุกลองดูสักตั้งดีกว่าไม่ทำอะไรเลย....มิติใหม่ “แม่บ้านตำรวจ”ต้องไม่เพียงคุณหญิงคุณนาย หรือจำกัดแค่เมีย “นายพล”แต่ควรเปิดโอกาส ปลุก “เมียตำรวจ”ลุกมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ผัว “บิ๊กเกรียน”ยอมรับได้กับอภิสิทธิ์เล็กๆน้อยๆหากจะทำให้คุณภาพชีวิตตำรวจดีขึ้น ถึงขนาดจัดหาโรงเรียนที่เหมาะสม มีโควต้าพิเศษ ใก้ลโรงพัก ใก้ลครอบครัวเพื่อให้หมดกังวลใจ.....ผลที่ได้เกินคุ้มความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เห็นเป็นรุปธรรม....ตำรวจอยู่พอกินคือแบบนี้ไม่ใช่เสกด้วยคำพูด....เกียรติยศศักดิ์ศรีของตำรวจ - การสร้างความยอมรับถึงกับจะให้ตำรวจเป็นที่รักของประชาชน หากไม่มีขวัญกำลังใจ ไม่มีอนาคต...ขอโทษ...สุนัขตัวไหนมันจะเห่า จะกัดจะทำหน้าที่ของมัน....
00000.....มาเรื่องอาชญากรรม 2 คดีที่ค้างคากันบ้าง นับจากวันถูกสังหาร 29 มิ.ย.ผ่านมาเดือนครึ่งแล้วตำรวจชุดคลี่คลายคดีอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ “สมยศ สุธางค์กูล”ยังเก้ๆกังๆหาช่องทางไม่เจอ.....3 ประเด็นหลัก 1.บาดหมางเรื่องการพนันวงเงิน 4 ล้านบาท 2.วิ่งเต้นช่วยเหลือคดี 25 ล้านบาท 3.พิพาทที่ดินเช่าย่านถนนพระราม 9 วนเวียนอยู่อย่างนี้ยังหาแววไม่เจอ.....พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สืบสวน บช.น. ผอมลงๆอดตาหลับขับตานอนแต่ไม่มีผลคืบหน้า ส่วนลูกพี่ “บิ๊กปู”พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิตพรามณกุล ผบช.น. ซี๊ดบุหรี่หนัก วันๆพ่นควันยิ่งกว่าปล่องโรงสีจนบัดนี้ยังไปไหนมาสามวาสองศอก พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอกรองผบ.ตร.ฝ่ายปราบปราม ยิ่งไม่ต้องพูดถึง “มุกหมด”แตกฟองไม่ไหวสงสัยปิดคดีไม่ลงต้องกลบด้วยสายลมกับแสงแดด....
00000.....อีกคดีใหญ่แนวโน้มน่าจะออกหมายจับอีกไม่กี่วันนี้ อุบัติเหตุปริศนา “เสี่ยชูวงษ์แซ่ตั๊ง” ตำรวจกองปราบปราม เดินหน้าค้นบริษัทโบรกเกอร์ รวบรวมพยานหลักฐานเกือบครบถ้วนแล้ว ทั้งพิรุธลายเซ็นที่มีการแก้ไขหลายจุด....ออกหมายจับพวกโกงหุ้นมูลค่า 300ล้านค่อยลากคออาชญากรผู้คุมเกมอยู่เบื้องหลัง.... ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าท้าทายกฎหมายโดยมีเกียรติยศ-ศักดิ์ศรีตำรวจเป็นเดิมพัน ประสานักข่าวอาชญากรรมเก่า หลังทดสอบทางวิศวกรรมด้วยการจำลองเหตุการณ์ตั้งแต่ขับรถ และลักษณะการชน ความเร็วขนาด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่ระบุไว้ในสำนวนสอบสวนจะทำให้คนตายได้ไหม ผนวกกับสภาพเครื่องในของเสี่ยชูวงษ์ จากผลพิสูจน์ของสถาบันนิติเวชฯมันควรจะรุนแรงขนาดนั้นหรือเปล่า คนหายใจไม่ทั่วท้องตอนนี้หนีไม่พ้น พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ....ใจเย็นๆครับเพ่ อีกไม่ช้า YES - NO -Okต้องได้รู้กัน.....
00000.....บทจบก่อนจาก “บิ๊กเกรียน”ขอมาขรึมๆ “ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับสามัญชนก็คือความสัมพันธ์ระหว่างน้ำกับเรือ ผู้ปกครองคือเรือ สามัญชนคือน้ำ น้ำสามารถทำให้เรือลอยได้ หรือมิเช่นนั้นก็สามารถให้เรือจมได้"โชคดีมีเงินใช้ครับ
