ASTVผู้จัดการ - “ชูวิทย์” เตรียมอุปกรณ์พร้อมเข้าเรือนจำ หากศาลตัดสินคดีรื้อบาร์เบียร์ปี 2546 ในวันนี้ต้องติดคุก ยืนยันเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีรื้อบาร์เบียร์ สุขุมวิท ซอย 10 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวกรวม 131 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืนและกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลอื่นปราศจากเสรีภาพ
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 มกราคม 2546 จำเลยได้สั่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปรื้อบาร์เบียร์ 60 ร้านในซอยสุขุมวิท 10 จนได้รับความเสียหาย คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 เดือน นายชาญเวทย์ มาลัยบูชา จำเลยที่ 49 ซึ่งเป็นทนายความ ที่นำเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ให้ลงบันทึกประจำวันให้คนอื่นเข้าใจว่าการรื้อถอนของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง
ขณะที่ในชั้นศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับสั่งจำคุกนายชูวิทย์ กับพวกอีก 2 คนที่เป็นนายทหาร คนละ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอื่นให้ยกฟ้อง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านฎีกา ในเวลา 09.00 น. โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายชูวิทย์ได้เดินทางมายังศาลเพื่อฟังคำพิพากษาฎีกา โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า วันนี้ได้เตรียมพร้อมรับฟังคำพิพากษา หากศาลพิจารณาพิพากษาจำคุก ตนก็พร้อมที่จะเข้าเรือนจำ ในวันนี้ได้เตรียมขัน สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และเครื่องใช้ส่วนตัวมาพร้อมแล้ว ทั้งนี้เห็นว่าในคดีมีผู้ต้องหาจำนวนมากอาจทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งคดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2546 จนถึงขณะนี้ใช้เวลานานกว่า 12 ปีแล้ว และควรที่จะสิ้นสุดได้แล้ว ตนพร้อมน้อมรับในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร ขณะนี้ศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี