xs
xsm
sm
md
lg

นักเรียนเมืองตรังโร่ร้อง ป.ช่วยสางคดีแม่ถูกรุมทำร้ายแต่กลับติดคุกเสียเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


4 นักเรียนจากตรัง โร่ร้องขอความเป็นธรรมกองปราบปราม ช่วยสางคดีแม่ถูกรุมทำร้ายแต่กลับมาติดคุกเสียเอง พร้อมให้ทางตำรวจรื้อฟื้นคดีหาพยานหลักฐานใหม่อีกครั้ง

วันนี้ (17 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น. น.ส.ปาจรีย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนสภาราชินี พร้อมด้วยน้องชาย และน้องสาว นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนเดียวกันรวม 4 คน อยู่บ้านเลขที่ 165/3 ซอยสวนพริก ถนนตรัง-ปะเหลียน เทศบาลต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มาลัย พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมและช่วยรื้อคดี หลังจากที่ นางปิยพร ขุนนุ้ย อายุ 54 ปี มารดาถูกรุมทำร้ายร่างกายแต่กลับถูกศาลจำคุก เหตุเกิดเมื่อปี 2555

น.ส.ปาจรีย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2555 มารดาของพวกตนซึ่งเป็นแม่ค้าขายมะพร้าวขูดอยู่ในตลาดสดเทศบาลย่านตาขาว โดยวันเกิดเหตุนายหัสดี คชาวุธ ได้เข็นรถผ่านแผงค้าและได้พูดว่าใครไม่หลีกจะชนให้ตาย แม่ของตนก็ได้บอกว่าที่ตรงนี้เป็นของร้านพี่ ทำให้นายหัสดีไม่พอใจเกิดมีปากเสียงกัน และนายหัสดีก็ได้กระชากคอเสื้อแม่ตนก่อนที่จะชกต่อยเข้าที่ใบหน้า และลำตัวของแม่ตนหลายครั้ง กระทั่งแม่ตนได้เหวี่ยงมีดพร้าที่แม่ถืออยู่ในมือไปถูกหน้าอีกฝ่ายจากนั้นก็ได้มีพรรคพวกของนายหัสดินซึ่งประกอบไปด้วย นายสาฝีอี นายจำลอง และลูกจ้างอีก 2 คนได้เข้ามารุมทำร้ายแม่ตน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนเห็นเป็นจำนวนมาก ครั้นจะมีคนเข้ามาช่วยแต่ก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจน์ขู่ว่าหากช่วยเหลือก็จะโดนแบบนี้

น.ส.ปาจรีย์กล่าวต่อว่า ภายหลังเกิดเหตุก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.จำรูญ เอียดสีทอง พนักงานสอบสวน สภ.ย่านตาขาว เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้ก่อเหตุ แต่ปรากฏว่านายตำรวจท่านนี้เพิกเฉยไม่ลงพื้นที่สอบปากคำ และสืบพยานหาความจริง แต่กลับบอกให้แม่ของพวกตนไปหาคนผิดมาเอง อีกทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เพียงว่าคู่กรณีมีเพียง 2 คน จนแม่ของตนต้องมาขอแจ้งความใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ ในส่วนของคดีพยายามฆ่า ศาลได้ทำการยกฟ้องไปแล้ว จึงเหลือเพียงคดีทำร้ายร่างกาย ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกแม่เป็นเวลา 4 เดือน และปรับ 31,000 บาท ส่วนศาลอุทธรณ์สั่งจำคุกแม่ 2 เดือน กับ 20 วัน อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ศาลฏีกาก็พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ขณะนี้แม่ของตนอยู่ที่เรือนจำ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นว่าแม่ของตนต้องตกเป็นจำเลยในคดีแทน และต้องติดคุก ทำให้ครอบครัวของตนขาดเสาหลัก จากที่เคยมีความสุขก็ไม่มี อยู่อย่างหวาดระแวง หนำซ้ำระหว่างที่ต่อสู้ในชั้นศาลทำให้มีหนี้สินติดตัวจำนวนมาก จึงอยากวิงวอนขอความเป็นธรรมให้ทาง บก.ป.ช่วยรื้อฟื้นคดีหาพยานหลักฐานมาใหม่อีกครั้ง พยายามทุกวิถีทางที่อยากจะช่วยแม่ให้พ้นผิด โดยวานนี้ได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาลมาแล้วเช่นกัน

ด้าน พ.ต.ท.สมบัติกล่าวว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการรับเรื่องไว้ ก่อนสอบปากคำก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาให้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานใหม่เพื่อช่วยในการคลี่คลายคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น