นายกฯ สายตรงสั่งคลี่คลายคดี “ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง” ผบ.ตร.เด้งรับ สั่ง ผบช.น.-รรท.ผบก.ป.เร่งสอบ พบมีเงื่อนงำหลังพบมีการโอนหุ้น 300 ล้านบาทให้หญิงต้องสงสัยก่อนเสียชีวิตไม่กี่สัปดาห์ ทำให้ญาติมองเป็นการฆาตกรรม พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ญาติของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร้องเรียนให้รื้อคดีที่นายชูวงษ์เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ขับ โดยสงสัยว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์มีเงื่อนงำหลังพบมีการโอนหุ้น 300 ล้านบาทให้หญิงต้องสงสัยก่อนเสียชีวิตเพียงไม่กี่สัปดาห์ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บรรยินเข้าพบตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แสดงเจตนารมณ์ว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน โดย พ.ต.ท.บรรยินมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุไม่มีกรณีอื่นที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม หรือสร้างสถานการณ์ให้เป็นอุบัติเหตุ ขณะเดียวกัน ญาติของนายชูวงษ์ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโทรศัพท์หาตนว่านายกรัฐมนตรีมีบัญชาถึงตนให้ดำเนินสืบสวนสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนจึงโทรศัพท์สั่งการไปยัง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ ซึ่ง ผบช.น.รับปากว่าจะไปดูคดีนี้ด้วยตัวเองเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจ อาจมีการเกรงว่าตำรวจจะให้การช่วยเหลือกัน ตรงนี้ตนยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือ เมื่อนายกฯ บัญชามาชัดเจน ตนและผู้เกี่ยวข้องต้องให้ความเป็นธรรม ทุกอย่างว่าตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่มีการช่วยเหลือหรือเข้าข้างกันเด็ดขาด ทั้งนี้ หาก พ.ต.ท.บรรยินไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมเช่นกัน หากไม่ใช่การฆาตกรรมอย่างที่เข้าใจกันก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม ลงไปดูคดีนี้ด้วย ไปติดตามเนื่องจากฝ่ายผู้เสียหายญาติผู้ตายได้ไปร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามในประเด็นการโอนหุ้นที่ไม่ชอบมาพากล โดยมีการอายัดหุ้นและเงินที่ได้จากการขายหุ้นเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข ที่ทำคดีนี้ เข้าใจว่าในเบื้องต้นเมื่อพนักงานสอบสวนยังไม่มีข้อมูลหรือพยานหลักฐานที่บ่งบอกว่าเป็นการฆาตกรรม พนักงานสอบสวนก็จำเป็นต้องรับแจ้งความเป็นเรื่องอุบัติเหตุ แต่จากนั้นเมื่อมีพยานหลักฐานบ่งบอกว่าเป็นการฆาตกรรม หรือปรากฎข้อมูลใดก็ต้องรับแจ้งความในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นญาติของนายชูวงษ์ไม่ได้ติดใจเชื่อว่าเป็นการขับรถเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต ญาติของผู้ตายก็นำศพไปฌาปนกิจตามประเพณี กระทั่งภายหลังพบการโอนหุ้นมีการยักย้ายถ่ายเทหุ้นแบบผิดปกติจึงเข้าร้องเรียน และมีเหตุผลอื่นๆ ทำให้ญาติของผู้ตายเข้าใจว่าไม่น่าเป็นอุบัติเหตุ และมองเป็นการฆาตกรรม ตรงนี้ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน
ส่วนเรื่องรายงานผลการชันสูตรศพนายชูวงษ์ โดยสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจนั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนทราบจากข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชนเท่านั้นว่าเป็นการตายก่อนประสบอุบัติเหตุ ก็ยังเป็นเพียงข่าว ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ ต้องมีรายงานทางการเสียก่อนจึงจะระบุชัดเจนได้ ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.ด้านนิติวิทยาศาตร์ ซึ่งตนมอบหมายให้ไปดูคดีนี้มีความสนิทสนมกับพี่สาวนายชูวงษ์นั้น มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเรียนหลักสูตรต่างๆ ร่วมกันก็รู้จักกัน คนที่เรียนหลักสูตรต่างๆ ใน กทม.รู้จักกันทั้งนั้น ในกรณีนี้ตนมอบให้ พล.ต.อ.จรัมพรไปช่วยดู ไปให้คำแนะนำ ไม่ได้ให้ลงไปแอ็กชันหรือทำสำนวนอะไร
