xs
xsm
sm
md
lg

นักเรียน 4 พี่น้องชาวตรังถามหาความเป็นธรรมคดีแม่ถูกรุมทำร้าย แต่ตำรวจไม่จริงใจดำเนินคดีคู่กรณี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - 4 พี่น้องชาวเทศบาล ต.ย่านตาขาว จ.ตรัง บุกร้องขอความเป็นธรรมยังศูนย์ดำรงธรรม วอนขอให้ ผบ.ตร.รื้อคดีที่แม่ของตนถูกรุมทำร้ายร่างกายเมื่อปี 2555 เนื่องจากแม่ของตนไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ครอบครัวชีนะพันธ์ ซึ่งประกอบไปด้วย พี่คนโตคือ น.ส.ปาจรีย์ อายุ 18 ปี ซึ่งเพิ่งจะจบการศึกษาจากโรงเรียนสภาราชินี โรงเรียนประจำจังหวัดตรัง และกำลังรอเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นายวรินทร์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ น.ส.สิรีธร อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสภาราชินี และน้องสุดท้อง ด.ช.วรุฒม์ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนวิเชียรมาตุ โดยทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 165/3 ซ.สวนพริก ถ.ตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง
 

 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2555 มารดาของพวกตนคือ นางปิยพร ขุนนุ้ย อายุ 54 ปี แม่ค้าขายมะพร้าวขูดอยู่ในตลาดสดเทศบาลย่านตาขาว ได้ถูกชาววัยรุ่นอายุประมาณ 21 ปี พร้อมญาติพี่น้อง และลูกน้อง ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในตลาดเดียวกันรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากขณะชุลมุนมีดพร้าที่แม่ถืออยู่ในมือได้เหวี่ยงไปถูกหน้าอีกฝ่าย จึงถูกรุมหนักขึ้น และหลังเกิดเหตุต่างฝ่ายต่างก็แจ้งความข้อหาว่าถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย โดยที่ฝ่ายชายวัยรุ่นแจ้งความว่าแม่ของพวกตนพยายามฆ่าพวกเขา ขณะที่แม่ก็แจ้งความกลับไปว่า ถูกชาย 5 คนรุมทำร้ายร่างกาย

อย่างไรก็ตาม คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.ย่านตาขาว ลงบันทึกไว้เพียงว่าคู่กรณีมีเพียง 2 คน อีกทั้งหลังแจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ลงพื้นที่สอบปากคำ และสืบพยานหาความจริง แต่กลับบอกให้แม่ของพวกตนไปหาคนผิดมาเอง ทั้งนี้ ในส่วนของคดีพยายามฆ่า ศาลได้ทำการยกฟ้องไปแล้ว จึงเหลือเพียงคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกแม่เป็นเวลา 4 เดือน และปรับ 31,000 บาท ส่วนศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุกแม่ 2 เดือน กับ 20 วัน และปรับจำนวนเท่าเดิม โดยขณะนี้กำลังรอศาลฎีกาพิจารณาคดีในเดือนกรกฎาคมนี้
 

 
น.ส.ปาจรีย์ ชีนะพันธ์ บุตรสาวคนโต กล่าวว่า คดีนี้ครอบครัวของตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าตำรวจที่รวบรวมพยานหลักฐาน โดยที่พยานของอีกฝ่ายเป็นญาติพี่น้อง และลูกน้องอีกทั้งยังเป็นพยานเท็จด้วย จึงอยากขอความช่วยเหลือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ทำคดีนี้ใหม่ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพราะหลังเกิดเหตุทำให้ครอบครัวของตนต้องตกเป็นหนี้สิน 4-5 แสนบาทแล้ว เพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้คดีดังกล่าว

ด้าน นายกิตติพงศ์ หาขุน หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก 4 พี่น้องนักเรียนดังกล่าว ระบุว่า จะทำหนังสือไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดตรัง เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลความเป็นธรรมสำหรับคดีนี้ต่อไป
 
 

 

กำลังโหลดความคิดเห็น