“ศรีวราห์” ผบช.น. เผยตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยยิง “สมยศ สุธางค์กูร” เจ้าพ่อคาเฟ่ มาสอบสวนแล้ว และพยานชี้ตัวระบุคล้ายผู้ก่อเหตุ เตรียมพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอกับลายนิ้วมือแฝงที่ได้จากรถ จยย.
วันนี้ (11 ก.ค.) ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์คนร้ายจ่อยิง นายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิตบริเวณหลังร้านเฮงหูฉลาม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง เมื่อค่ำวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าจะลงมือก่อเหตุยิงนายสมยศจำนวน 2 ราย โดยมีการนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ในวันก่อเหตุมาชี้ตัว ซึ่งทางพยานระบุว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย มีความคล้ายคลึงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นอย่างมาก จากนี้จะนำลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ไปเปรียบเทียบกับผลตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงจากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซุกิ รุ่นสแมช สีดำ - แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ยึดมาได้จากซอยรามคำแหง 24 แยก 2 เมื่อวานนี้ คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 15 วัน ถ้าผลตรวจพิสูจน์ออกมาตรงก็จะนำไปสู่การออกหมายจับทันที อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เร่งรัดผลการตรวจพิสูจน์โดยเร็ว ซึ่งประเด็นการคุมตัวผู้ต้องสงสัยต้องไปสอบถามทาง ผบช.ก. ทั้งนี้ รายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยอย่างละเอียดได้
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นปมสังหารนั้น ทางชุดสืบสวนไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะยังมีข้อสงสัยบางประการที่ชุดสืบสวนต้องลงพื้นที่หาหลักฐานมาคลี่คลายปม เช่น ประเด็นการโกงพนัน การวิ่งเต้นคดี และเรื่องที่ดิน นอกจากนี้ อาจมีการเชิญพยานที่เคยสอบปากคำมาแล้วมาสอบอีกครั้งในบางประเด็นที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสงสัย
ด้านพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวว่า การติดตามตัวผู้ก่อเหตุนั้นได้สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีของกองบังคับการปราบปรามสนธิกำลังร่วมกันตรวจสอบซุ้มมือปืนตามพื้นที่จังหวัดต่างๆโดยเน้นไปพื้นที่ของบช.ภ.7และภาค 8 อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข่าวเพื่อความชัดเจน ยืนยันว่ายังไม่ได้ตัวมือปืนที่ก่อเหตุหรือระบุได้แน่ชัดว่ามือปืนที่ก่อเหตุมาจากซุ้มมือปืนไหน สำหรับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้นั้นเป็นชนิดรีวอลเวอร์ จากการพิสูจน์ทราบว่าเป็นหัวกระสุนขนาด .38 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งอาวุธปืนที่มีขนาด .38 รีวอลเวอร์ หรือ .357
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ชุดสืบสวนได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ 2 ราย หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อ2-3 วันที่ผ่านมา ชุดสืบสวนพบผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายที่ อ.ท่าตะโก จ.ชุมพร เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำและพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ นอกจากนี้ในส่วนของประเด็นสังหารนั้นชุดสืบสวนยังไม่สามารถตัดประเด็นใดทิ้งได้ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าทุกประเด็นอาจมีความเชื่อมโยงกัน หรือ อาจนำไปสู่ปมสังหารก็เป็นได้แต่ทั้งนี้ได้เน้นไปที่ปมความขัดแย้งเรื่องที่ดิน จ.นครปฐม รวมทั้งความชนวนความขัดแย้งเรื่องวิ่งเต้นคดีที่มีการเจราจาและเรื่องยังไม่จบ จนอาจจะกลับมาเป็นชนวนความขัดแย้งและนำไปสู่การสังหารเจ้าพ่อคาเฟ่