คืบหน้าพบจักรยานยนต์ต้องสงสัย คาดเป็นคันเดียวกับที่คนร้ายใช่ก่อเหตุยิง “เสี่ยสมยศ สุธางค์กูร” จอดทิ้งริมถนนย่านรามคำแหง 24
วันนี้ (10 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีของกองบังคับการปราบปรามผสานกำลังร่วมกันในการตรวจสอบซุ้มมือปืนตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยเน้นไปที่ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอปราณบุรี รวมทั้งในพื้นที่ของ บช.ภ.7 และภาค 8 ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปหาข่าวในตามพื้นที่ต้องสงสัยเนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่าตัวละครที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่เหล่านี้
“จนถึงขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข่าวเพื่อหาความชัดเจน และยืนยันว่ายังไม่ได้ตัวมือปืนที่ก่อเหตุ หรือระบุได้แน่ชัดว่ามือปืนที่ก่อเหตุมาจากซุ้มมือปืนไหน” รักษาการ ผบก.ป.กล่าว
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้นั้นเป็นอาวุธปืนชนิดรีวอลเวอร์ จากการพิสูจน์ทราบว่าเป็นหัวกระสุนขนาด .38 สามารถใช้ได้ทั้งปืนที่มีขนาด .38 รีวอลเวอร์ หรือ .357 ในส่วนของประเด็นปมสังหาร ชุดสืบสวนได้มีการประสานข้อมูลและทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจนครบาลกับกองบังคับการปราบปราม ถึงตรงนี้คงต้องบอกว่ามีความคืบหน้าไปมาก โดยขณะนี้เรายังคงให้น้ำหนักไปที่ 4 ประเด็นหลักๆ อยู่ แต่เมื่อพบข้อมูลบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็ต้องมีการพิสูจน์ทราบ
นอกจากนี้ยังพบพิรุธจากการให้การบุคคลใกล้ชิดผู้ตายซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยอมรับว่าแนวทางการสืบสวนสามารถที่จะพุ่งเป้าปมสังหารได้ชัดเจนมากขึ้น
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.ท.สันติปกรณ์ หนูกัน พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุพบรถจยย.ต้องสงสัย ลักษณะคล้ายกับจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุจ่อยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ย่านพระราม 9 เสียชีวิต บริเวณหลังร้านเฮงหูฉลาม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง เมื่อค่ำวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา จอดอยู่บริเวณถนนรามคำแหง 24 แยก 2 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บชน. พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตร ผกก.สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก, สน.คลองตัน และกก.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่รกร้างริมถนนส่วนบุคคลทางเข้าบ้านเลขที่ 41 ถนนรามคำแหง 24 แยก 2 ใกล้กับอู่ช่างภูมิ เปิดให้บริการรับซ่อมรถยนต์ทั่วไป พบจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซุกิ รุ่นสแมช สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่แอบบริเวณข้างทาง จากการสอบนายภูมิ ชมจันทร์ อายุ 39 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถดังกล่าว ให้การว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วตนเลิกงานแล้วปิดอู่ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.เพื่อเดินทางไปบ้านแม่ยายย่านถนนพัฒนาการ ตอนนั้นบริเวณดังกล่าวยังไม่พบว่ามีจักรยานยนต์มาจอดแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้เดินทางกลับมาก็พบว่ามีจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นรถคนเมามาจอดทิ้งไว้ เนื่องจากมีคนมาจอดจักรยานยนต์ทิ้งไว้ในลักษณะนี้บ่อยครั้ง จึงกลับเข้าอู่เพื่อนอนหลับพักผ่อนตากปกติ ต่อมาในเช้าวันรุ่งขึ้นตนได้เปิดอู่ตามปกติ แต่พบว่าจักรยานยนต์คันดังกล่าวยังจอดอยู่ที่เดิมโดยหันหน้าไปทางบ้านเลขที่ 41 จึงถามหาว่าคนละแวกใกล้เคียงว่าเป็นรถของใครแต่ไม่มีใครทราบ ด้วยความที่เกรงว่าจะขวางทางจึงชักชวนเพื่อนอีก 2 คนให้มาช่วยกันเข็นไปแอบไว้ข้างทาง กระทั่งวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถยนต์เข้ามาซ่อมที่อู่ของตน และตนได้พูดคุยกันว่ามีจักรยานยนต์ลักษณะดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวมาเดินไปดูก็พบว่าเป็นจักรยานยนต์ลักษณะคล้ายกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงนายสมยศก่อนหลบหนีไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่าเบื้องต้นได้นำตัว รปภ.ร้านเฮงหูฉลามมาดูจักรยานยนต์ดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวมีตำหนิคล้ายกับจักรยานยนต์คันที่คนร้ายใช้จอดรอก่อนยิงนายสมยศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะนำหลักฐานที่ได้วันนี้ไปเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่มีเพื่อติดตามคนร้าย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บลายนิ้วมือจากจักรยานยนต์คันดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบลายนิ้วมือผู้ที่ทำเคลื่อนย้ายจักรยานยนต์เพื่อคัดแยกลายนิ้วมือ ก่อนนำรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่ารถคันดังกล่าวมีใครเป็นผู้ครอบครองและมีการดัดแปลงสภาพรถหรือไม่ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเลขทะเขียนรถดังกล่าวพบว่าเป็นป้ายทะเบียน ปมฉ 540 กทม. หมายเลขเครื่อง e440-th115049 ของนายหลง สายแดง พักอาศัยอยู่ใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบต่อไป