xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ตราชั่งเตรียมชง “บิ๊กตู่” ใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น-ร้านขายเหล้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
รมว.ยุติธรรม เตรียมเสนอร่างกฎหมายให้ “บิ๊กตู่” ใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น - ร้านขายเหล้าใกล้สถานศึกษา หากพบผิดสั่งปิดทันที

วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาเยาวชนแข่งรถบนทางสาธารณะ และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษา โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 40 แห่ง เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า กรณีแข่งรถบนทางสาธารณะทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ไม่เฉพาะเด็ก เยาวชน แต่รวมไปถึงผู้ใหญ่ด้วย โดยผู้ขับขี่จะมีมาตรการตั้งแต่ขั้นตระเตรียม หากพบว่ามีการมั่วสุม รวมกลุ่มที่นำไปสู่การแข่งรถในทางสาธารณะ ให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการยับยั้ง พร้อมทั้งยึดรถเป็นของกลาง และหากเป็นรถที่มีการดัดแปลงสภาพให้เจ้าของปรับสภาพรถไปสู่สภาพเดิมตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนส่งคืนให้เจ้าของ นอกจากนี้ หากพบว่ามีการสร้างหรือใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊กหรือโปรแกรมแชตไลน์เป็นช่องทางสำหรับนัดรวมกลุ่มให้ดำเนินการปิดช่องทางนั้น
]
แต่หากมีการแข่งขันเกิดขึ้นแล้วก็มีกฎหมายเอาผิดได้เลย ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ปกครองต้องมีส่วนรับผิดชอบมากขึ้น รวมถึงการดำเนินคดีตามกฎหมาย เช่น มีการทำทัณฑ์บน การจำคุก หรือปรับ หากสืบเสาะทราบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้บุตรไปแข่งรถ หรือให้มั่วสุมเพื่อการแข่งรถ โดยเจ้าหน้าที่สามารถเรียกผู้ปกครองมาตักเตือน แนะนำ วางข้อกำหนด หรือวางเงินประกันว่าจะไม่ปล่อยให้บุตรหลานกระทำผิดอีกหากพบมีการกระทำผิดซ้ำอาจริบเงินประกันหรือระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

สำหรับผู้ประกอบการ ผู้ผลิต จำหน่ายอะไหล่ ที่มีส่วนส่งเสริม สนับสนุน อันนำไปสู่การแข่งขันรถในทางสาธารณะ จะมีความผิดตามกฎหมายจราจรทางบก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจได้การทันที หรือสั่งปิดร้านกรณีไม่มีใบอนุญาต เช่นกลุ่มโรงงาน และร้านค้ารายย่อยที่ให้บริการไม่ถูกกฎหมายและในลักษณะ Mobile Unit

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า กรณีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษา หรือสถานที่ที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องสุรา เรื่องเสียงดัง ยาเสพติด โดยจำแนกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มใกล้สถานศึกษา ซึ่งต้องมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดหากเข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น สั่งปิดร้านถาวร และ 2. คือกลุ่มทั่วไป เช่นในหมู่บ้าน ที่ที่ส่งเสียงดัง มีการจำหน่ายเกินเวลากำหนด เพิงร้านอาหาร ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ ปล่อยปละละเลยให้เยาวชนต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ โดยในส่วนนี้หากมีการกระทำความผิดอาจมีการสั่งปิด 5 ปี และเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้คำจำกัดความคำว่าใกล้สถานศึกษาเป็น"ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา”

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการข้างต้นเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้น ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น ได้ให้กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดโซนนิงให้ชัดเจน ว่า ควรอยู่ในระยะใด เนื่องจากบางพื้นที่มีความแตกต่าง ซึ่งการเฉพาะเจาะจงเป็นเมตรเป็นไปได้ยาก โดยบางร้านเกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกับสถานศึกษา และบางร้านมีการดำเนินธุรกิจมายาวนาน

นอกจากนี้ คณะทำงานจะส่งเจ้าหน้าที่ชุดพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ภายหลังมีการออกประกาศคำสั่งคสช. และทั้งสองกรณีหากพบว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ จะนำร่างคำสั่งดังกล่าวเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดอีกครั้งก่อนออกประกาศเป็นคำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44
กำลังโหลดความคิดเห็น