xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ยังมุ่ง 3 ประเด็นสังหารเจ้าพ่อคาเฟ่ "สมยศ"ยันคดีคืบหน้ามากแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


กองปราบปรามเร่งสืบสวนปมสังหาร “สมยศ สุธางค์กูร” ยันไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องการพนัน เงินวิ่งเต้นคดี และที่ดินย่านพระราม 9 ไม่ฟันธงมือยิงสังกัดซุ้มมือปืนหรือไม่ ด้าน ผบ.ตร.ระบุเจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าจับกุมคนร้าย ส่วนคดีคืบหน้าไปมาก

วันนี้ (2 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาการ รอง ผบช.ก. เรียกประชุมคดีสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี โดยมี พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย ผกก.4 บก.ป.และชุดสืบสวน บก.ป.เข้าร่วม

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ภายหลังได้เข้าร่วมประชุมกับคณะทำงานที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งมี พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.เป็นประธานร่วมกับชุดสืบสวน บช.น. กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) รวมทั้งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ยังคงยืนยันตามที่ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ระบุไว้ว่าขณะนี้มุ่งประเด็นการสังหารนายสมยศไปที่ 3 ประเด็น คือ ฆ่าหักล้างหนี้สินจากการเล่นการพนัน, ความขัดแย้งเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 และกรณีที่มีผู้เสียหายทราบเพียงว่าชื่อนางม้อ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ตั้งแต่ปี 2556 เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายสมยศ หลังจากถูกหลอกลวงว่า สามารถวิ่งเต้นล้มคดีได้ โดยจ่ายเงินไปแล้ว 15 ล้านบาท แต่ภายหลังนายสมยศ กลับวิ่งเต้นคดีให้ไม่ได้

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นปลีกย่อยอื่นๆ นั้นยังไม่พบว่ามีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะเป็นชนวนเหตุของการสังหาร แต่ยืนยันว่าไม่ได้ตัดทิ้งในทุกประเด็น สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวน บช.น.จะเป็นเจ้าภาพหลักในการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี สำหรับ บก.ป.จะคอยเสริมเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเรียกพยานสำคัญในคดีมาสอบปากคำ พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ขณะนี้มีเพียงการพบปะกับบุคคลที่มีรายชื่อเกี่ยวพันกับคดีนี้เท่านั้น ยังไม่มีการเรียกผู้ใดมาเพื่อสอบปากคำ และพนักงานสอบสวนจะประสานข้อมูลต่อ บช.น.ว่ายังมีความจำเป็นจะต้องสอบปากคำพยานรายใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่

วันเดียวกันนี้ ทาง บช.น.ได้เรียกสอบ เสธ.นุ แล้ว นอกจากนี้ก็ยังไมได้รับมอบหมายจากรอง ผบ.ตร.ให้ดำเนินการในส่วนนี้ขอยืนยันว่าจะนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมา เพื่อประชุมร่วมกันให้ตกผลึก ก่อนกำหนดแนวทางการดำเนินการในส่วนของ บก.ป.ต่อไป

เมื่อถามว่ามือปืนที่ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มมือปืนซุ้มใดหรือไม่ พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า คงจะเร็วเกินไปที่จะระบุว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นมือปืนหรือไม่ และเป็นมือปืนในซุ้มใด เพราะยังต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นก่อน สำหรับอาวุธปืนที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุนั้นพบว่าใช้กระสุนปืนเป็นขนาด .38

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความชัดเจนในเรื่องเส้นทางการก่อเหตุและหลบหนีของคนร้ายแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามประสานงานร่วมกับตำรวจนครบาล ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหาตามภาพสเก็ตช์ไว้แล้วคงต้องขอเวลาในการสืบสวนติดตามอีกระยะหนึ่ง

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีคนร้ายสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิตว่า ตนได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่เป็นมือปืนลอบยิง นายสมยศ แล้ว 2 คน ตามภาพสเกตช์ ทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายอยู่ โดยคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเนื่องจากอาจทำให้เสียรูปคดี อีกทั้งจะทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นอันเป็นชนวนของการลอบสังหารใดทิ้ง ทั้งเรื่องธุรกิจการงาน การขัดแย้งผลประโยชน์ หรือเรื่องอื่นๆ ทุกประเด็นตำรวจยังคงให้ความสำคัญและเร่งขยายผลไปถึงผู้จ้างวานโดยเร็วที่สุด

“สำหรับการเชิญตัวบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมครั้งนี้มาให้ข้อมูลนั้น เป็นไปตามดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่เห็นว่าใครน่าจะเกี่ยวข้องหรือมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางคดีมาซักถาม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยตามหมายจับได้หรือไม่นั้นขอไม่เปิดเผย แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างเต็มที่” ผบ.ตร.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น