กองปราบปรามร่วมสางคดีสังหารอดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ ไล่สอบกล้องวงจรปิดตรวจสอบเส้นทางหลบหนีมือปืน ตั้งปม 3 ประเด็นล้วนเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง คาดกลุ่มมีสีอยู่เบื้องหลังการสังหาร
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.ได้สั่งการ ให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พลฑิตย์ ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.4 บก.ป. พร้อมทีมสืบสวนของกองปราบปราม ร่วมกันประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของคาเฟ่ชื่อดังย่านพระราม 9 เหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถร้านหูฉลามชื่อดังย่านคลองตัน เมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของกองปราบปรามจะช่วยประสานข้อมูลและร่วมคลี่คลายคดีกับทีมสืบสวนของตำรวจนครบาล โดยตั้งแต่เกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์หาหลักฐานพยานต่างๆ รวมถึงตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้ายภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายว่าหลังลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไปทางไหน เบื้องต้นพบว่ากล้องวงจรปิดของ กทม.ในบริเวณดังกล่าวมีกล้องเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น ตรวจสอบแล้วยังไม่พบภาพคนร้าย ทำให้ต้องหาภาพกล้องวงจรปิดของบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ก่อนเกิดเตุคนร้ายทั้งสองคนมาดักรอผู้ตายในที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลาประมาณ 5 โมงเย็น โดยคนร้ายคนแรกซึ่งทำหน้าที่เป็นมือปืนสวมหมวกแก๊ปไว้ตลอดเวลาและมานั่งรอที่โต๊ะม้าหิน ส่วนคนร้ายอีกคนก็นั่งคร่อมจักยานยนต์อยู่ เมื่อพยานสงสัยได้เข้าไปสอบถาม คนร้ายก็บอกว่า “มานั่งรอนาย” ประเด็นที่คนร้ายมานั่งรอเหยื่อล่วงหน้าก่อนถึง 2 ชั่วโมง ทีมสืบสวนตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะมีตัวชี้เป้าที่รายงานความเคลื่อนไหวของผู้ตายให้ทีมมือปืนตลอดเวลา ซึ่งก็ตรงกับการสอบสวนนางรัศมี สุธางค์กูร ภรรยาของผู้ตายที่ให้การว่า ก่อนเดินทางออกจากโรงพยาบาลรามคำแหงที่ผู้ตายไปตรวจร่างกายเป็นประจำก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาผู้ตาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ในประเด็นนี้ทีมสืบสวนกำลังตรวจสอบว่าก่อนเกิดเหตุใครเป็นคนโทร.เข้ามาหาผู้ตายบ้างซึ่งจะได้เรียกตัวมาสอบปากคำต่อไป
ส่วนประเด็นการสังหาร ทางกองปราบปรามก็ยังคงตั้งปม 3 เรื่อง 1. เรื่องหนี้สินการพนันที่พบว่ามีการโกงกันพนันเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายไหน และเป็นใคร เรื่องที่ 2 คือเงินค่าจ้างวิ่งเต้นล้มคดี จำนวน 25 ล้านบาท และเรื่องที่ 3 ปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินเช่าแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 9 ที่ผู้ตายกำลังมีปัญหากับเจ้าของที่ดินเรื่องค่ารื้อถอน ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีรายชื่อกลุ่มกลุ่มบุคคลในข่ายต้องสงสัยในครั้งนี้ประมาณ 2-3 กลุ่มซึ่งยังไม่สามารถจะเปิดเผยได้ และในกลุ่มนี้อาจจะมีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังด้วย
