ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานคดีโกงเงินสถาบันเทคโนฯ ลาดกระบัง 1,600 ล้าน เหตุรออัยการยื่นฟ้อง “กิตติศักดิ์ มัทธุจัด” ผู้ต้องหาคนสำคัญ ขณะที่ สจล. และแบงก์ไทยพาณิชย์ ขอเป็นโจทก์ร่วม ศาลนัดอีกครั้ง 28 ก.ย.นี้
ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยและตรวจพยานหลักฐานในคดียักยอกทรัพย์เงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) หมายเลขดำ อ.1992/ 2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 11 (มีนบุรี) เป็นโจทก์ฟ้องนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กับพวกรวม 11 คนเป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันยักยอกทรัพย์เงินจำนวน 1,600 บาทของ สจล.ไปโดยทุจริต
โดยศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้พวกจำเลยฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่า จำเลยทั้งหมด แถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ขณะที่อัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่า ขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อนเนื่องจากระหว่างนี้อัยการกำลังร่างคำฟ้องนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญที่เพิ่งถูกจับกุมตัวตัวได้ คาดว่าจะร่างฟ้องเสร็จภายใน 3 สัปดาห์ ก่อนจะขอรวมสำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกันเนื่องจากคดีมีพยานหลักฐานเดียวกัน นอกจากนี้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีบี ผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีด้วย
ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ สจล.และเอสซีบีเข้าเป็นโจทก์ร่วมที่ 1 และ 2 ในคดีได้ รวมทั้งอนุญาตให้เลื่อนตรวจหลักฐานไปเป็นวันที่ 28 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความของนายถวิล พึ่งมา กล่าวว่า คำร้องขอความเป็นธรรมที่นายถวิลยื่นต่ออัยการสูงสุด (อสส.) นั้น ขณะนี้ได้รับแจ้งจาก อสส.แล้วว่าได้รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว ส่วนคดีที่นายถวิลเป็นโจทก์ฟ้องนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ฐานหมิ่นประมาทนั้นนั้น ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้เบิกตัว น.ส.อัมพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนการคลัง สจล. และนายกิตติศักดิ์ ไปเบิกความที่ศาลอาญา ในวันที่ 29 มิ.ย. นี้ เวลา 13.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2558 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 11 (มีนบุรี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี อดีต ผจก.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์, น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี, นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 26 ปี, น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ อายุ 27 ปี, นางสมบัติ โสประดิษฐ์ อายุ 44 ปี, นางระดม มัทธุจัด อายุ 55 ปี, นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ อายุ 32 ปี, นายภาดา บัวขาว อายุ 28 ปี, นายถวิล พึ่งมา อายุ 61 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.), นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อายุ 51 ปี อดีตผู้ช่วยอธิการบดี และนายศรุต ราชบุรี อายุ 54 ปี ทั้งหมดเป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิ ทธิปลอม, ร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฟอกเงิน, สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต, สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 264, 265, 266, 268, 335, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 3, 4, 8, 11 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 7, 10 และ 60