xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เปิดโครงการโพลิสไอเลิร์ทยู รับแจ้งเตือนเหตุด่วน-เหตุร้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร. ร่วมกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา แอนนี่แวร์ ทู โก เปิดโครงการโพลิสไอเลิร์ทยู รับแจ้งเตือนเหตุด่วน - เหตุร้าย เพื่อให้ ตร. ท้องที่เกิดเหตุเข้าระงับเหตุได้ภายในระยะเวลา 3 - 4 นาที ร่วมเปิดใช้งานกลางเดือน มิ.ย. นี้



วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์การค้าเซนทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ แขวง/เขตปทุมวัน กทม. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรับแจ้งเหตุด่วน - เหตุร้าย ผ่านแอปพลิเคชัน “Police i lert u” พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) นายปรีชา เอกคณากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และ นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บจก.แอนนี่แวร์ ทู โก

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การรับแจ้งเตือนเหตุด่วน - เหตุร้าย ที่เป็นข้อมูลสำคัญและจะช่วยสร้างความสะดวกของเจ้าหน้าที่ ในการเดินทางไประงับเหตุได้ทันเวลา ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีการรับแจ้งเหตุ เพื่อความสะดวกของพี่น้องประชาชน ในกรณีที่เกิดเหตุร้าย แต่ไม่สามารถที่จะอธิบายรายละเอียดได้ เพียงแค่กดปุ่มในแอปพลิเคชัน “Police i lert u” ซึ่งจะเสริมระบบการแจ้งเหตุผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 191 โดยได้ติดตั้งระบบและทดลองใช้ในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ผลการทดลองสำเร็จ จึงเปิดให้ประชาชนใน กทม. ได้ใช้แจ้งเหตุด่วน - เหตุร้ายจริง ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ กล่าวว่า แอปพลิเคชัน “Police i lert u” คือ แอปพลิเคชันนวัตกรรมใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ดูแลพี่น้องประชาชน และถึงในที่เกิดเหตุได้ภายในระยะเวลา 3 - 4 นาที ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนและระงับเหตุ รวมทั้งสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุก่อนจะหลบหนี โดยประชาชนส่วนมากจะติดต่อเข้ามาที่หมายเลข 191 เฉลี่ยวันละ 7,000 - 8,000 ครั้งต่อวัน แต่เป็นการสอบถามเส้นทางการจราจรเท่านั้น ส่วนอีก 10 - 20% จะติดต่อเข้ามาแจ้งเหตุธรรมดา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงระบบการแจ้งเหตุครั้งนี้จากยุคอนาล็อก เป็นยุคดิจิตอล โดยใช้ชื่อว่า “นครบาลโมเดล” และในเดือนมิถุนายนจะเปิดให้โทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ สามารถดาวน์โหลดได้ ส่วนระบบไอโอเอส สามารถดาวน์โหลดได้ประมาณกลางเดือน โดยไม่เสียค่าบริการ ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุด่วนเหตุร้ายในเขตพื้นที่ กทม. สามารถกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบพื้นที่ที่แจ้งเหตุ จะเข้าระงับเหตุอย่างรวดเร็ว

ซึ่งแตกต่างจากการรับแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชัน Police i lert u ที่จะส่งข้อมูลการแจ้งเหตุทันที ตั้งแต่ตำแหน่ง (GPS) การกดแจ้งเหตุ ทำให้ผู้แจ้งเหตุไม่ต้องอธิบายจุดเกิดเหตุ หากผู้แจ้งมีเวลามากพอที่จะสามารถส่งภาพถ่ายที่เกิดเหตุ และข้อความตัวอักษรเข้ามาพร้อมตำแหน่งด้วยแล้ว จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีรายละเอียดในการช่วยเหลือและระงับเหตุได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน

นอกจากนี้ ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้แจ้งเหตุที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว จะไปปรากฏในระบบทันทีอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการแจ้งเหตุเพื่อก่อกวน อย่างไรก็ตาม หากผู้แจ้งเหตุไม่อยู่ในสถานะจะให้ข้อมูลใดๆ ได้ แต่เพียงกดปุ่มแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อหรือไปยังจุดเกิดเหตุในทันทีเช่นกันเพื่อรองรับการเปิดใช้แอปพลิเคชั่น Police i lert u

พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ กล่าวอีกว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดฝึกอบรมการใช้แอปพลิเคชันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงทะเบียน และจัดกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงทะเบียนตามสถานีตำรวจที่ตนสังกัด จำนวน 88 สถานีตำรวจ และ 9 กองบังคับการ โดยทันทีที่มีการแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชัน Police i lert u ตั้งแต่ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานีตำรวจ จนถึงสายตรวจที่ออกตรวจตราอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งได้ลงทะเบียนและอยู่ในกลุ่ม จะได้รับข้อมูลการแจ้งเหตุพร้อมกันทันที ส่งผลให้การบริหารจัดการเหตุด่วนเหตุร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดประสิทธิภาพขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ข้อมูลการแจ้งเหตุดังกล่าวจะถูกส่งไปยังศูนย์วิทยุของสถานีตำรวจ ศูนย์วิทยุของ กองบังคับการ และศูนย์ควบคุมสั่งการ (Command Center) ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล อีกส่วนหนึ่ง เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เข้าระงับเหตุ และควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติอีกด้วย

ด้าน นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Police i lert u โดยไม่คิดค่าบริการเชิงพาณิชย์ นอกจากตัวแอปพลิเคชันที่มีการปรับเปลี่ยนการใช้งานให้มีความทันสมัย ใช้งานง่ายแล้ว ระบบการบริหารงานเบื้องหลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการใช้งานของประชาชน จะง่ายและอเนกประสงค์อย่างมาก โดยได้จัดอบรมการบริหารงานโปรแกรมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปแล้วกว่า 20 ครั้ง แต่สำหรับประชาชนผู้ใช้งานทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีการอบรม ซึ่งแอปพลิเคชัน Police i lert u จะตั้งอยู่บนสถาปัตยกรรมที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ทำให้การแจ้งเหตุ การเก็บข้อมูล และการบริหารงานทำได้ง่าย ขณะเดียวกัน ระบบสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีโอกาสที่ระบบจะล้มเหลวได้ยากมาก นอกจากนั้นยังทำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับสามารถรับรู้ข้อมูลเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องรอการรายงานแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จะมีการพัฒนาต่อไปนั้นจะมุ่งเน้นในด้านการขยายพื้นที่ออกไป โดยเริ่มจากการขยายไปยังพื้นที่ปริมณฑล และจะต่อยอดไปยังเมืองใหญ่ๆ ที่มีเหตุการณ์แจ้งเหตุจำนวนมาก รวมถึงการไปยังพื้นที่ที่มีความสอดคล้องกับการใช้งานของสมาร์ทโฟน เพราะพื้นที่ดังกล่าวจะมีโครงสร้างสาธารณูปโภคทางด้านอินเทอร์เน็ตรองรับ



















กำลังโหลดความคิดเห็น