ผบ.ตร.เชิญทูต 19 ประเทศแจงการดำเนินการโรฮีนจา ยันปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ได้เกิดขึ้นจากประเทศไทย ถูกหมักหมมมานานนับ 10 ปี การเสนอขอหมายจับ พล.ท.มนัส เป็นไปตามขั้นตอนเป็นเรื่องตัวบุคคลไม่กระทบภาพลักษณ์กองทัพ
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงการดำเนินคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาต่อคณะทูตต่างประเทศและตัวแทนองค์็การระหว่างประเทศ โดยมีตัวแทนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 19 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ออสเตรีย จีน อิตาลี เยอรมนี แอฟริกา อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ อาทิ สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ร่วมรับฟังการประชุมชี้แจง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เชิญตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ของทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น ปปง. สำนักงานอัยการ และตัวแทนจากประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังกรณีเรื่องการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเร่งดำเนินการว่ามีประเด็นใดบ้าง และจะเดินไปในทิศทางใด ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวทราบว่ารัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
“ผมได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ได้เกิดขึ้นจากประเทศไทย โดยปัญหานี้เกิดจากประเทศต้นทางที่ชาวโรฮีนจาหรือชาวบังกลาเทศอพยพเข้ามาผ่านทางประเทศไทย เพื่อต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือสิงคโปร์ หรือประเทศอื่นๆ ประเทศไทยเพียงประเทศเดียวไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ จำเป็นต้องอาศัยประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือหรือร่วมมือแก้ปัญหา” ผบ.ตร.กล่าว และว่า นอกจากนี้ตนได้ชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำอยู่ ทั้งการค้ามนุษย์ที่เป็นคดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ว่าได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการ ขณะที่กรณีใดที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกลายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ก็ได้ให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.เป็นผู้รับผิดชอบ อย่างไรก็ดี ประเด็นสำคัญที่ชี้แจงคือประเทศไทยต้องอาศัยความร่วมมือ ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนทางด้านวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตัวแทนจากสถานทูตอมริกาได้พูดแสดงความดีใจที่เห็นรัฐบาลไทยตั้งใจที่จะแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง พร้อมทั้งได้เสนอตัวให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆหากเราต้องการ เขาพูดว่าอะไรที่อเมริกาสามารถมีส่วนช่วยเหลือได้ก็ยินดีช่วย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีในการแก้ปัญหาในระยะยาว ทั้งนี้ สิ่งที่ตนได้ชี้แจงต่อตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกาก็คือ ย้ำว่าปัญหานี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเมื่อ 3-6 เดือนมานี้ แต่เป็นปัญหาที่หมักหมมมานานนับ 10 ปี แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากรัฐบาลชุดที่ผ่านๆมา แม้จะได้รับการเตือนจากสหรัฐฯ และ IUU ที่กดดันให้ไทยต้องดำเนินการแก้ปัญหานี้ โดยตอนนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันและตนจะทำทุกเรื่อง ทั้งแก้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม แก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แต่จากนี้ไปรัฐบาลชุดนี้ได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา ซึ่งต้องย้ำว่าการแก้ปัญหานี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ เริ่มตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศและตนเข้ามาเป็น ผบ.ตร. ซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่มีใครแก้ปัญหาในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
เมื่อถามถึงกรณีการออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขอยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมาของตน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปตามขั้นตอน ทุกเรื่องก่อนตัดสินใจดำเนินการอะไรต้องรวบรวบพยานหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามรถขออนุมัติออกหมายจับจากศาลได้ และดำเนินคดีตามกฎหมายได้ กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานให้แน่ชัดเพื่อขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ โดยทุกขั้นตอนได้นำเสนอขอคำปรึกษาหารือจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปกระทบกระทั่งกับหน่วยงานอื่น ขอให้เรายึดมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้องทำไปตามพยานหลักฐานเท่านี้ก็พอ ส่วนสำนวนคดีค้ามนุษย์ของ พล.ท.มนัสนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้
ถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีทหารเรือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันอีกหรือไม่นั้นต้องรอการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ แต่ยืนยันจะดำเนินการไม่มีละเว้น ซักว่าตำรวจทราบหรือไม่ว่า พล.ท.มนัสหลบหนีอยู่ที่ใดและติดต่อขอเข้ามอบตัวหรือยัง ผบ.ตร.ตอบว่า “ยังไม่ทราบว่า พล.ท.มนัสอยู่ที่ไหน ใครทราบช่วยไปตามให้ด้วย”
ถามว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายทหารปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ในหน่วยเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.สมยศตอบว่า ในตอนนั้นท่านอาจจะยังไม่ทราบข้อมูล วันเวลาทำให้ข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนแปลงหรือไม่เหมือนเดิมได้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้ทุกวัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารมีการพูดคุยกันตลอด ตนเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาท่านทราบว่าอะไรเป็นอะไร ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพียงแต่ว่าทหารอาจไม่มีหลักฐานไปถึง จึงไม่สามารถดำเนินการเอาผิดใดๆ ได้ แต่ถึงอย่างไรทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เมื่อวันเวลาผ่านไปพยานหลักฐานจะปรากฏออกมาเอง
ต่อมา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.และ ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผบก.ตท. ร.ท.สมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา โด ยพล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ได้ขอศาลออกหมายจับทั้งหมด 84 คน มีการจับกุมตัว มอบตัว อายัด 51 ราย เหลืออีก 33 ราย ส่วนการประชุมในครั้งนี้ ทางต่างชาติที่เข้าร่วมประชุมชี้แจงก็ไม่ได้มีข้อสงสัยอะไร มีแต่ คำชื่นชม ขอบคุณที่เราแสดงให้เห็นว่าเราจริงใจ และจริงจังในการดำเนินการต่อกรณีดังกล่าว แต่ก็มีประเทศอิตาลีแสดงความห่วงใยว่าผู้อพยพที่หลบหนีเข้าเมืองมาจะมีสิ่งของบางอย่างเข้ามาด้วย ซึ่งประเทศอิตาลีมีสภาพปัญหาที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย มีผู้หลบหนีเข้าเมืองมาทางด้านทิศใต้คือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมีของผิดกฎหมายบางอย่างเข้ามาด้วย จึงแสดงความห่วงใยมา แต่ว่าประเทศไทยนั้นไม่พบปัญหาเหล่านี้ เพราะผู้อพยพเป็นชาวต่างด้าวที่ต้องการจะย้ายถิ่นฐาน ถูกบังคับขู่เข็ญหลอกลวงมาก็อาจจะไม่มีปัญหานี้ แต่ ก็ได้มีการขอบคุณสำหรับการแสดงความห่วงใยไปแล้ว ส่วนเรื่องการลดระดับของสหรัฐอเมริกานั้น เราจะแสดงให้เห็นว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป ให้มีความชัดเจน ตอบโจทย์สิ่งที่เราดำเนินการมาทั้งหมด การประเมินเป็นเรื่องของสหรัฐอมเมริกา เราทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรายอมรับในการประเมิน
“ในสถานการณ์ที่เราได้ใช้ความจริงใจและจริงจัง เราได้กำหนดใช้ยุทธศาสตร์ทั้งหมด หากอยู่ในระดับเดียวกับ ประเทศที่ไม่ได้ทำอะไรเลย คิดว่าเป็นข้อสังเกตที่ผู้ประเมินจะต้องมีการพิจารณาด้วย การประเมินควรเป็นมาตรฐาน หรืออาจมีเหตุผลนอกเหนือทำให้การประเมินอาจจะไม่มีผลทำให้ผู้ประเมินยอมรับได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามเราถือว่าเรื่องนี้เป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส จากที่ประเมินให้เราอยู่ในอันดับต่ำที่สุด เราจึงต้องมีการปรับปรุงวางแผนในการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้อย่างเป็นระบบต่อไป” พล.ต.อ.เอก กล่าว
พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของชาวโรฮีนจาทั้ง 36 ศพที่เทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา มี 34 ศพไม่พบร่องรอยบาดแผลหรือข้อบ่งชี้ที่จะสามารถสืบสวนตั้งประเด็นเกี่ยวกับการถูกผู้อื่นทำร้ายให้ตายได้ อีก 2 ศพเบื้องต้นซึ่งยังไม่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร เราได้ติดตามเร่งรัดการชันสูตรพลิกศพ อยู่ในระหว่างการดำเนินการให้มีความชัดเจน รวมทั้งการพิสูจน์ตัวบุคคลของทั้ง 36 ศพว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีที่ ผบช.ภ.8 แจ้งไว้ที่นครศรีธรรมราช ว่ามีเหยื่อรายหนึ่งที่อาจถูกทำร้ายระหว่างทางที่เกิดเหตุหรือไม่ด้วย อยู่ในระหว่างการลงรายละเอียดให้ชัดเจน ไม่สามารถรายละเอียดได้ ต้องรอรายงานจากแพทย์ก่อน ขณะนี้มีความมั่นใจต่อยุทธการการปิดทางที่ ผบช.ภ.9 ได้ดำเนินการ ไม่ว่าจะมาทางใด หากไม่มีที่พักพิงระหว่างเดินทาง กลุ่มนี้ก็ไม่สามารถนำพาผู้อพยพมาได้ มีความมั่นใจต่อการจัดการในเรื่องนี้ อีกทั้งหน้ามรสุมก็จะเป็นอุปสรรคของการเดินทางของผู้อพยพด้วย
พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ส่วนความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซียมีความร่วมมือกันดี มีการช่วยกันดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ดี ทางการไทยก็จะตั้งศูนย์ในการช่วยเหลือประเทศมาเลเซียในการตรวจสอบหลุมศพที่พบกว่า 100 หลุม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจเปรียบเทียบว่าศพที่เจอในไทยกับมาเลเซียว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ รวมทั้งเส้นทางการเคลื่อนย้ายของชาวโรฮีนจาทั้งหมด เพื่อนำข้อมูลมาประกอบกับสำนวนให้มีความแน่นหนามากขึ้น โดยพนักงานสอบสวนจะนำสำนวนสอบสวนทั้งหมดส่งฟ้องศาลภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ สำหรับกรณี พล.ท.มนัส คงแป้น ไม่สามารถบอกได้ว่าเคยลงไปในพื้นที่หรือไม่ และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในเชิงลึกได้ ส่วนเรื่องสลิปที่อ้างว่าเป็นค่าชนวัวนั้นก็ไม่สามารถบอกได้ ไม่มีรายงานการหลบหนี เบื้องต้นทราบว่า พล.ท.มนัสรู้เรื่องแล้วและได้ติดต่อมาทางเจ้าหน้าที่บางส่วนแล้ว
พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า ผู้แทนจากสหรัฐอเมริกาได้ยกมือแสดงความชื่นชมต่อการจัดการประชุมในครั้งนี้ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดประชุมอย่างเป็นทางการชี้แจงข้อมูลเพื่อให้เกิดความชัดเจน และผู้แทนจากสหรัฐฯ ยังกล่าวว่ามีความยินดี มีความพร้อมเสมอที่จะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการแก้ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป ส่วนเรื่องคำแนะนำจากประเทศต่างๆ นั้นมีบ้าง เช่น ไม่อยากให้มองการค้ามนุษย์เป็นเพียงการอพยพเข้าเมืองที่มาเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับการประมงเท่านั้น อาทิ ผู้แทนจากประเทศอินเดียแสดงความคิดเห็นว่า การค้ามนุษย์มีหลายแบบมาก อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมองการค้ามนุษย์ให้รอบด้าน เช่นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ การค้าอวัยวะเถื่อน การค้าแรงงานเถื่อน ซึ่งได้ชี้แจงไปในที่ประชุมแล้วว่าทางเราได้มีการทำรอบคอบอยู่แล้ว มีการพิจารณาการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบอยู่แล้วตามที่กฎหมายได้มีการระบุไว้
“ตอนนี้ขอความเห็นใจ ขอให้นานาประเทศทำความเข้าใจกับความตั้งใจของเราที่มีอยู่ การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราเชื่อมั่นว่า พล.ต.อ.เอก รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล้วนมีความตั้งใจแบบบูรณาการ ในการที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยเต็มรูปแบบ สิ่งที่อยากขอการสนับสนุนจากต่างชาติ คือการขอความเห็นใจที่จะเข้าใจในความตั้งใจของเรา และเข้าใจการเมืองของเราอย่างเป็นธรรมที่สุด ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เราจะไม่หยุดยั้ง และจะดำเนินการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ต่อไป” พล.ต.ต.อภิชาติกล่าว
พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวอีกว่า ส่วนในกรณีที่ไม่มีรายชื่อของประเทศเมียนมาร์และประเทศบังคลาเทศ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพราะว่าจะมีการจัดประชุมการค้ามนุษย์ระหว่างไทยและพม่า ที่พัทยา ต่อเนื่องเรื่องการหาแนวทางเรื่องการประมงแบบผิดกฎหมาย ดังนั้น ผู้แทนทั้งสองประเทศจะเดินทางไปยังพัทยา จ.ชลบุรี และขออนุญาตไม่เข้าประชุมในครั้งนี้ ส่วนการขอความร่วมมือระหว่างประเทศนั้นได้มีการทำหนังสือไปยังประเทศที่เกี่ยวข้อง ส่งไปยังช่องทางของตำรวจสากลว่าหากประเทศที่เกี่ยวข้องเหล่านั้น หากมีการพบหรือไม่พบผู้ที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ให้ส่งข้อมูลนั้นมาให้ประเทศไทย จากนั้นจะมีการนำมาวิเคราะห์ นำไปสู่การจับกุมและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน ไม่มีปัญหาในการประสานงานแต่อย่างใด