xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจหนักใจมือคาร์บอมบ์สมุยปิดปากเงียบ พบคำตอบเลือกระเบิดเซ็นทรัล วันที่ 10 เมษาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคงเดินหน้าเต็มที่ ล้างขบวนการคาร์บอมบ์เกาะสมุย ยันสาเหตุมาจากการเมืองแต่เจอผู้ต้องหาเขี้ยวตันปิดปากไม่ยอมซัดระดับหัว ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงไขปริศนาทุกคำถาม ทำไมต้องการเมือง ทำไมต้องเซ็นทรัล และทำไมต้อง โค-ออป กับเลือกลงมือวันที่ 10 เมษายน

เหตุระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถใต้ดินห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. 2558 มา แม้เจ้าหน้าที่จะแกะรอยจนพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยจนนำมาซึ่งการจับกุมและออกหมายจับในขณะนี้รวมทั้งสิ้นกว่า 10 คนไปแล้วนั้น แต่ปมประเด็นต่างๆ ยังคงค้างคาใจคนไทยทั่วไปโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นนคงทหาร - ตำรวจ ต่างฟันธงว่ามีสาเหตุมาจากการเมือง

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดกลับเป็นคนไทยมุสลิมที่มีพื้นเพอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหลายคนมีหมายจับในคดีก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ ของเหตุการณ์ทางภาคใต้ด้วย

เมื่อย้อนกลับไปดูคำสัมภาษณ์ของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าพบความเชื่อมโยงบางประการกับกลุ่มก่อเหตุใน กทม. และเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่า

แต่ที่ชัดเจนมากสุดก็คือ รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าที่หลายสำนักข่าวจับมาเป็นประเด็นร้อน ก็คือ มีการระบุว่ามีการจ้างวานด้วยเงิน 5 ล้านบาท เพื่อใช้ในปฏิบัติการนี้โดยจ้างให้กลุ่มบีอาร์เอ็นจากประเทศเพื่อนบ้าน นำโดย นายอูไบดีละ รอมลี นายปอเซ็ง เจะมะและ นายรุสลัน ใบหมะ ทั้งหมดมีประวัติเป็นมือรับจ้างก่อวินาศกรรมพื้นที่จงหวัดชายแดนใต้หลายครั้ง

ขณะที่ นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปปัตย์ แกนนำ กปปส. และในฐานะที่เคยกำกับดูแลศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ หรือ ศอ.บต. กล่าวว่า ขบวนการคาร์บอมบ์เชื่อมโยงกับอดีตนักการเมืองชื่อดัง 3 คนในภาคใต้

“ผมเชื่อว่าคดีนี้มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน แม้บางคนจะออกมาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว อยากให้ทุกคนอดใจรอเพราะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) มีเครื่องมือในการติดตาม สื่อสาร รวมถึงจับเส้นทางการเงิน ขณะนี้ข้อมูลของทหารและตำรวจพุ่งไปยังนักการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงขอให้อดใจดูการทำงานของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าภายในสิ้นเดือนนี้เราจะได้ตัวผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม แม้หลายฝ่ายจะมั่นใจว่าระเบิดคาร์บอมบ์บนเกาะสมุย มีนักการเมืองฝ่ายอำนาจเก่าอยู่เบื้องหลัง แต่จากการสอบสวนขยายผล รวมทั้งการไล่กล้องทุกตัวบนเกาะสมุย รวมทั้งเส้นทางหลักตามถนนสายต่างๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และใก้ลเคียง พบเพียงรถต้องสงสัยรวมทั้งสิ้นประมาณ 5 - 6 คัน จนนำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดและควบคุมไว้ในค่ายทหารตาม พ.ร.บ. ความมั่นคง แต่จากการสอบสวนไม่มีคนใดให้การซัดทอด หรือนำไปสู่ผู้ต้องสงสัยในระดับบนขึ้นไปอีก ส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธแต่มีบางคนให้การพอเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีบ้าง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม ASTV ผู้จัดการ ว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่มาก ขณะนี้ออกหมายจับไปทั้งสิ้น 8 รายแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีมากกว่านั้นอาจจะมีถึง 12 - 13 คน สำหรับสาเหตุคาร์บอมบ์ที่หลายฝ่ายยังคงติดใจสงสัยว่ามาจากอะไร ขอยืนยันอีกครั้งว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน เพียงแต่มีความสลับซับซ้อนอยู่บ้าง นอกจากนั้น บางกระแสข่าวที่ยังข้องใจว่ารถมาสด้ากระบะคันก่อเหตุสามารถผ่านด่านความมั่นคงทหาร - ตำรวจ จาก จ.ยะลา มาขึ้นเกาะสมุย ซึ่งเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร มีด่านต่างๆ กว่า 20 ด่าน จนเกิดประเด็นเจ้าหน้าที่รัฐจัดฉากหรือรู้เห็นเป็นใจ ได้รับคำยืนยันว่าความบกพร่องต่างๆ ที่เกิดกับด่านนั้นผู้บังคับบัญชาสั่งสอบสวนแล้ว แต่เท่าที่ติดตามจากกล้องพอประมวลได้ว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี เขาใช้เส้นทางรองไม่ใช่เส้นทางหลัก ต่อไปทางการก็ต้องเพิ่มมาตรการให้มากยิ่งขึ้น

ต่อข้อถามว่าจะมีการจับกุมระดับผู้บงการหรือไม่ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาต่างๆ ที่คุมตัวไว้นั้น บางคนก็ให้ความร่วมมือแต่บางคนก็ไม่ให้ พวกนี้ไม่เหมือนคนร้ายธรรมดา ไม่พูดไม่บอกอะไรง่ายๆ จากประสบการณ์ผ่านงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาพอสมควรทุกครั้งที่จับมาได้เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ประโยชน์อะไรกับพวกนี้มากนัก

เมื่อทีมข่าวย้ำว่าจะจับระดับบนอีกหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่ตอบคำถามได้แต่หัวเราะก่อนยืนยันอีกครั้งว่าเสียงปนหัวเราะว่าจะทำอย่างเต็มที่

ก่อนหน้านั้น มีการวิเคราะห์ปริศนาต่างๆ ของระเบิดคาร์บอมบ์ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กับสหกรณ์ฯ โค-ออป ไปในหลากหลายประเด็นเช่นเหตุใดคนร้ายจึงใช้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สมุย เป็นเป้าหมาย ทำไมต้องเผา โค-ออป และวันที่ 10 เมษายน มีความสำคัญและเป็นการแสดงสัญญาลักษณ์ใด

มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงว่าเหตุผลความเป็นไปได้เรื่องการใช้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นเป้าหมายนั้นน่าจะมีเหตุผลจากความฝังใจของแกนนำขั้วการเมืองเก่าในระดับต้นๆ ซึ่งเชื่อว่ามีกลุ่มธุรกิจกลุ่มหนึ่งตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับซีกการเมืองของตน โดยเป็นนายทุนให้กับหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างน้อย 2 ฉบับเขียนข่าวโจมตีพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง และอดีตนักการเมืองชื่อดังที่กำลังหลบหนีคดี โดยตั้งข้อสังเกตว่า หนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับนี้แม้ไม่เคยแสดงตัวตนว่าเป็นสีการเมืองใดแต่กลับผูกปีเขียนโจมตีพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง และนักการเมืองดังที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศอย่างเอาเป็นเอาตาย เหตุการณ์เผาเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ เมื่อ ปี 2553 จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังบางอย่าง

ส่วนการเลือกเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย โดยไม่เลือกเซ็นทรัล พลาซา สาขาสุราษฎร์ธานี น่าจะมาจากกลุ่มคนร้ายต้องการประกาศศักยภาพให้เป็นข่าวไปทั่วโลก เนื่องจากเกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกรดเอ ติดอันดับโลก และเท่ากับเป็นการท้าทายมาตรา 44 ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ประกาศใช้เพียงไม่กี่วันก่อนหน้า

ส่วนทำไมต้องเผาสหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด (โค-ออป) และวันที่ 10 เมษายน มีความสำคัญหรือแสดงถึงสัญลักษณ์ใด รายงานฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ภาพลักษณ์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ พระสุเทพ อดีตนักการเมืองชื่อดังและเลขาธิการ กปปส. มีเส้นทางเติบโตทางการเมืองมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี และสหกรณ์ฯ โค-ออป ก็คือ โครงการใหญ่ประจำจังหวัด เกิดจากแนวความคิดของพระสุเทพ การเผาวางเพลิง หรือการก่อวินาศกรรมสหกรณ์ฯ โค-ออป จึงเท่ากับแสดงความหยามอำนาจรัฐที่มีมาตรา 44 อยู่ในมือและถือว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว การเคลื่อนไหวของพระสุเทพ เมื่อคราวเป็นแกนนำ กปปส. โดยมีกลุ่มติดอาวุธนิรนามคอยคุ้มกัน ตลอดจนการเข้ายึดอำนาจของฝ่ายทหารนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงมีความเชื่อกันว่า พระสุเทพ กับฝ่ายทหาร และพรรคประชาธิปัตย์ รู้เห็นเป็นใจกัน จึงเป็นคำตอบว่าทำไมจึงทำคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุย และเผา โค-ออป ในวันเดียวกัน

แต่เหตุผลที่เกี่ยวพันกับวันที่ 10 เมษายน นั้น ฝ่ายความมั่นคงเข้าใจว่า น่าจะมาจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่เมื่อค่ำวันที่ 10 เม.ย. 2553 ซึ่งในขณะนั้นเกิดความวุ่นวายทางการเมืองปะทุขึ้นช่วงปี 2552 มีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างกว้างขวาง โดยฝ่ายการเมืองนำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวด้วยสาเหตุไม่พอใจการยุบพรรคพลังประชาชน และเชื่อว่า กองทัพอยู่เบื้องหลัง วันที่ 14 มี.ค. 2553 รัฐบาลในขณะนั้นสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ และ วิทยุ ที่ดำเนินงานโดยผู้ชุมนุม แต่ไม่สามารถยับยั้งการชุมนุมได้ จุดแรกมีการชุมนุมกันที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนิน มีพิธีกรรมต่างๆมากมาย เช่น การนำเลือดไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล และที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกดดันให้ยุบสภา บรรยากาศระหว่างการชุมนุมบ้านเมืองระส่ำระสาย มีการใช้อาวุธสงครามเอ็ม 79 ยิงไปตามสถานที่ราชการ และจุดยุทธศาสตร์ใน กทม. หลายครั้ง แต่ไม่สามารถจับใครได้ เมื่อถึงต้นเดือน เม.ย. มีจำนวนผู้ประท้วงเพิ่มมากขึ้นจึงขยายไปชุมนุมที่แยกราชประสงค์

ต่อมาสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น จน นายอภิสิทธิ์ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน วันที่ 10 เม.ย. 2553 มีคำสั่ง ศอฉ. โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ สั่งกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม (กระชับพื้นที่) ที่สะพานผ่านฟ้าฯ มีการปะทะกันตั้งแต่กลางวันจนถึงเวลา 19.30 น. เกิดมีชายชุดดำเข้าร่วมกับฝ่ายผู้ประท้วง มีการใช้อาวุธสงครามเข้าปะทะกัน ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายทั้ง 2 ฝั่ง มีผู้เสียชีวิต 27 ราย เป็นพลเรือน 22 ราย เจ้าหน้าที่ทหาร 5 นาย ประกอบด้วย พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ร.อ.ภูริวัฒน์ ประพันธ์ ร.ท.อนุพงษ์ เมืองอำพัน ร.ต.สิงหา อ่อนทรง และ ร.อ.อนุพนธ์ หอมมาลี บาดเจ็บ 863 คน เป็นพลเรือน 519 คน ทหาร 344 นาย ในจำนวนนั้นมีผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นด้วย คือ นายฮิโรยูกิ มูราโมโต
กำลังโหลดความคิดเห็น