กรมศุลกากรแถลงจับกุมงาช้างแอฟริกาจำนวน 739 กิ่ง น้ำหนัก 4,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 200 ล้าน ลักลอบซุกมาในตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกเรือมาจากสาธารณรัฐคองโก จุดหมาย สปป.ลาว
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่บริเวณลานด้านหน้าคลังสินค้าผ่านแดน ภายในบริเวณการท่าเรือแห่งประเทศไทย คลองเตย นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากรแถลงข่าวการจับกุมงาช้างแอฟริกา ลักลอบผ่านแดนจำนวน 739 กิ่ง น้ำหนัก 4,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายสมชัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากมีตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข CMAU 2140407 บรรทุกมากับเรือ KATA BHUM โดยตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวแจ้งใช้สิทธิ์สินค้าผ่านแดนไปยัง สปป.ลาว โดยสำแดงชนิดสินค้าเป็นถั่ว น้ำหนัก 14,000 กิโลกรัม จากการตรวจสอบต้นทางของสินค้าดังกล่าวมาจากเมืองมาตาดี สาธารณรัฐคองโก ทวีปแอฟริกา มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยใช้เส้นทางแม่น้ำคองโก แล้วถูกน้ำขึ้นเรือ CMACGM AFRICA TWO แล้วมุ่งหน้าไปยังท่าเรือพอร์ต กลัง ประเทศมาเลเซีย และถูกย้ายขึ้นเรือ KATA BHUM มายังท่าเรือกรุงเทพฯ ในวันที่ 18 เม.ย. เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าภายในตู้ดังกล่าวพบว่ามีงาช้างซุกซ่อนปะปนมากับถั่วจึงได้อายัดสินค้าดังกล่าวไว้ ต่อมาได้มีบริษัท ทีอีซี โลจิสติกส์ ได้นำใบขนส่งสินค้าเพื่อจะขอนำสินค้าดังกล่าวผ่านประเทศไทย ไปยังด่านศุลกากรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี โดยมีปลายทางผู้รับชื่อ MANISOOK TRADIND LAOS CO.LTD ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าศุลกากรจะประสานไปยังทางการของ สปป.ลาว เพื่อให้ดำเนินการกับบริษัทดังกล่าว อย่างไรก็ดี การจับกุมงาช้างแอฟริกาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมได้จำนวนมากที่สุดในประวัติที่เคยจับมา มีมูลค่าสูงกว่า 200 ล้านบาท
เบื้องต้นงาช้างดังกล่าวถูกยึดเป็นของกลาง เนื่องจากมีความผิดมาตรา 38, 99 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบกับมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482, มาตรา 58/1 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2558, มาตรา 23 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งงาช้างเป็นสินค้าต้องห้ามผ่านประเทศ ตามอนุสัญญาไซเตสว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ก่อนสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป