เอเอฟพี - กัมพูชากำลังฝึกทีมหนูชั้นยอดนำเข้าจากแอฟริกาเพื่อทำหน้าที่ดมกลิ่นหากับระเบิด และวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอื่นๆ ในประเทศ ทางการกัมพูชาเผย
ทีมหนูผู้กล้าทั้ง 15 ตัว ที่บางตัวมีน้ำหนักมากถึง 1.2 กิโลกรัม นำเข้ามาจากประเทศแทนซาเนียในเดือน เม.ย. ด้วยความช่วยเหลือจากเอ็นจีโอเบลเยียม ที่ฝึกฝนหนูให้ดมกลิ่นหาระเบิด เฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้วัตถุระเบิดกัมพูชา (CMAC) กล่าว
“หากหนูพวกนี้ผ่านการทดสอบเราถึงจะใช้พวกมัน แต่ถ้าหากสอบไม่ผ่าน เราจะยุติโครงการนี้” รัตนา กล่าว
รัตนา ระบุว่า มีการอ้างถึงความสำเร็จในการใช้หนูดมหากับระเบิดในบางประเทศของทวีปแอฟริกา เช่น แทนซาเนีย โมซัมบิก และแองโกลา และในตอนนี้บรรดาหนูยักษ์กำลังได้รับการฝึกจากผู้เชี่ยวชาญ ที่ จ.เสียมราฐ แต่มีหนูตายไปแล้วตัวหนึ่งเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และผู้เชี่ยวชาญวางแผนที่จะเริ่มทดสอบหนูในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
หนูเหล่านี้จะถูกนำไปฝึกภารกิจต่างๆ เพื่อดูว่ามันสามารถตรวจหาวัตถุระเบิดที่ฝังอยู่ใต้ดินได้หรือไม่ และทำงานได้รวดเร็วแค่ไหน
“พวกเขาจะทดสอบหนูในพื้นที่จริง แต่ในขั้นนี้ก็ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าเราสามารถใช้หนูพวกนี้ได้” รัตนา กล่าวและว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดชาวกัมพูชา 2 คน ที่เข้ารับการฝึกในแทนซาเนีย เวลานี้ได้แบ่งปันประสบการณ์ความเชี่ยวชาญให้แก่เพื่อนร่วมงานด้วย
เกือบ 3 ทศวรรษของสงครามกลางเมืองที่เข้าเกาะกุมกัมพูชาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ทำให้กัมพูชากลายเป็นประเทศที่ถูกระเบิดหนักที่สุด และมีระเบิดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เมื่อเดือนก่อน ทีมกู้ระเบิดใต้น้ำของกัมพูชาได้กู้ระเบิดขึ้นจากก้นแม่น้ำโขงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประเทศต่อสู้กับสิ่งตกค้างจากสงคราม
ทีมกู้ระเบิดต้องเผชิญต่องานที่ไม่มีใครต้องการในความพยายามที่จะหาตำแหน่ง และป้องกันวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดจำนวนมหาศาลที่ได้คร่าผู้คนไปเกือบ 20,000 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีจำนวนมากกว่า 2 เท่า นับตั้งแต่ปี 2522
รายงานสถิติของรัฐบาลกัมพูชาระบุว่า มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากระเบิดที่ตกค้างทั้งหมด 154 คน ในปี 2557 และ 111 คน ในปี 2556.