xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แจ้งข้อหาก่อการร้ายทีมบึ้มศาลอีก 3 ราย ชี้ออกหมายจับไปแล้ว 19 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมชัย อภินันท์ถาวร ผู้ต้องหา
ตร.รับมอบตัวผู้ต้องหาทีมบึ้มศาลอาญาอีก 3 รายพร้อมแจ้งข้อหาก่อการร้าย ผลการตรวจร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย ระบุคดีออหมายไปแล้ว 19 ราย หลบหนีอีก 3 ราย ยัน “อเนก ซานฟราน” นายทุนประกอบธุรกิจร้านอาหารอยู่ที่สหรัฐฯ


วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.20 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร กองพันทหารราบที่ มณฑลทหารบกที่ 1 (พัน ร.มทบ.11) ควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีปาระเบิดใส่ศาลอาญารัชดา เมื่อวันที่ 7 มี.ค. คือ นายวสุ เอี่ยมละออ อายุ 38 ปี นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ อายุ 52 ปี และนายสมชัย อภินันท์ถาวร อายุ 53 ปี โดยมี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.พญาไท เป็นผู้รับมอบผู้ต้องหา

จากการสอบสวน นายสมชัย ให้การว่า ลูกชายของตนทำงานอยู่ที่ร้านอาหารของอาต๋อย (อเนก ซานฟราน หรือ มนูญ ชัยชนะ) ชื่อร้านคิงส์ออฟไทยนู้ดเดิ้ล ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาต๋อยเป็นผู้ไหว้วานให้ลูกชายตนโอนเงินให้กับคนรู้จักที่ประเทศไทย และให้เงินมาเป็นเงินดอลลาร์ จากนั้นลูกชายได้โทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์มาหาตนให้ช่วยไปโอนเงินเข้าบัญชีที่จะส่งให้ผ่านไลน์ โดยครั้งแรกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำนวน 50,000 บาท เมื่อวันที่ 2 ก.พ. และครั้งที่ 2 ให้โอนเงินเข้าบัญชีเข้าธนาคารกรุงเทพ จำนวน 50,000 บาท เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ซึ่งลูกชายบอกว่าเป็นการโอนเข้าบัญชีนางสาวแอน (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) เพื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ญาติ ซึ่งทั้ง 2 ครั้งตนโอนเงินไปทั้งหมด 100,000 บาท โดยลูกชายไม่ได้โอนเงินที่ได้รับจากอาต๋อยมาให้ แต่จะใช้วิธีการซื้อวิตามิน กระเป๋า รองเท้า ส่งกลับมาให้ตนที่ประเทศไทย ซึ่งปกติตนจะสั่งให้ลูกชายซื้อมาให้ทุกเดือน ทั้งนี้ ตนไม่ทราบชื่อจริงของอาต๋อย และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ลูกชายเคยส่งภาพอาต๋อยมาให้ ต่อมา พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้นำรูปของนายมนูญ ชัยชนะ หรือ อเนก ซานฟราน มาให้นายสมชัย ดู โดย นายสมชัย ยืนยันว่าเป็นอาต๋อย เจ้าของร้านที่ลูกชายทำงานอยู่

นายสมชัย ให้การอีกว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าควบคุมตัวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งระหว่างอยู่ในการควบคุมตัวของทหารยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายหรือบังคับให้รับสารภาพ สิ่งที่ให้การเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และลูกชายก็ไม่เคยพูดถึงว่าการโอนเงินดังกล่าวเพื่อนำมาให้กระทำความผิด เพราะถ้าลูกรู้คงไม่ให้พ่อไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ส่วนวันที่ 8 มี.ค. ที่ไปโอนเงินครั้งที่ 2 นั้น ตนไม่ทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ปาระเบิดใส่ศาลอาญา ก็ยังคงออกไปขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดตลิ่งชั่นตามปกติ ซึ่งปกติตนมีอาชีพขายเสื้อผ้ากีฬา ที่สามย่าน หัวลำโพง และไม่เคยไปชุมนุมทางการเมือง รวมถึงลูกชายด้วย หลังจากจบปริญญาตรีที่ประเทศไทย ลูกชายก็ไปเรียนต่อปริญญาโท ที่อเมริกา ภายหลังจากถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปที่ลูกชายให้ทราบแล้ว

มีรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แยกสอบปากคำ พร้อมทั้งให้ทางแพทย์จาก รพ.ตำรวจ มาตรวจร่างกายผู้ต้องหาเพื่อยันยันว่า ไม่ได้มีการทำร้ายผู้ต้องหา จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แจ้งข้อหานายสมชัย นายวสุ และ นายสุรพล ร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันจ้างวานใช้ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีเครื่องกระสุนปืนและยุทธภัณฑ์ทางทหารที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.พญาไท ร่วมแถลงข่าวการสอบสวนผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากการก่อความไม่สงบเกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง โดยในครั้งแรกเกิดขึ้นในพื้นที่ของ สน.โชคชัย มีนายสุรพลเป็นผู้ลงมือ แต่ไม่สำเร็จ ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าศาลอาญา รัชดา มีกลุ่มของนายมหาหิน ขุนทองและนายยุทธนา เย็นภิญโญ เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ

ด้าน พล.ต.ต.ชยพล กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายสมชัยให้การว่า ลูกชายของตน คือ นายธนาวุฒิ อภินันท์ถาวร อายุ 28 ปี ทำงานอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของนายอเนก ซานฟราน หรือ นายมนูญ ชัยชนะ หรือ ต้อย หรือ ต๋อย ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ระหว่างที่ทำงานนั้น นายอเนกได้สั่งให้ลูกชายโอนเงินมาให้ตน 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นเดือนก.พ. ให้โอนเงินต่อให้นายวสุ เพื่อให้โอนต่อให้นางวาสนา และนางวาสนา จะนำเงินโอนให้นางสุภาพร เพื่อจ่ายเป็นค่าจ้างวานในการวางระเบิดให้นายสุรพล ต่อมาในครั้งที่สอง เป็นวันที่ 8 มี.ค. นายธนาวุฒิ ติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อบอกให้นายสมชัยโอนเงินให้ลูกชายนางสุภาพรอีก 50,000 บาท เพื่อนำไปเยียวยากลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับคือนายมหาหิน และนายยุทธนา ส่วนนายวสุและนายสุรพล รับสารภาพว่า ได้รับเงินที่โอนมาจากนายสมชัย เอาไปทำอะไรบ้าง

ด้าน พ.ต.ท.นพ.ธัญลักษณ์ ธุดี นพ.สบ3 รพ.ตำรวจ กล่าวว่า จากการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย มีแค่ความดันสูงเล็กน้อย ซึ่งอาจเกิดจากความตื่นเต้น ส่วนขั้นตอนการตรวจร่างกาย คือ เมื่อรับตัวผู้ต้องหามาก็จะตรวจวัดความดัน ชีพจร ระดับออกซิเจนในกระแสเลือด ขนาดของรูม่านตา และตรวจร่างกายทั่วไป ดูลักษณะของผิวหนังว่ามีบาดแผล หรือรอยฟกช้ำ หรืออวัยวะผิดรูปหรือไม่ แต่ภายหลังการตรวจร่างกายแล้ว ไม่พบร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้าย

ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.นพ.ธัญลักษณ์ เป็นผู้ตรวจร่างกายผู้ต้องหาทุกรายหรือไม่ พ.ต.ท.นพ.ธัญลักษณ์กล่าวว่า คราวก่อนตนเองไม่ได้ลงมาตรวจ เนื่องจากการเข้าตรวจแต่ละครั้งจะแล้วแต่เวรที่ลง และแพทย์แต่ละคนจะไม่ทราบข้อมูลของคนไข้มาก่อน แต่ถ้าตรวจพบอะไรก็จะต้องมีการบันทึกเอาไว้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วภาพผู้ต้องหาถูกทำร้ายที่ออกเป็นข่าว จะดำเนินการต่ออย่างไร พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า จากข่าวนั้น จะเป็นเรื่องของทางเรือนจำว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เพราะตอนที่ส่งตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำนั้นจะต้องมีการตรวจร่างกายด้วยอยู่แล้ว โดยขณะนี้ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดคือ 19 ราย แต่ในขณะนี้ตามจับได้แล้ว 16 ราย ยังเหลืออีก 3 ราย คือ นายมนูญ ชัยชนะ หรือ อเนก ซานฟราน นายวิระศักดิ์ โตวังจร และนายธนาวุฒิ อภินันท์ถาวร

ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องร่องรอยการถูกทำร้ายของผู้ต้องหา ว่า เมื่อนำตัวผู้ต้องหามานั้นจะมีการสอบสวนทุกคนอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่มีการใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน รวมถึงตัวผู้ต้องหาเองก็ไม่มีการพูดหรือเรียกร้องใดๆ ว่าตนถูกทำร้าย ทั้งนี้ ตามกฎหมายแล้วถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การหรือรับสารภาพใดๆ ยังไงก็ตามแต่ จะต้องยึดตามหลักฐานทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุและพยานบุคคลเป็นสำคัญ ส่วนการสอบสวนคดีนั้นจะดำเนินการต่อไป โดยจะต้องรอตามผลการสอบสวนเบื้องต้นก่อน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับรายชื่อที่ปรากฏในผังเครือข่ายการกระทำความผิด คือ นายธราเทพ มิตรอารักษ์ ลูกชายนางสุภาพร นายวิเชียร หรือ เชียร ชะลอยรัมย์ นายวิทย์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง นายประเทือง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง และนายรุ่ง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่มเติมแต่อย่างใด

กำลังโหลดความคิดเห็น