อธิบดีศาลอาญาเผยดำเนินคดี 2 คนร้ายปาระเบิดใส่ศาลอาญาฐานละเมิดอำนาจศาล ยันไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีของผู้พิพากษา ส่วนคดีฝ่าฝืนกฎอัยการศึกขึ้นศาลทหาร
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 10 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอธิป จิตต์สำเริง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมด้วยนายโชคชัย รุจินินนาท รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และนางศศิรัศมิ์ ปราณีจิตต์ เลขานุการศาลอาญา แถลงข่าวภายหลังได้รับรายงานความคืบหน้าเหตการณ์กลุ่มคนร้ายลอบปาระเบิดเข้าบริเวณลานจอดรถของศาลอาญาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายอธิปกล่าวยืนยันว่า แม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแต่การพิจารณาคดีในส่วนของศาลอาญายังยึดหลักเหมือนเดิม คือ พิจารณาตามพยานหลักฐานซึ่งเป็นแนวทางที่ผู้พิพากษายึดถือมาตลอด ทำหน้าที่ตามปกติ ที่ผ่านมาการพิจารณาคดีของศาลก็มีทั้งลงโทษและยกฟ้องโดยไม่ได้มุ่งเน้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแม้จะมีการข่มขู่ ทั้งนี้สำหรับความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลก็จะมีการไต่สวนจนได้ความชัดเจนก่อน ศาลจะไม่ได้ดำเนินการอย่างรวบรัดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ผู้กระทำผิดมีการใช้ระบบอินเทอร์เน็ตสื่อสารกันในการใช้จ้างวานจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่นั้น อยู่ที่พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนเราไม่สามารถก้าวล่วงได้ ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้พิพากษา ผู้พิพากษาทุกคนก็ปฏิบัติตัวไปตามปกติ การพิจารณาคดีต่างๆ ก็เป็นไปตามหน้าที่
“ผู้พิพากษามีหลักในการพิจารณาจะจำคุกใครต้องมีหลักฐานมั่นคง ไม่สามารถไปเอนเอียงได้ ถ้าเขาไม่ผิดจะเอาให้เขาผิดก็ขัดหลักจริยธรรม บ้านเมืองอย่างน้อยต้องมีศาลเป็นหลักที่จะให้ความเที่ยงธรรมแก่ประชาชนได้ ถ้าเงินซื้อทุกอย่างได้ สังคมก็อยู่ไม่ได้มันจะต้องมีกลุ่มคนที่เป็นกลางและอยู่แบบสมถะที่เงินไม่สามารถซื้อได้” นายอธิปกล่าว
ด้านนายโชคชัย รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า การใช้อาวุธสงครามกระทำต่อศาลอาญาเคยเจอมาแล้วประมาณ 3 ครั้ง ในส่วนนี้ก็ได้ประสานกับสำนักงานศาลยุติธรรมให้จัดระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว แม้การใช้อาวุธสงครามในพื้นที่เกิดเหตุจะสามารถเข้าข่ายความผิดต่อชีวิตและร่างกาย แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนไม่มีประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในบริเวณนั้นจึงมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในช่วงกฎอัยการศึก ถือว่าเป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ เพราะศาลอาญาก็เป็นส่วนหนึ่งของศาลยุติธรรมท้าทายอำนาจบ้านเมือง
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นจะมีการแยกคดีออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกจะเป็นเรื่องของการใช้อาวุธสงครามกระทำการซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงกฎอัยการศึกจึงเป็นอำนาจของศาลทหาร และส่วนที่ 2 คือ กฎหมายได้ให้อำนาจในการคุ้มครองศาลจากกรณีที่มีการละเมิดหรือก่อเหตุภยันตรายๆ ใด ซึ่งเราจะดำเนินการในส่วนนี้ ส่วนการพิจารณาคดีจะไปถึงผู้ใช้ ผู้จ้างวาน ผู้ยุยงส่งเสริม ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศหรือไม่นั้น ตอนนี้มองว่ายังไกลเกินไป แต่ถ้าข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของผู้พิพากษาไปถึงใครก็จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นไม่จำเป็นต้องรอให้ศาลทหารพิจารณาคดีอีกส่วนหนึ่งให้เสร็จก่อน หากได้ตัวมาศาลอาญาก็สามารถพิจารณาคดีได้ทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายความผิดฐานอะไรบ้าง นายโชคชัยขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะรวบรวมไปถึงเพียงใด เมื่อถามว่าหากปรากฏว่าการก่อเหตุครั้งนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองที่มีการพิจารณาคดีของศาลอาญาอยู่ในตอนนี้จะนำไปสู่การเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวหรือไม่ นายโชคชัยกล่าวว่า เรายังไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น เบื้องต้นมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์แต่ต้องรอผลสอบสวนให้ชัดเจนก่อน
นางศศิรัศมิ์ เลขานุการศาลอาญา กล่าวว่า ในวันนี้ พ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้เข้ารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายละเอียดเป็นการแจ้งเรื่องของการออกหมายจับคนร้ายและการขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลอาญามีการเปิดทำการตามปกติ โดยเพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายใดๆ ในบริเวณศาลซึ่งประชาชนทั่วไปที่มาติดต่อราชการก็เข้าใจและให้ความร่วมมือในการตรวจค้นเป็นอย่างดี