xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาใกล้บ่อกากแร่แจ้งจับมือโพสต์ อ้างสารพิษเหมืองทองเจิ่งนาข้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิจิตร - ชาวนาใกล้บ่อกากแร่เหมืองทองอัครา ขึ้นโรงพักแจ้งจับมือโพสต์ภาพนาข้าวน้ำเจิ่ง แถมระบุมีสารพิษจากเหมืองเจอปน บอกกลัวขายข้าวไม่ได้ ขณะที่ผู้บริหารอัคราจ่อฟ้องด้วย ระบุทำบริษัทเสียหาย

วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนา ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร 3 รายที่ยืนยันว่ามีที่นาอยู่ข้างบ่อกากแร่ เหมืองทองอัครารีซอร์สเซส คือ นายฉลวย เขียวเทียน อายุ 76 ปี 23 ไร่ นายอำนวย นามนา อายุ 46 ปี 30 ไร่ น.ส.พิมพ์ใจ จันทร์ขำ อายุ 40 ปี 47 ไร่ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อ ร.ต.อ.พรภัทร์ สงวนศักดิ์ พงส.สภ.ทับคล้อ

โดยระบุว่า เนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Smith Tungkasmith โพสต์ข้อความว่า “ด่วน ได้รับรายงานจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างบ่อทิ้งกากไซยาไนด์ เหมืองแร่ทองพิจิตร เมื่อเย็นว่า มีการรั่วไหลของน้ำจากบ่อดังกล่าวลงไปในที่นาของชาวบ้าน” และมีผู้นำภาพที่ดินของนางพิมพ์จันทร์ และนายอำนวย ไปเผยแพร่โดยปรากฏถ้อยคำว่า “บ่อสารพิษรั่วเหมืองทองคำพิจิตร 10-22 ก.พ.58 ขอบบ่อไซยาไนด์สูงจากพื้นกว่า 50 เมตร นาข้าวใต้บ่อไซยาไนด์หลังเก็บเกี่ยวเจิ่งไปด้วยน้ำที่มีกลิ่นเหม็น” อีกทั้งมีการโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “เสียงจากอาสาสมัคร น้ำในนาดำและเหม็นมาก เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงบ้านตี 2 (ก.พ. 23 58)” จากนั้นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somluk Hutanuwatr เป็นผู้นำไปเผยแพร่เป็นรายที่ 2

ชาวนาทั้ง 3 คนยืนยันว่า ข้อมูลที่มีการโพสต์นั้นไม่เป็นความจริง สาเหตุที่นาของพวกตนทั้ง 3 มีน้ำเจิ่งนองเพราะมีน้ำซับที่มีมาจากธรรมชาติ และมีมานานแล้ว ก่อนที่เหมืองทองอัคราจะเปิดด้วยซ้ำ ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของเหมือง

นายอำนวย ให้การเพิ่มเติมในส่วนของข้าวที่ได้รับความเสียหาย และเน่านั้น เกิดจากการที่เกษตรกรใช้สารฆ่าหญ้า ไกรโฟเซต) ซึ่งไม่ได้เกิดจากสารพิษของทางเหมืองทองอัครา

น.ส.พิมพ์ใจ และนายฉลวย ก็ยืนยันว่า “นายอำนวย ให้ถ้อยคำตามความจริง ที่ต้องมาแจ้งความไว้เนื่องจากทั้ง 3 คนเกรงว่า ถ้อยคำดังกล่าวที่มีการนำไปเผยแพร่นั้น เมื่อพวกตนเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจะขายข้าวไม่ได้ และถ้าหากเสียหายจากการขายผลผลิตไม่ได้ ก็จะมาแจ้งความร้องทุกข์อีกครั้ง”

นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การประโคมข่าวดังกล่าวเป็นการให้ร้ายบริษัท โดยไม่ได้มีการตรวจสอบ ทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหาย และเกิดความกังวลหวาดกลัวในหมู่ชาวบ้านใกล้เคียง ขณะนี้ทางบริษัทกำลังให้ฝ่ายกฎหมายประมวลเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กว่า “เหมืองทองอัครา ปล่อยสารเคมีทำให้ที่นาของชาวบ้านเดือดร้อน” เพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลให้สังคมเข้าใจผิด และเกิดความเกลียดชัง และอาจส่งผลกระทบต่อการประกอบการ มูลค่าความเสียหายสูงนับร้อยล้านบาทอีกด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น