กลุ่มค้านตั้ง “จ.บัวใหญ่” โร่แจ้งความเอาผิดแกนนำกลุ่มหนุนฐานหมิ่นเบื้องสูง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มค้านตั้ง จ.บัวใหญ่หอบหลักฐานโร่แจ้งความเอาผิดแกนนำกลุ่มหนุน ฐานหมิ่นเบื้องสูง และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และแอบอ้างชื่อนายกฯ รับสนองพระบรมราชโองการฯ หลังนำร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่เผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ประชาชนชาวโคราชหลงเชื่อ

วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 ก.พ. ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา พร้อมด้วยนายมานพ สธนเวภาคย์ และ ร.ต.พงศภัค ภูริสิทธิพล แกนนำกลุ่มคัดค้านแบ่งแยกเมืองโคราช ได้หอบหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิด นายคำพันธ์ บุญยืด อดีตข้าราชการครู, นายสราวุธ นวลพลกรัง เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบัวใหญ่ และ นายอรุณ อัครปรีดี แกนนำกลุ่มผู้ผลักดันการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่และพวก เพื่อให้เอาผิดตามกระบวนการกฎหมาย

โดยอ้างว่าได้ร่วมกันแอบอ้างเบื้องสูง ด้วยการนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พ.ศ. ... เผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยผ่านเพจของ “กลุ่มชาวบัวใหญ่ 8 อำเภอรวมกันก่อตั้งจังหวัดบัวใหญ่” และแอบอ้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการในท้ายของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยนำลงเผยแพร่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาหลงเชื่อ ซึ่งมี พ.ต.ท.ไมตรี กองสุข พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นผู้รับแจ้งความ

นายศุภฤกษ์กล่าวว่า การเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อต้องการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อแกนนำกลุ่มผู้ผลักดันจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ฐานหมิ่นเบื้องสูง และฐานผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงแอบอ้างชื่อบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสิ่งที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือการจัดทำเอกสารร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวโดยหลอกลวงข้อเท็จจริงให้ประชาชนหลงเชื่อ นำมาซึ่งความขัดแย้ง แตกแยกของคนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นชนวนสำคัญของความแตกแยกในที่สุด

ขณะนี้กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังไม่มีท่าทีที่จะหยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ในทางกลับกันกลุ่มบุคคล และองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรทางการศึกษา องค์กรศาสนา นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือบุคคลที่ประชาชนเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ต่างมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ และมีการแจกเอกสารสอบถามไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก นักเรียนตามสถาบันการศึกษาต่างๆ อย่างชัดเจน

หลังจากแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ทางกลุ่มเรายังได้ยื่นหนังสือพร้อมมอบหลักฐานทั้งหมดให้แก่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อดำเนินการต่อบุคคลดังกล่าวอย่างเด็ดขาดต่อไป