ไทยพาณิชย์-สจล.แถลงข้อตกลงดูแลความเสียหายคดียักยอกเงิน แบงก์ใบโพธิ์พร้อมจ่ายไม่เกิน 1,500 ล้านบาทตามมูลค่าความเสียหายที่ สจล.ประเมินไว้ “วิชิต” เผยยึดหลักธรรมาภิบาล รับผิดชอบต่อลูกค้า เหตุมีพนักงานแบงก์เกี่ยวข้องด้วย อยากให้เรื่องยุติโดยเร็ว พร้อมหนุนตำรวจจับกุมผู้ทำผิดมารับโทษ
วันนี้ (27 ก.พ.) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีการยักยอกเงิน สจล. โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะให้เงินเพื่อดูแลความเสียหายในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาทแก่ สจล. ตามมูลค่าความเสียหายที่ทาง สจล.ได้ประเมินไว้ แต่หากในที่สุดมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า สจล. มีความเสียหายที่แท้จริงน้อยกว่าวงเงินข้างต้น สจล.จะจ่ายคืนส่วนต่างให้แก่ธนาคาร ทั้งนี้ การทำความตกลงข้างต้นไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อกลุ่มผู้ทุจริต ซึ่งทั้งสองสถาบันต่างยืนยันการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีจนถึงที่สุด และต่อจากนี้ไปการให้ข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานอัยการเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อรูปคดี
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การที่ธนาคารไทยพาณิชย์ให้เงินเพื่อดูแลความเสียหายแก่ สจล.ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาทในครั้งนี้นั้น ธนาคารยึดหลักธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคม กรณีนี้ได้ปรากฏว่ามีพนักงานของธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต ธนาคารจึงแสดงความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ สจล. ธนาคารเห็นว่าหากปล่อยให้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสถาบันยืดเยื้อต่อไปจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อทั้งสองสถาบัน และอาจส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งในภาคเศรษฐกิจและการศึกษาของประเทศ เพราะธนาคารเป็นหนึ่งในสถาบันหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกับ สจล.ที่เป็นหนึ่งในสถาบันหลักด้านการศึกษา ทั้ง 2 สถาบันจึงเห็นพ้องกันให้ดำเนินการยุติเรื่องโดยเร็ว ส่วนเรื่องการเอาผิดตามกฎหมายก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทั้งสองสถาบันพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดีที่สุดเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม”
ด้าน ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า สถาบันขอขอบคุณธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในการแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทั้ง สจล. และธนาคารไม่ต้องการที่จะให้เกิดขึ้นอีก โดยในส่วนของ สจล.แล้วต้องถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่จะต้องรีบดำเนินการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน ในส่วนของการบริหารจัดการทางด้านการเงินของ สจล.ก็จะมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ทุกกระบวนการในการทำธุรกรรมทางด้านการเงินสามารถตรวจสอบได้ ด้านคดีความ สจล.ก็จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด และเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความถูกต้องและยุติธรรมกับทุกฝ่าย
“ในเบื้องต้นนี้ สจล.ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอบคุณธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้ความสำคัญกับคดีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ สจล. และเห็นความสำคัญของสถาบันการศึกษาที่มีหน้าที่หล่อหลอมเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีความรู้เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ซึ่ง สจล.ก็จะนำเงินจำนวนดังกล่าวของ สจล.มาเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านวิชาการและด้านการบริหารในส่วนต่างๆ ของสถาบันต่อไป” ศ.ดร.โมไนยกล่าว