ปปง. เปิดตู้เซฟที่ยึดได้จาก บ. ของ “สถาพร” ผู้รับเช็คจากผู้ต้องหายักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พบอาวุธปืน สัญลักษณ์ของวัดพระธรรมกาย สอบประวัติรู้ว่าไปบวชที่วัดธรรมกายเป็นเวลากว่า 20 ปี ก่อนจะสึกออกมาเมื่อปี 2554
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนพดล อุเทน ผอ.กองคดีกอง 1 ปปง. และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้เชฟขนาด 2 เมตร ที่เจ้าหน้าที่รมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทหาร ปปง. สนธิกำลังเข้าตรวจค้น บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบริษัทของนายสถาพร วัฒนาศิริกุล ผู้ที่รับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ผู้ต้องหา ในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจค้นบริษัทดังกล่าว สามารถตรวจยึดและอายัดเอกสารได้จำนวนมาก รถยนต์ออดี้สปอร์ต รถยนต์ตู้โฟล์ค 2 คัน และตู้เซฟ
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า จากการเปิดตู้เซฟดังกล่าวพบ อาวุธปืน 5 กระบอก แม็กกาซีนบรรจุกระสุน พร้อมใช้งาน และกล่องเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีพระเครื่อง ทั้งเหลี่ยมทอง และไม่เหลี่ยมทอง จำนวนกว่า 50 องค์ สำหรับพระเครื่องส่วนใหญ่เป็นพระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่น 1 และพระเครื่องรุ่นดังอีกหลายองค์ อาทิ พระสมเด็จ พระซุ้มกอ พระนางพญาพิษณุโลก พระรอดลำพูน นอกจากนี้ ยังมีเครื่องราง และลูกแก้วใส สัญลักษณ์ของวัดพระธรรมกาย
ทั้งนี้ หากหลักฐานภายในตู้เซฟดังกล่าวมีความเชื่อมโยงทางคดี จึงให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจเก็บดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ เพื่อหาผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับตู้เซฟดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนทั้ง 5 กระบอก จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาที่มาที่ไป และดูว่าเคยมีประวัติในการใช้ก่อเหตุอาชญากรรมหรือไม่ จากนั้นให้ส่งหลักฐานทั้งหมดมาให้ทาง ปปง. จัดทำบัญชีทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่านายสถาพร เคยมีประวัติการบวชที่วัดธรรมกายเป็นเวลากว่า 20 ปี ก่อนจะสึกออกมาเมื่อปี 2554
เมื่อถามว่า นายสถาพร มีความสนิทสนมกับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หรือไม่ พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่านายสถาพรมีความสนิทสนมมากน้อยแค่ไหน
ด้าน นายนพดล กล่าวว่า ตรวจสอบข้อมูลการรายงานธุรกรรมทางการเงินและทรัพย์สินของนายศุภชัย พบว่า นายศุภชัย โอนเงินให้นายสถาพร วัฒนศิรินุกุล เมื่อปี 2553 จำนวน 127 ล้านบาท และโอนให้บริษัท เอช.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อปี 2554 - 2555 จำนวน 124 ล้านบาท สำหรับสมุดบัญชีเงินฝาก 3 เล่ม ที่พบภายในตู้เซฟเป็นสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดไทย โดยมีเงินหมุนเวียน 27 ล้านบาท และพบว่า มีการทยอยถอนเงินออกจากบัญชีตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งปัจจุบันมียอดเงินคงเหลือในบัญชี 30,000 บาท อย่างไรก็ตาม สมุดบัญชีเงินฝากเป็นชื่อของนายสถาพร 1 เล่ม และชื่อของบริษัท เอช.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 2 เล่ม ทั้งนี้ หลักฐานที่พบ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีความเชื่อมโยงถึงใครบ้าง แต่หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบปากคำ ทั้งนี้ ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) หากพบว่า เข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงิน ทาง ปปง. จึงจะมีอำนาจเข้าไปดำเนินการาตรวจสอบได้