ปลัด ยธ. เผยความคืบหน้าคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ระบุอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบการสั่งจ่ายเช็คกว่า 800 ฉบับ มูลค่า กว่า 11,000 ล้านบาท ชี้เงินบริจาควัดธรรมกายจำนวน 600 ล้าน หากพบว่าได้จากการกระทำผิดสามารถยึดคืนได้
วันนี้(6 ก.พ.)เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ว่าภายหลังที่พนักงานสอบสอบสวนได้สอบสวนเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำหนังสือกู้ ยืม เงิน ปลอม ซึ่งผู้ที่ถูกเรียกให้ชดใช้หนี้จากสัญญาเงินกู้ก็มีการไปฟ้องศาล ล่าสุดยังพบมีการนำเงินออกเพื่อไปใช้เป็นค่าธรรมเนียม หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบบัญชีของสหกรณ์ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2553 -ปัจจุบัน เพื่อดูเส้นทางการเงิน ซึ่งข้อมูลทางบัญชีการเงินนั้นจะมีการเก็บในระยะ 5 ปี โดยในส่วนการดำเนินการตามความผิดฐานฟอกเงินนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้อายัดเงินไว้กว่า 3,000ล้านบาท
นอกจากนี้ ชุดพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบการสั่งจ่ายเช็คจำนวนเกือบ 800 ฉบับ มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร หรือสั่งจ่ายแก่ใครบ้าง ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า เงินในจำนวนนี้คือเงินที่ได้มาจากการทุจริต ซึ่งบางส่วนอาจจะเป็นเงินที่ได้มาด้วยความชอบธรรม
สำหรับกรณีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ผู้ต้องหาในคดียักยอกเงิน เคยนำเงินไปบริจาคแก่วัดธรรมกายจำนวน 600 ล้านบาท นั้น พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวว่า หากพบว่าทรัพย์นั้นได้มาจากการกระทำความผิดก็สามารถยึดทรัพย์สินกลับมาคืนได้
พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ผู้เสียหายเห็นว่าการที่นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ใช้ตำแหน่งข้าราชการประกันตัวนายศุภชัย ผู้หาคดีนี้ มีความไม่เหมาะสม ว่า โดยกฎหมาย หรือกฏระเบียบนั้น นายธวัชชัย ไม่ได้ทำผิดอะไร ซึ่งตนเคยพูดคุยเรื่องนี้ แต่ทางรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าได้ใช้สิทธิ์ตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งตนก็พยายามชี้แจงกับผู้เสียหายในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า การดำเนินคดีนี้นายธวัชชัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเราก็ไม่ยอมให้มาเกี่ยวข้องในการดำเนินคดีนี้ทั้งสิ้น