ชุดสืบสวน บก.น.4 ตามประกบเครือข่ายยาบ้าเรือนจำลาดยาว เข้ามาปล่อยของในพื้นที่มีนบุรี ก่อนขอตรวจค้น ยึดยาบ้าพร้อมอาวุธปืน สารภาพเป็นคนเดินยารับใบสั่งยามาจากในคุก ได้ค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่นบาท
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.4 พ.ต.ท.นิเวชร์ งามลาภ พ.ต.ต.พิรัชย์ สัจจา สว.ปส.บก.น.4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวรายุทธ หรือเซฟ บัวบุศย์ อายุ 30 ปี และนายชลาคม หรืออั๋น ศรีอุดร อายุ 33 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,400 เม็ด ยาไอซ์ 8.70 กรัม อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน ผล 8444 นครราชสีมา จับกุมได้ที่เอบีซี อพาร์ทเม้นท์ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า เนื่องจากชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์เครือข่ายยาเสพติดซึ่งอยู่ในพื้นที่ โดยมีความเชื่อมโยงในเรือนจำลาดยาว ต่อมาได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 15 ก.พ. 58 ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์พบนายชลาคมเดินเข้ามาท่าทีมีพิรุธจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบของกลางเป็นยาบ้า 1,400 เม็ด ยาไอซ์ 8.70 กรัม โดยมีอาวุธปืนขนาด .38 เหน็บไว้อยู่ที่เอว จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนขยายผลสามารถจับกุมนายวรายุทธพร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ดได้ขณะกำลังขับรถยนต์เข้ามาส่งยาบ้าให้กับนายชลาคมที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว โดยพฤติการณ์ของแก๊งยาบ้าเครือข่ายนี้จะมีหัวโจกเป็นนายต้น (ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง) ซึ่งเป็นนักโทษคดียาเสพติดที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำลาดยาว เป็นผู้สั่งการให้ไปรับยาบ้าจากเครือข่าย ก่อนนำไปปล่อยในพื้นที่ นอกจากนี้ นายต้นยังเป็นผู้จัดหาอาวุธปืนให้กับเครือข่ายเพื่อมีไว้ป้องกันตัวจากแก๊งยาเสพติดคู่อริ พร้อมทั้งมีไว้ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
นายวรายุทธให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างขนยาเสพติดจากนายต้นครั้งละประมาณ 50,000 บาท ทำมาแล้ว 6-7 ครั้ง แต่ละครั้งจะรับยาเสพติดมาจำนวนไม่เท่ากัน เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป