กองปราบฯ ปูพรมไล่ล่าฆาตกามหญิงชราต่อเนื่อง

รรท.ผบก.ป. เผย ตำรวจกองปราบฯ ยังคงปูพรมไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องฆ่าข่มขืนหญิงสูงวัยอย่างไม่ลดละ ยืนยันคดีมีความคืบหน้า ได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมเพียบ

วันนี้ (13 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุข่มขืนหญิงชราต่อเนื่อง 10 ราย ในพื้นที่ บช.ภ. 7 ว่า เมื่อช่วงเช้าได้เรียก ผกก. แต่ละกองที่ลงไปดูแลคดีดังกล่าวมาหารือและกำชับในเรื่องคดี ตอนนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ชุดสืบสวนสามารถแยกได้ว่าทั้ง 10 คดี แต่ละคดีคนร้ายใช้เส้นทางใดในการก่อเหตุ คนร้ายมีแผนการประทุษกรรมอย่างไร

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้พยานเพิ่มเติมมาอีกมากมาย หลังจากที่ได้ทำเอกสารแผ่นพับเกี่ยวกับเบาะแสของคนร้ายแจกจ่ายไปในพื้นที่ ซึ่งประชาชนก็ได้โทรศัพท์เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลที่ได้มาก็จะนำไปเชื่อมต่อเพื่อหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายนั้นดูจากภูมิศาสตร์อาชญากรรมแล้ว ชุดสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุในคดีล่าสุด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.พุทธมณฑล อ.นครชัยศรี อ.บางเลน รอยต่อ 3 อำเภอนี้ ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอบุคคลต้องสงสัยที่ถูกนำตัวมาตรวจสอบนั้น ผลการตรวจออกมาแล้วพบว่าไม่ตรงกับคนร้าย

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวด้วยว่า หลังจากมีการหารือกันเมื่อช่วงเช้าแล้ว ได้ข้อสรุปว่าอย่าเพิ่งรีบฟันธงว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มคนอาชีพใด ขอให้เป็นในหลายๆ กลุ่มอาชีพก่อน ซึ่งเราจะดูเรื่องของพยานที่พบ แยกแยะแต่ละคดีว่าคนร้ายมาเส้นทางใด และมาอย่างไร ถ้าเรารีบฟันธงว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มอาชีพใดอาชีพหนึ่งแล้วในระหว่างนี้เกิดเปลี่ยนอาชีพขึ้นมา ในช่วงที่อยู่ อ.บางคนที ทำอีกอาชีพนึง ในช่วงที่อยู่ อ.พุทธมณฑล ทำอีกอาชีพนึง จะทำให้เกิดความสับสนในการสืบสวน ทั้งนี้ เรายังให้ความสำคัญกับกลุ่มอาชีพทุกอาชีพที่ต้องสงสัยที่เกี่ยวโยงกับลักษณะของการกระทำความผิดอยู่