หนุ่มไอริชเจ้าของ บ.อสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต ร้องสื่อฯ ถูกแก๊งมาเฟียเงินกู้สมคบเมียคนไทยปลอมลายเซ็นถ่ายโอนทรัพย์สิน สูญบ้าน-ที่ดิน มูลค่า 65 ล้าน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 12 ก.พ. 2558 นายโคลิน วอร์ด (Colin Vard) อายุ 61 ปี สัญชาติไอริช เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าตนเองเคยเป็นเจ้าของบริษัท ภูเก็ต พรอพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 23/7 หมู่ 10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต บริษัทอสังหาริมทัพย์ที่ดำเนินกิจการซื้อขายแลกเปลี่ยน และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดตั้งแต่ปี 2544 ต่อมาถูกขบวนการซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม, เจ้าหน้าที่ที่ดิน, ทนายความ, นายธนาคาร, บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ดำเนินการปลอมแปลงเอกสารทำการซื้อขายถ่ายโอนบ้านและที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ จำนวน 8 รายการ มูลค่าประมาณ 65 ล้านบาทไปจนหมดสิ้น
นายโคลินกล่าวว่า ต้นเดือนมิถุนายน 2553 ตนถูกกลุ่มบุคคลพร้อมอาวุธขับไล่ให้ออกจากบ้านพักซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทฯ แต่ตนไม่ยอมออก อีก 3 สัปดาห์ต่อมีก็มีหมายศาลจังหวัดภูเก็ตสั่งให้ตนออกโดยระบุว่าบ้านดังกล่าวถูกขายต่อไปยังบุคคลอื่นแล้ว ทั้งที่ตนไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน
ต่อมาจึงทราบเรื่องจาก น.ส.นิตยา สุคำภา อดีตแม่บ้านซึ่งตนมีบุตรชายด้วย ว่าได้ไปกู้ยืมเงินจากผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งเป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท เพื่อไปลงทุนกิจการร้านก๋วยเตี๋ยว แต่อัตราดอกเบี้ยสูงมากจนไม่สามารถชำระได้ จึงถูกนายทุนรายดังกล่าวบังคับให้ร่วมมือดำเนินการฉ้อโกงเอาทรัพย์สินไปจากตน โดยร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร และปลอมลายมือของตนทำการซื้อขายถ่ายโอนทรัพย์สินของบริษัทไปยัง น.ส.นิตยาจนหมดสิ้น ก่อนที่ทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกขายต่อไปยังกลุ่มนายทุนโดยที่ตนไม่ทราบเรื่องและไม่เคยได้รับเงินจากการขายสินทรัพย์แม้แต่บาทเดียว
ต่อมาตนจึงได้ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินคืนจำนวน 2 คดี แต่มาทราบภายหลังจากล่ามว่า ทนายความในพื้นที่ที่ว่าจ้างได้ร่วมมือกับขบวนการด้วย จึงเปลี่ยนมาใช้ทนายที่กรุงเทพฯ แต่ก็มีคนมาบอกว่าผู้มีอิทธิพลในขบวนการยื่นข้อเสนอเป็นจำนนวนเงิน 1.2 ล้านบาท ให้ทนายว่าความให้แพ้ ปรากฏว่าแพ้คดีโดยที่ทนายไม่เคยให้ตนได้เห็นเอกสารหลักฐาน หรือเล่าเรื่องคดีให้ฟัง อีกทั้งเมื่อตนมาขอให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานช่วยพิสูจน์ลายเซ็นให้ เมื่อได้ผลว่าลายเซ็นที่ปรากฏในเอกสารซื้อขายต่างๆ ไม่ใช่ของตน แต่ทนายก็ไม่ยอมนำเอกสารดังกล่าวไปใช้ในการว่าความทั้งที่เป็นหลักฐานสำคัญ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้นายคอลินได้นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.ประวุฒิได้รับเรื่องไว้และรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน และหากพบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นก็จะดำเนินการต่อผู้เกี่ยวข้องโดยไม่ละเว้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีขบวนการลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติมาอยู่อาศัยและลงทุนทำธุรกิจ ทั้งภูเก็ต สมุย พัทยา มีนักธุรกิจสัญชาติต่างๆ ต้องตกเป็นเหยื่อสิ้นเนื้อประดาตัว โดยที่กระบวนการยุติธรรมไทยไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศเป็นอย่างมาก