xs
xsm
sm
md
lg

สาวรุ่นวัย 28 ปี ประเดิมข้อหาเมาขับเพราะไม่ยอมเป่า แถมยื้ออยู่ 4 ชั่วโมงเลยเจอพ่วงอีกหลายข้อหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สาวรุ่นวัย 28 ปี ประเดิมข้อหาเมาขับเพราะไม่ยอมเป่า จนต้องยกรถมาโรงพัก ยื้ออยู่ 4 ชั่วโมงกว่าจะลงจากรถ เลยเจอพ่วงอีกหลายข้อหา เจ้าตัวอ้างไม่เมา แต่ไม่ลงจากรถเพราะแต่งตัวไม่ไม่เรียบร้อย กลัวไม่ปลอดภัย

เมื่อเวลา 02.30 น. วันนี้ (11 ก.พ.) ขณะที่ ร.ต.ท.รัฐกร โอษฐ์เจษฎา รอง สว.จร.สน.บางโพงพาง พร้อมกำลังตำรวจจราจร สน.บางโพงพาง ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์บนนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานาวา กทม. พบหญิงสาวขับรถยนต์ฮอนด้า บริโอ สีขาว ทะเบียน 1 กอ 2123 กรุงเทพมหานคร เลี้ยวเข้าซอยเพื่อเลี่ยงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ต้องตามไปเคาะกระจกรถจนหญิงคนดังกล่าวยอมจอดรถข้างทางแต่ไม่ยอมลงจากรถ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ บัตรประชาชน พร้อมทั้งนำเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์มาให้หญิงสาวเป่า แต่ก็ไม่ยอมเป่า ได้แต่แง้มกระจกรถต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีมารยาทที่ไปเคาะรถ ก่อนนำใบอนุญาตขับขี่จักรยานยนต์มาให้เจ้าหน้าที่ดู ทราบชื่อ น.ส.ชุติมา กันทาง อายุ 28 ปี

จนเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่เลิกตั้งด่านตรวจแล้วจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ น.ส.ชุติมาลงมาจากรถ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้รถยกลากรถคันดังกล่าวมาไว้ที่ สน.บางโพงพาง จากนั้นพยายามเกลี้ยกล่อมให้ น.ส.ชุติมาลงมาจากรถ จนกระทั่งเวลา 06.30 น.จึงยอมลงจากรถเข้าไปพบพนักงานสอบสวน

โดย น.ส.ชุติมาให้การว่ามีอาชีพขายของ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เพิ่งไปดื่มกับเพื่อนมา แต่คิดว่ายังสามารถขับรถได้ สาเหตุที่ไม่ยอมลงจากรถเนื่องจากแต่งตัวไม่เรียบร้อย และเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนใบขับขี่รถยนต์กับบัตรประชาชนนั้นไม่ได้เอามาเนื่องจากเปลี่ยนกระเป๋า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถยนต์ขณะมึนเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น ขับรถขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ และไม่แสดงบัตรประจำตัวประชาชน ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.ท.ชัยภักดิ์ สมภักดี พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน ร.ต.ท.รัฐกรกล่าวว่า ช่วงที่ น.ส.ชุติมาจอดรถอยู่ในซอยและยอมเปิดกระจกรถคุยก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จึงขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ พร้อมทั้งขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ น.ส.ชุติมาแสดงใบขับขี่จักรยานยนต์ และแง้มกระจกรถคุยกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น เกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ยอมเป่าหรือลงจากรถแต่อย่างใด แต่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ ปรับเพิ่มความเข้มงวดในการเอาผิดกรณีไม่ยินยอมให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาไว้ก่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทำให้เมื่อเลิกด่านจึงต้องยกรถของ น.ส.ชุติมามาที่ สน.บางโพงพาง พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับและข้อหาอื่นได้ทันที

ทั้งนี้ กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ขับขี่ไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วสามารถแจ้งข้อหาได้ทันที หลัง พ.ร.บ.ใหม่มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาสามารถไปสืบพยานหักล้างในศาลได้ภายหลัง




กำลังโหลดความคิดเห็น