ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ปรับ 1.7 หมื่นบาท แต่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี สาวเมาแล้วขับ ไม่ยอมเป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ฉบับแก้ไขใหม่
ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง วันนี้ (12 ก.พ.) พนักงานอัยการฝ่ายคดีแขวงพระนครใต้ เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ชุติมา กันทาง อายุ 28 ปี ชาว จ.นครพนม อาชีพค้าขาย เป็นจำเลยในความผิดฐาน ขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุรา, ขับขี่รถยนต์ในขณะหย่อนความสามารถ, ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานในการตรวจวัดแอลกอฮอล์, ไม่แสดงบัตรประจำตังประชาชน และไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2557
กรณีเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 11 ก.พ. 2558 ขณะที่ ร.ต.ท.รัฐกร โอษฐ์เจษฎา รอง สว.จร.สน.บางโพงพาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กำลังตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อยู่บริเวณ ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ ใกล้กับปากซ.นราธิวาสราชนครินทร์ 24 แขวงช่องนนทรี เขตยานาวา กทม. จำเลยได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า บริโอ สีขาว ทะเบียน 1 กอ-2123 กทม. เลี้ยวเข้าซอยเพื่อเลี่ยงด่านตรวจ พร้อมทั้งพยายามจะขับผ่านเจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจรถคันอื่นอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ บัตรประจำตัวประชาชน และสังเกตเห็นจำเลยมีอาการมึนเมาสุรา จึงขอให้เป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่จำเลยปฏิเสธ และไม่ยอมลงจากรถยนต์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ลากรถยนต์จำเลยไปที่ สน.บางโพงพาง อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าตรู่จำเลยได้ยินยอมลงจากรถยนต์ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ พิพากษา จำคุก 6 เดือน ปรับ 17,000 บาท คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 8,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติและให้จำเลยบริการสาธารณประโยชน์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นคดีแรกที่ผู้ขับขี่ไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ พนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที หลัง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2557 ฉบับที่ 10 แก้ไขใหม่มีผลบังคับใช้ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการเอาผิด กรณีผู้ขับขี่ยานพาหนะฝ่าฝืนไม่ยินยอมเป่า หรือให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ โดยให้สันนิษฐานว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้นั้นเมาสุรา หรือมึนเมาอย่างอื่นไว้ก่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
