“เอกชัย” ยันไม่เคยขอ “พงศ์พัฒน์” อ้างเบื้องสูงช่วยเปิด “นัมเบอร์วัน” แค่ลักไก่เอาเงิน 5 ล้านคืนจากเจ้าของบ่อนที่ยืมไป โดยอ้างเคลียร์ผู้ใหญ่ให้แล้วเท่านั้น ยอมรับหลังทหาร-ตำรวจบุกเข้าทลายถูกกักตัว 59 วันจึงปล่อยตัว พร้อมกำชับห้ามสัมภาษณ์กับสื่อ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบก.ป. ร่วมแถลงข่าวหลังตรวจค้นบ้านนายเอกชัย พลอยหิน หรือเอฟ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาหมิ่นเบื้องสูง, ฉ้อโกง และเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทน หรือจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตน ให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 341 และ 143 ที่ จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า จากการตรวจค้นบ้านนายเอกชัยพบอาวุธปืน 5 กระบอก เป็นปืนลูกซองยาว 5 นัด 1 กระบอก ลูกซองสั้น 1 กระบอก และปืนสั้นแบบออโตเมติก 3 กระบอก นายเอกชัยอ้างว่าบางกระบอกมีทะเบียนถูกต้อง บางกระบอกมีคนนำมาฝากไว้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบที่มาที่ไปโดยละเอียดว่าเป็นของผู้ใด นำมาฝากเพราะเหตุใด รวมถึงเคยก่อคดีใดมาก่อนหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหามีและครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มอีกข้อหา
พ.ต.อ.ประเสริฐกล่าวว่า สำหรับคดีบ่อน “นัมเบอร์วัน” ย่านเหม่งจ๋าย ตรวจสอบพบว่านายวิศิษฏ์ สัจพจน์นุกูล ขอให้นายเอกชัยช่วยติดต่อคนใหญ่คนโตเพื่อให้สามารถเปิดบ่อนได้ หลังจากนั้นนายเอกชัยได้ไปดำเนินการ กระทั่งมายืนยันกับนายวิศิษฏ์ว่าเปิดบ่อนได้แล้ว ผู้ใหญ่จะช่วยเหลือทั้ง 2 คน จึงนัดส่งมอบเงิน 5 ล้านบาทที่คริสตัล ปาร์ค
ส่วนนายเอกชัยกล่าวว่ารู้จักกับนายวิศิษฏ์ในฐานะเพื่อนทางธุรกิจตั้งแต่ปี 2555 โดยได้ช่วยเหลือด้านการเงินกันมาตลอด โดยครั้งสุดท้ายนายวิศิษฏ์ยืมเงินตน 5 ล้านบาท กระทั่งปี 2557 นายวิศิษฏ์บอกว่าอยากจะเปิดบ่อนและขอให้ตนช่วยคุยกับผู้ใหญ่ ตนรู้อยู่แล้วว่าคงไม่สามารถเปิดได้ แต่เนื่องจากอยากได้เงิน 5 ล้านบาทคืน จึงบอกไปว่าสามารถเคลียร์ได้แล้ว ต่อมาวันที่ 19 มิ.ย.ทหารและตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุมบ่อนนัมเบอร์วัน ตนจึงถูก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. เชิญเข้าให้ปากคำแล้วกักตัวไว้ 59 วันจึงได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ให้ตนให้สัมภาษณ์กับสื่อ อาจเป็นเพราะตนกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์เป็นญาติกัน คงไม่อยากให้มีการเชื่อมโยงถึงตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
“ผมขอยืนยันว่าบ่อนนี้มีแค่ผมกับนายวิศิษฏ์เท่านั้นที่รับรู้กัน ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับสถาบันเบื้องสูง แค่เพียงว่าผมรู้จักกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์เท่านั้น แต่ขณะดำเนินการเรื่องบ่อนผมก็ไม่เคยไปบอก ไปพูดคุย หรือขอความช่วยเหลือ ผมอยากบอกกับทุกคนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวผมเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับครอบครัวหรือบุคคลอื่น ดังนั้นขออย่าไปว่าครอบครัวผม หรือคนใกล้ชิดผมเลย พวกเขาไม่รู้เรื่อง และผมก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งตำรวจในการดำเนินคดีด้วย”
ขณะที่นายวิศิษฏ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนต้องการเปิดบ่อนจึงปรึกษาเพื่อนนักธุรกิจด้วยกันซึ่งเป็นเจ้าของบ่อนอยู่ในเพชรบุรีซอย 5 แนะนำว่าให้ไปหานายตำรวจนายหนึ่ง ชื่อ พล.ต.ท.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ สามารถช่วยได้ แต่ก็ยังไม่เคยติดต่อไป กระทั่งปี 2557 จึงติดต่อไปยังนายเอกชัยว่าอยากเปิดบ่อน ขณะนั้นเป็นยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายเอกชัยอ้างว่ารู้จักกับนายทหารคนหนึ่งสามารถเคลียร์ให้ได้ โดยตนจะให้ค่าดำเนินการ 5 ล้านบาท ขอยืนยันว่านายเอกชัยไม่ได้อ้างชื่อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ แต่ต่อมานายเอกชัยบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว ตนจึงเริ่มสร้างบ่อนดังกล่าว
“ผมเคยขอเขาไปเจอนายทหารที่เขาอ้างว่ารู้จัก แต่เขาบอกว่าเดี๋ยวเคลียร์เอง ให้ผมรออยู่ที่บ้าน ต่อมาเขาก็กลับมาบอกว่าเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ผมก็ให้เงินเขาไป ก่อนหน้านี้ผมเคยเช่าโต๊ะเล่นการพนันในต่างจังหวัด แต่ไม่เคยทำในกรุงเทพฯ เพิ่งจะทำบ่อนนัมเบอร์วันเป็นบ่อนแรก”