xs
xsm
sm
md
lg

จับ “เอฟ” หลาน “พงศ์พัฒน์” อ้างเบื้องสูงวิ่งคดียาบ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 นายเอกชัย พลอยหิน หรือเอฟ ผู้ต้องหาตามหมายจับแอบอ้างเบื้องสูง วิ่งเต้นคดียาบ้าเรียกรับเงิน 1.3 ล้านบาท
กองปราบรวบ เอฟ พลอยหิน หลานอดีต ผบช.ก. ฐานแอบอ้างเบื้องสูง รีดทรัพย์เหยื่อวิ่งเต้นคดียาบ้า 1.3 ล้านบาท ทั้งนี้ เคยแสดงตนเป็นคนกลาง เพื่อเปิดบ่อน “นัมเบอร์วัน” เมื่อปี 57 พร้อมทั้งนำตัวไปค้นบ้านพักที่ ต.วัดเพลง และบ้านสวนส้มทิพย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ราชบุรี ต่อไป



วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท. จอม สิงห์น้อย สว.กก.3 บก.ป. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเอกชัย พลอยหิน หรือ เอฟ ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง, ฉ้อโกง และเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนหรือจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตน ให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 341 และ 143

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) นายบันเทิง เนมีแสน อายุ 73 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อัคราเดช เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเอกชัย กรณีที่ นายไพฑูรย์ เนมีแสน ลูกชายของ นายบันเทิง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแพ จ.ราชบุรี จับกุมยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ด เมื่อปี 2551 จากนั้นมีทหารคนหนึ่งมาแนะนำว่าผู้ต้องหาสามารถช่วยเหลือได้ เพราะเขารู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองแต่ต้องจ่ายเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท เป็นค่าดำเนินการ ต่อมาได้นัดจ่ายเงินกันที่โรงแรมโกลเด้นท์ซิตี้ จ.ราชบุรี กระทั่งผ่านไปนานลูกชายนายบันเทิงก็ถูกดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เมื่อทวงถาม นายเอกชัย จึงนัดส่งเงินคืนที่ร้านอาหารลมโชย จ.ราชบุรี แต่ก็คืนเพียง 2 แสนบาท โดยพวกนายบันเทิงไม่กล้าแจ้งความเอาผิด เนื่องจากเกรงกลัวอำนาจและบารมีของนายเอกชัย กระทั่งเห็นข่าวครอบครัวตระกูลสุวะดี ซึ่งเป็นเครือข่ายที่นายเอกชัยเคยอ้างว่าสนิทสนมนั้นถูกตำรวจจับกุมจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความ

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 พบว่าบ้านของ นายอภิรุจ สุวะดี (บิดาของคุณผู้หญิง บุษบา สุวะดี) ที่ จ.ราชบุรี และ บ้านสวนส้มทิพย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นของมารดานายเอกชัยนั้น อยู่ติดกัน จนทั้ง 2 บ้านมีความสนิทสนม นับถือกัน ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ กระทั่งนายเอกชัยใช้นำไปแอบอ้างดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมื่อปี 2557 นายเอกชัย เคยเป็นคนกลางรับเงินวิ่งเต้นจาก นายวิศิษฎ์ สัจพจน์นุกูล เจ้าของเพื่อเปิดบ่อน “นัมเบอร์วัน” ย่านเหม่งจ๋าย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจเข้าจับกุมอีกด้วย ซึ่งขณะนั้นนายเอกชัยไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

ด้าน นายเอกชัย กล่าวว่า ตนรับสารภาพในข้อหาหลักในส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่ตนปฏิเสธนั้นขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งในส่วนของการอ้างถึงสถาบันฯ นั้น เป็นข้อมูลบางส่วนที่เกิดความผิดพลาด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำ และดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายไทยว่าจะได้รับความเป็นธรรม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์กับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. รวมทั้งคดี บ่อน “นัมเบอร์วัน” เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ปี 2557 นั้น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นผู้สอบปากคำนายเอกชัย ว่า เป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น นายเอกชัยกล่าวว่า ตนพอจะรู้จักกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ บ้าง แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์สนิทส่วนตัว และในส่วนของคดีบ่อนนั้น ไม่ได้เป็นการจัดฉาก ตนเพียงแต่ถูกเชิญไปให้ข้อมูลเท่านั้น ซึ่งเมื่อหลังจากวันดังกล่าว ตนก็ไม่ได้ถูกเรียกไปสอบปากคำใดๆ อีก

เมื่อถามว่านอกจากนายบันเทิงแล้ว มีใครอีกบ้างที่นายเอกชัยอ้างว่าจะสามารถช่วยวิ่งเต้นล้มคดีได้ นายเอกชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้วิ่งเต้นเพื่อสู้คดี แต่ตนเพียงวิ่งเต้นเพื่อช่วยประกันตัวออกมาเท่านั้น ในส่วนของการสู้คดีนั้น เป็นเรื่องที่เขาต้องไปสู้กันเอง แต่อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมที่คิดว่าติดต่อทนายแล้วจะสามารถวิ่งเต้นช่วยประกันตัวได้

เมื่อถามว่าสำหรับเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท ที่ได้จากนายบันเทิงนั้น นายเอกชัย นำไปแบ่งให้กับบุคคลใดบ้าง นายเอกชัย กล่าวว่า ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สอบปากคำ และดำเนินการต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบ นำตัวนายเอกชัย เข้าตรวจรีสอร์ตและบ้านพักในจังหวัดราชบุรี จำนวน 2 จุด

จุดแรกเข้าตรวจค้นที่บ้านพักของนายเอกชัยภายในบ้านสวนส้ม รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี
จุดที่สองเข้าตรวจค้นบ้านพักของนางพรทิพย์ พลอยหิน มารดานายเอกชัย ที่อยู่ด้านหลังครัวบ้านสวนส้มทิพย์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านสวนส้ม รีสอร์ท แอนด์ สปา

พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.จว.ราชบุรี กล่าวว่า จากการตรวจค้นพบปืนยาว 2 กระบอก และปืนสั้น 3 กระบอก พร้อมเอกสารอนุญาตครอบครองปืน และเอกสารเกี่ยวกับที่ดินและเอกสารทางการศึกษา โดยนายเอกชัยอ้างว่าปืนเป็นของคนรู้จักที่จำนำไว้กับตนเองเท่านั้น หลังจากนี่เจ้าหน้าที่จะนำเอกสารที่ได้ทั้งหมดไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ เบื้องแจ้งข้อหาแก่นายเอกชัยเพิ่มเติมในข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกับคดีแอบอ้างสถาบันของกองบังคับการปราบปราม

ทั้งนี้ หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกจะดำเนินตามขั้นตอน ส่วนนายเอกชัยเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนนำตัวฝากขังศาลอาญารัชดาภิเษกในวันพรุ่งนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น