ฝากขัง 2 นายตำรวจกองปราบฯ คดีเรียกรับสินบนบ่อนพนันออนไลน์ ขณะที่ญาติได้ยื่นประกันสู้คดี ล่าสุดศาลให้ประกันชี้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง เชื่อไม่มีเจตนาหลบหนีและจะไม่ไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (5 ม.ค.) ร.ต.ท.บรรยงค์ แดงเรือง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป.อายุ 45 ปี และ พ.ต.ต.จักรพันธ์ ลีลานันทวงศ์ อายุ 31 ปี สว.กก.1 บก.ป.ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ตามหมายจับศาลอาญา คดีร่วมกันเรียกรับส่วยบ่อนพนันออนไลน์อาบูบาก้า มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-16 ม.ค. 2558 เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอื่นอีก 20 ปากและรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากรรวมทั้งผลตรวจสอบการดำเนินการทางบัญชีออมทรัพย์ของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนยังได้ยื่นคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วยเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และอยู่ในความสนใจของประชาชน เกรงว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า พ.ต.อ.วัชรพล ผู้ต้องหาที่ 1 และ พ.ต.ต.จักรพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นพนักงานสอบสวนในชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้จัดให้มีการเล่นพนันและผู้เล่น โดยชุดปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มีคำสั่งแต่งตั้งออกสืบสวนจับกุมขบวนการลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอลต่างประเทศและการพนันออนไลน์ซึ่งมี พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแล ซึ่งในทางปฏิบัติตามปกติการสืบสวนจะเริ่มจากฝ่ายสืบสวนค้นหาเป้าหมายที่มีการลักลอบเล่นพนัน ก่อนจะให้มีการเข้าตรวจค้นยึดเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อนำไปตรวจข้อมูลรายชื่อบัญชีเจ้ามือรับแทงและผู้เล่น จากนั้นจึงจะให้อายัดบัญชีแล้วเรียกเจ้าของบัญชีมาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนที่จะนำตัวผู้กระทำผิดเหล่านั้นไปฟ้องต่อศาล แต่กรณีนี้กลับพบว่ามีการปฏิบัติหน้าที่ไม่ปกติส่อไปในทางเรียกรับผลประโยชน์ โดยเมื่อ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี ที่เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการฯจะเรียกเจ้าของบัญชีมาพบแล้วเรียกรับผลประโยชน์แลกกับการถอนอายัดบัญชี และเมื่อมีการตกลงเรียบร้อยแล้วก็จะรายงานให้ พล.ต.ต.โกวิทย์ทราบ จากนั้นจะให้นายวิฑูรย์ ตระการพฤกษ์ เลขานุการส่วนตัวนำคำสั่งถอนอายัดบัญชี แจ้งไปยัง พ.ต.อ.วรพจน์ พืชผล ซึ่งดูแลเรื่องกฎหมายและกระบวนการอายัดรวมทั้งถอนบัญชี เพื่อจะร่างหนังสือแจ้งรายชื่อบัญชีที่จะถอนอายัดแล้วส่งไปให้ ร.ต.อ.นิธิพัฒน์ กังรวมบุตร หรือพนักงานสอบสวนคนอื่น เพื่อนำคำสั่งแจ้งถอนอายัดบัญชีไปให้ธนาคาร และเมื่อ พ.ต.อ.วรพจน์ได้รับผลประโยชน์ตามที่เรียกร้องจากผู้กระทำผิดตามต้องการแล้วก็จะเสนอให้ปลดอายัดบัญชี โดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โดยการแจ้งพฤติกรรมกระทำผิดของผู้ที่ถูกอายัดบัญชีว่าจะมีความผิดฐานใด พ.ต.ท.ทรงรักษ์น่าจะปรึกษากับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพล.ต.ต.โกวิทย์ พฤติการณ์กระทำของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กับพวกน่าเชื่อได้ว่ารับเงินไปมากกว่า 150 ล้านบาท
โดยกรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินดำเนินคดีต่อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กับพวก ซึ่งศาลอาญาได้ออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กับพวกรวม 14 คน ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้เข้ามอบตัวซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับทรัพย์สินหรือประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 ขณะที่ชั้นสอบสวนผู้ต้องทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง
ภายหลังญาติของผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นตำแหน่งราชการและโฉนดที่ดินเพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันหรือไม่
ศาลอาญาได้พิจารณาคำร้องแล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ด้วยตัวเอง เชื่อว่าไม่มีเจตนาหลบหนี อีกทั้งผู้ต้องหาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยศาลตีราคาประกันตัว พ.ต.อ.วัชรพล ซึ่งใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินเนื้อที่ 66 ตารางวา ย่านปทุมธานี มูลค่า 1,156,000 บาท และตีราคาประกัน พ.ต.ต.จักรพันธ์ เป็นเงินสด 600,000 บาท