ผู้เสียหายแจ้งกองปราบฯ ช่วยจับครูแสบหลอกซื้อดาวน์รถกระบะไปขนยาเสพติด และขับแหกด่านพุ่งชนตำรวจเสียชีวิต โดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. น.ส.พรณิภา พระสว่าง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310 ม.2 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วย น.ส.นัฐรดา ไชยนิมิตร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.5 ต.ส่องดาว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ตุ้มเล็กเตชาวุฒิ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุม นางนงลักษณ์ วัฒนะกุระ อายุ 54 ปี อาชีพข้าราชการครู อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.6 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ลงวันที่ 7 พ.ย. 2556 ข้อหาลักทรัพย์ โดยใช้อุบายหรือกลอุบาย
น.ส.พรณิภาให้การว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ตนได้ไปดาวน์รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บก 7198 อุดรธานี มาในราคา 1.2 แสนบาท จากนั้นก็มีนายหน้าซึ่งเป็นคนรู้จักในหมู่บ้านมาบอกว่ามีครูคนหนึ่งใน จ.สกลนคร รับซื้อรถกระบะให้ราคาดี ตนเห็นว่าช่วงหลังตนผ่อนไม่ค่อยไหวจึงตอบตกลงและนัดดูรถกันในวันที่ 16 มิถุนายน จากนั้นนางนงลักษณ์ได้พาลูกน้องมาดูรถกระบะที่บ้าน ก่อนตกลงขายดาวน์ในราคา 5 หมื่นบาท ให้เขาไปผ่อนต่อกับไฟแนนซ์เองโดยยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองเนื่องจากประมาทเองเพราะเห็นบัตรข้าราชการครูจึงเกิดความเชื่อใจ จากนั้นทราบว่าเขาไม่ได้ผ่อนค่างวดกับบริษัทไฟแนนซ์แม่แต่สักงวดเดียว ทำให้ตนถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้องจนแพ้คดี จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนางนงลักษณ์ที่ สภ.ตาดโดน กระทั่งศาลออกหมายจับ
น.ส.พรณิภากล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2557 ทราบข่าวว่ารถกระบะของตนที่ถูกนางนงลักษณ์หลอกซื้อไปได้ถูกคนร้ายนำไปใช้ขนยาบ้าแหกด่านพุ่งชน พ.ต.ท.เลอศักดิ์ วงค์คำ สว.สส.สภ.คำชะอี จนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณปากทางเข้าถนนสายมุกดาหาร อ.หนองสูง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพฤติกรรมทำให้ทราบว่านางนงลักษณ์มักให้นายหน้าไปหลอกซื้อเช่ารถตามภาคอีสานทั้ง จ.อุดรธานี จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคาย ก่อนนำรถไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายทั้งขนยาเสพติด ขนไม้พะยูง ขนของหนีภาษี และขนต่างด้าว เบื้องต้นมีเจ้าทุกข์ 16 รายที่เข้าแจ้งความ เชื่อว่ายังมีอีกหลายรายที่ถูกนางนงลักษณ์หลอกลวงในลักษณะดังกล่าว
ด้าน น.ส.นัฐรดากล่าวว่า ตนดาวน์รถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน กน 6182 อุดรธานี มา 1.5 แสน จากนั้นนางนงลักษณ์ให้นายหน้ามาขอซื้อดาวน์ในราคา 7 หมื่นบาท กระทั่งมาถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้องเนื่องจากไม่มีการจ่ายเงินค่างวดจึงต้องชดใช้ให้กับบริษัทไฟแนนซ์ ต่อมาทราบว่ารถที่เขามาหลอกซื้อไปนั้นได้ถูกนำไปขายในลาว หากอยากได้คืนก็ต้องจ่ายเงินค่าไถ่จำนวน 5 หมื่นบาท ทั้งนี้อยากให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยติดตามจับกุมตัวนางนงลักษณ์มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะขณะนี้ทราบมาว่าเขายังไปหลอกลวงคนอื่นๆ อีกหลายราย แถมยังโพสต์โชว์ทรัพย์สินในเฟซบุ๊กให้พวกตนเจ็บใจอีกด้วย
ด้าน ร.ต.อ.ธนเสฏฐ์กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.ช่วยเร่งติดตามจับกุมนางนงลักษณ์มาดำเนินคดีต่อไป